เมืองอู่ฮั่น ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ต้นตอของโรคระบาด “COVID-19” เป็นเมืองที่แทบจะเรียกว่าเป็นศูนย์กลางของการผลิตชิ้นส่วนที่ใช้ในการประกอบรถยนต์ โดยเฉพาะชิ้นส่วนขนาดเล็ก ทำให้โรงงานประกอบรถยนต์หลายแห่งต้องวุ่นวายจัดหาชิ้นส่วนจากแหล่งอื่นมาดูกันว่า ใครเป็นใครในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่โดนผลกระทบจากไวรัสมรณะนี้กันบ้าง เริ่มจากโรงงาน ฮันเด มอเตอร์ ในเมืองอุลซาน ประเทศเกาหลีใต้ ต้องหยุดสายการผลิตเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 สืบเนื่องจากมีพนักงานมีผลการตรวจเป็นบวกจากเชื้อไวรัส ทำให้ต้องหยุดสายการผลิต แต่ยังไม่ระบุว่า จะสามารถกลับมาเริ่มดำเนินการผลิตได้อีกเมื่อไร กลุ่มพีเอสเอ และเรอโนลต์ โดยโรงงานของกลุ่มพีเอสเอ ที่เป็นพันธมิตรกับ ตงฟง มอเตอร์ ในเมืองอู่ฮั่น ต้องหยุดสายการผลิต และคอยให้รัฐบาลจีน ตัดสินใจว่าจะให้สามารถทำการผลิตใหม่ได้เมื่อใด ค่ายเจเนอรัล มอเตอร์ส ออกแถลง การณ์ว่า ยังไม่มีกำหนดการเริ่มสายการผลิตอีกครั้งในจีน ทั้งนี้เพราะสถานการณ์ยังไม่มีความปลอดภัยเพียงพอ แต่ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบไปถึงโรงงานในสหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน เพราะสามารถจัดหาชิ้นส่วนจากแหล่งอื่น ที่ไม่ใช่จีน โรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วน เดนโซ ในประเทศสเปน ประกาศว่า อาจต้องหยุดการผลิตชิ้นส่วนอีเลคทรอนิคส์บางอย่าง เพราะผู้ผลิตชิ้นส่วนในจีน ไม่สามารถจัดส่งชิ้นส่วนให้ได้ แอพทีฟ (APTIV) ผู้ผลิตชิ้นส่วนอีกราย รายงานตลาดหลักทรัพย์ว่า ผลจาก “COVID-19” จะกระเทือนผลกำไร ราว 150-200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4,500-6,000 ล้านบาท และรายได้จากการดำเนินงานประมาณ 60-80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,800-2,400 ล้านบาท เอเดียนท์ (ADIENT) ผู้ผลิตเบาะนั่งในรถยนต์ รายงานตลาดหลัก ทรัพย์ เรื่องเตรียมปรับประมาณการรายได้ก่อนหักภาษี และค่าใช้จ่าย ที่จะขาดหายไปราว 870-910 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 26,100-27,300 ล้านบาท เพราะยังไม่สามารถประเมินได้ว่า จะสามารถกลับมาเริ่มสายการผลิตได้เต็มกำลังเมื่อใด รวมทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่จะเกิดผลกระทบแก่พนักงาน ผู้ร่วมค้า และผู้จัดหาชิ้นส่วน ที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกับบริษัทฯ ที่ยังไม่สามารถประเมินเป็นตัวเงินได้ เทนเนโค (TENNECO) ผู้ผลิตชิ้นส่วนอีกราย แถลงว่า ผลจาก “COVID-19” มีผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทฯ ราว 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4,500 ล้านบาท ในไตรมาสแรก ซึ่งทำให้ต้องปรับปริมาณการผลกำไรในช่วงปลายปี เช่นเดียวกับผู้ผลิตชิ้นส่วน วิสตีออน (VISTEON) แจ้งนักลงทุนว่า จะสูญเสียรายได้จากการขายราว 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,800 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปีนี้ สำนักวิเคราะห์ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ แอลเอมซี ระบุว่า ผลกระทบจาก “COVID-19” จะทำให้ยอดการผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก ลดลงราว 3-4 ล้านคัน จากที่เคยขายได้ราว 90 ล้านคันทั่วโลก ในปี 2562