4 WHEELS สัมภาษณ์ "เจมส์" รัชชานันท์ แมทิส ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท วีว่า เอนเนอเจียร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ บแรนด์ REPSOL ถึงความท้าทายในการทำตลาดท่ามกลางวิกฤต COVID-19"ปี 2020 เป็นปีที่ท้าทายมากสำหรับวงการน้ำมันหล่อลื่น จากวิกฤตโรคระบาด COVID-19 แต่ก็ยังมีข้อดีอยู่บ้าง คือ ราคาน้ำมันในตลาดโลกตกลง และธุรกิจเดลิเวอรีบูมขึ้นมาก ทั้งน้ำมันเครื่อง และน้ำมันใส จึงยังจำหน่ายได้ตามปกติ REPSOL มีฐานการผลิตอยู่ 44 แห่งทั่วโลก ดังนั้น ไม่ว่ามุมใดมุมหนึ่งของโลกจะประสบปัญหา ก็ไม่ทำให้สินค้าของเราขาดตลาด แต่ในช่วงแรกๆ ก็ได้รับผลกระทบ ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อ เพราะตกใจ หรืออยากเก็บเงินสดไว้กับตัวเอง เราจึงจับมือคู่ค้า และลูกค้าเพื่อฝ่าวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นการขยายเครดิทให้คู่ค้า และทำพโรโมชันมากกว่าที่เคยทำมาในรอบ 5 ปี ให้แก่ลูกค้า โชคดีของ REPSOL THAILAND ที่ได้คู่ค้าที่เก่งในการกระจายสินค้าประเภทรถกระบะ นั่นคือ AUTOCORP ที่เข้ามากระจายสินค้าให้เราในเมืองไทย ทำให้ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้ารถยนต์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับรถจักรยานยนต์ เราจำหน่ายผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยมีศูนย์กระจายสินค้าแต่ละภาคอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ ซึ่งบริษัทฯ จะส่งพนักงานขายไปสนับสนุนการขายในพื้นที่ด้วย ประเทศไทยได้รับสิทธิ์ในการผลิตและส่งออกน้ำมันหล่อลื่นไปทั่วโลก สำหรับ รุ่น COMMONRAIL 10W-30 ขนาด 7 ลิตร โดยเราเป็นประเทศเดียวที่มีแกลลอน 7 ลิตร ส่งออกไปยังอินโดนีเซีย มาเลเซีย ตะวันออกกลาง และ ออสเตรเลีย น้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ เราผลิต รุ่น MATIC SINTETICO 4T สำหรับรถสกูเตอร์ และรถเกียร์ออโทเมทิค เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสสินค้าบแรนด์ระดับเวิร์ลด์คลาสส์ที่มีราคาย่อมเยา เพราะถึงจะผลิตในประเทศไทย แต่น้ำมันทุกขวดต้องผ่านห้องทดลองของ REPSOL ที่ประเทศสเปน ไม่ว่าจะเป็น แพคเกจ ฝา ฉลาก เนื้อน้ำมัน สารเติมแต่งคุณภาพ หรือแม้กระทั่งตัวโรงงานเอง ก็ต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากบริษัทแม่ ดังนั้น ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าน้ำมัน REPSOL ที่ผลิตในประเทศไทยจะมีคุณภาพแบบเดียวกับที่ผลิตจากโรงงาน REPSOL ทั่วโลก ปัจจุบัน REPSOL THAILAND ได้ย้ายสำนักงานเดิมที่เขตประเวศ มาอยู่ที่ซอยรางน้ำ เนื่องจากบริษัทฯ เติบโตขึ้น จำเป็นต้องหาแวร์เฮาส์ที่มีศักยภาพในการรองรับน้ำมันจำนวนมาก เพราะเราต้องมีสตอคน้ำมันไว้ให้เพียงพอสำหรับจัดจำหน่ายได้ตลอด โดยที่ใหม่เก็บน้ำมันได้ประมาณ 3 ล้านลิตร ส่วนที่เดิมเก็บได้ไม่กี่หมื่นลิตร ขณะเดียวกันสำนักงานอยู่ใจกลางเมืองใกล้รถไฟฟ้า ทำให้การคมนาคมสะดวกขึ้น ในปี 2564 บริษัทแม่มีแผนลงทุนด้านการตลาดทุกมิติในประเทศไทย เพื่อที่จะไปให้ถึงเป้าหมายยอดขาย 4,000 ตัน/ปี และก้าวไปให้ถึง 8,000 ตัน/ปี ภายในปี 2566 หวังว่าในปีหน้า ประเทศไทยจะสามารถจัด MOTO GP 2021 ได้ เพื่อกระตุ้นให้ตลาดกลับมาคึกคักอีกครั้ง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนในการหาพาร์ทเนอร์มาร่วมธุรกิจ เริ่มจาก คาร์แคร์ พโรดัคท์ ภายใต้บแรนด์ REPSOL ซึ่งตอนนี้มีการเซ็นสัญญา กับ WE LOVE SHOPPING ของกลุ่มทรู ให้เป็นช่องทางในการจัดจำหน่าย เป้าหมายของเรา คือ เจาะกลุ่มผู้ใช้โดยตรง เพราะลูกค้าสามารถนำสินค้าของเราไปใช้ได้เองที่บ้าน"