ในช่วงเวลานี้ (และคงต่อไปอีกนาน) ตำแหน่ง “ซูเพอร์สตาร์” หนึ่งเดียวแห่งวงการรถยนต์โลกจะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจาก เอลอน มัสค์ (ELON MUSK) ซีอีโอบริษัทรถยนต์ TESLA (เทสลา) และบริษัทขนส่งอวกาศ SPACEX (สเปศเอกซ์)จริงๆ แล้ว ผมไม่ค่อยชอบหมอนี่สักเท่าไร พอๆ กับที่รู้สึกเหม็นหน้าซูเพอร์สตาร์ แห่งโลกออนไลน์อย่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก แต่ขณะเดียวกัน ก็ทึ่งในความกล้า (หรือความบ้า !) ความคิดสร้างสรรค์ และวิสัยทัศน์ของพวกเขา ซึ่งหาได้ยากในมนุษย์ทั่วไป สำหรับ เอลอน มัสค์ ถึงจะพูดจาไม่ค่อยเข้าหูชาวบ้าน แต่ต้องยอมรับว่า วิสัยทัศน์เรื่องรถพลังไฟฟ้า และผลงานการสร้างสรรค์รถยนต์ TESLA ของเขาได้เปลี่ยน-แปลงอุตสาหกรรมรถยนต์โลกไปตลอดกาล และทำให้ปัจจุบัน TESLA กลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก แซงหน้ายักษ์ใหญ่ที่อยู่ในวงการมายาวนาน ทั้งที่เพิ่งถือกำเนิดมาไม่ถึง 20 ปี ล่าสุด หนุ่มใหญ่เชื้อชาติแอฟริกาใต้ สัญชาติอเมริกันคนนี้ ยังได้รับการจัดอันดับเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอีกด้วย โดยมีทรัพย์สินราว 5.7 ล้านล้านบาท เฉือน เจฟฟ์ เบโซส เจ้าของเวบไซท์ AMAZON ที่ครองตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2017 ไปราว 30,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ธุรกิจของ เอลอน มัสค์ ไม่ได้ราบรื่นแต่แรกเริ่ม ตรงกันข้าม กลับล้มเหลวในหลายเรื่องมาเป็นระยะๆ เช่นรถ TESLA กว่าจะออกจำหน่ายได้จริงจัง ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ทั้งด้านเทคโนโลยี และการผลิต ส่วนโครงการ SPACEX ที่มีเป้าหมายจะพาคนขึ้นไปท่องเที่ยวในอวกาศ ก็เกิดความผิดพลาดในการปล่อยจรวดถึง 3 ครั้ง ก่อนจะประสบผลสำเร็จในครั้งที่ 4 สรุป คือ เอลอน มัสค์ เป็นพวกขี้โม้ที่เอาจริง และเก่งจริง ทำให้มีทั้งคนรัก และเกลียดเขามากมาย โดยพวกที่รักก็อาการหนักเข้าขั้นคลั่งไคล้กันเลยทีเดียว สาวกเหล่านี้ซื้อ TESLA เพราะชอบ เอลอน มัสค์ เหมือนพวกที่ซื้อไอโฟนเพราะศรัทธา สตีฟ จอบส์ ขณะที่พวกปากบอกเกลียด เอาจริงๆ ก็แค่หมั่นไส้ ในความมั่นหน้ามั่นโหนกของเขาเท่านั้น อย่างผมเป็นต้น ! แต่ไหนๆ ก็หมั่นไส้กันแล้ว ขอปิดท้ายด้วย “จุดอ่อน” ของ TESLA ที่มีคนวิเคราะห์ว่า เป็นเหตุผลที่ทำให้รถยี่ห้อนี้ยังไม่ฮิทเท่าที่ควรในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้แก่ 1) การขายผ่านออนไลน์เท่านั้น คนอเมริกันเหมือนคนไทย คือ ชอบดู (เคาะ ?) และทดลองขับก่อนซื้อรถ 2) ค่าซ่อมตัวถังแพง (มาก) 3) ฝีมือประกอบตัวถังค่อนข้างแย่ เรื่องนี้ คนไทยเจ้าของ TESLA ก็ยืนยันตรงกัน 4) สถานีชาร์จไฟ ยังมีน้อย ที่สหรัฐฯ นะครับ บ้านเราไม่ต้องพูดถึง (ขอบคุณเพจ BLINK DRIVE) เพราะฉะนั้น ถ้ามีโอกาสเจอ เอลอน มัสค์ ตัวเป็นๆ ผมจะบอกเขาด้วยความหมั่นไส้ว่า “เบาได้เบาหน่อยโว้ย !”