| ตลาดโดยรวม | -23.0 % |
| รถยนต์นั่ง | -46.9 % |
| รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) | +25.7 % |
| กระบะ 1 ตัน | -9.6 % |
| รถเพื่อการพาณิชย์ | -9.4 % |
สำหรับรถพิคอัพ 1 ตัน เปิดหัวปี 2564 ยังคงเป็นพิคอัพตระกูล D-MAX (ดี-แมกซ์) ของ ISUZU ที่ยังครองความเป็นหนึ่งในหัวใจผู้ใช้รถพิคอัพเพื่อทำมาหากินอยู่เหมือนเดิม โดยเดือนแรกของปี ISUZU ออกสตาร์ทนำโด่งออกไปที่ 14,198 คัน ปาดส่วนแบ่งการตลาดไปครองถึง 47.2 % และยังมีการเติบโตทางด้านตัวเลขยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น 6.1 % เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2563 พิคอัพมหาชนอันดับ 2 ยังคงเป็นตระกูล REVO (รีโว) ของ TOYOTA มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 10,494 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 34.9 % เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2563 แล้วตัวเลขยอดจำหน่ายนี้น้อยลงกว่าที่เคยทำได้ 11.0 % อันดับ 3 กลับมาอีกครั้งกับพิคอัพ RANGER (เรนเจอร์) ของค่าย FORD (ฟอร์ด) เดือนมกราคมนี้ทำยอดจำหน่ายได้ 2,305 คัน มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 7.7 % เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ปรับตัวเพิ่มมากขึ้น 8.0 % อันดับ 4 เป็นพิคอัพ TRITON (ทไรทัน) ของ MITSUBISHI มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 1,954 คัน ส่วนแบ่งการตลาดได้ไป 6.5 % เป็นยอดจำหน่ายที่ลดลง 42.5 % และอันดับที่ 5 สายพันธุ์ NAVARA (นาวารา) ของ NISSAN ยอดจำหน่าย 522 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 1.7 % เป็นยอดจำหน่ายที่ลดลงถึง 66.9 % อย่างไรก็ตาม คาดว่าตัวเลขยอดจำหน่ายของ NISSAN จะขยับปรับตัวเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ NISSAN NAVARA ใหม่ บุกตลาดอย่างเต็มกำลัง ทั้งนี้พิคอัพ 1 ตัน ตัวเลขยอดจำหน่ายรวมทั้งตลาดของเดือนมกราคม 2564 อยู่ที่ 30,107 คัน ลดลง 9.6 % เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2563
ทางด้านของรถเอสยูวี หรือรถกิจกรรมกลางแจ้ง เปิดหัวปี 2564 ได้อย่างแจ่ม ภาพรวมของทั้งตลาดปรับตัวไปในทิศทางที่ดี สวนกระแสกำลังซื้อถดถอยจากพิษ COVID-19 ทั้งตลาดมียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 6,050 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2563 ถึง 25.7 % TOYOTA ออกสตาร์ทเป็นผู้นำตลาดอีกครั้งด้วยยอดจำหน่ายรวม 1,682 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 27.8 % เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้นถึง 244.7 % ตามด้วยเอสยูวีของ MG (เอมจี) จำหน่ายได้รวม 1,443 คัน รับส่วนแบ่งการตลาดไป 23.9 % เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น 10.2 % ตามด้วย MAZDA ทุกโมเดลรุ่นจำหน่ายรวมกันได้ 1,149 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 19.0 % เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น 99.8 % และเอสยูวีค่าย HONDA จำหน่ายได้รวม 1,131 คัน ส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 18.7 % น่าเสียดายที่ตัวเลขยอดจำหน่ายนี้ต่างจากตัวเลขยอดจำหน่ายเดือนมกราคม 2563 ถึง 41.4 % ปิดท้ายด้วยรถเอสยูวีของ SUBARU (ซูบารุ) อยู่ในอันดับที่ 5 ด้วยยอดจำหน่าย 356 คัน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 5.9 % เพิ่มขึ้น 86.4 %
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ ยกเว้นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เดือนมกราคม 2564 มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 2,947 คัน ลดลง 9.4 % ขณะที่เดือนมกราคม 2564 มียอดจดทะเบียนรถพิคอัพ 1 ตัน และรถยนต์ SUV รวมกัน 54,249 คัน เพิ่มขึ้น 3.0 % เมื่อเทียบกับมกราคม ปี 2563 
