ตลาดโดยรวม | + 33.0 % |
รถยนต์นั่ง | + 45.8 % |
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) | + 29.6 % |
กระบะ 1 ตัน | + 6.5 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | + 200.2 % |
ตลาดโดยรวม | - 3.0 % |
รถยนต์นั่ง | - 16.7 % |
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) | + 30.0 % |
กระบะ 1 ตัน | - 3.5 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | + 62.8 % |
อุตสาหกรรมรถยนต์บ้านเรา เดือนมีนาคมที่ผ่านมา สามารถทำการผลิตรถยนต์ได้ 162,515 คัน เพิ่มขึ้น 10.70 % ด้วยมาตรการของรัฐบาลกระตุ้นกำลังซื้อด้วย “คนละครึ่ง” “ม.33 เรารักกัน” อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคายางพารายังดีอยู่ ทำให้ยอดรวมของเดือนมกราคม-มีนาคม สามารถทำยอดขาย 194,137 คัน ลดลงเพียง 3.0 %ขณะเดียวกัน การสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมีนาคม 2564 อยู่ที่ระดับ 87.3 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 85.1 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นเพราะการผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย และการบริโภคในประเทศ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการเร่งผลิตสินค้าก่อนวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ตาม ด้านการส่งออกมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัว โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้ายานยนต์ และชิ้นส่วนฯ เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ และน้ำมันสำเร็จรูป นอกจากนี้ ความคืบหน้าเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนในหลายประเทศ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อาทิ สหรัฐฯ จีน และยุโรป ช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจโลกมีทิศทางที่ดีขึ้น ก็ต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจโลก มีผลกระทบกับบ้านเราค่อนข้างมาก เพราะเมื่อเศรษฐกิจโลก กลับมาเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับเราสามารถส่งออกได้ 104,506 คัน เพิ่มขึ้น 16.38 % สูงสุดในรอบ 24 เดือน จากเศรษฐกิจ และยอดขายรถยนต์ของประเทศคู่ค้าในเดือนมีนาคมเติบโตขึ้น อาทิ ออสเตรเลีย เติบโต 22 % นิวซีแลนด์ 86 % เวียดนาม 58 % อินโดนีเซีย 10 % มาเลเซีย 200 % ยุโรป 87 % เพราะปีที่แล้วยอดขายรถยนต์ในยุโรปต่ำที่สุดในรอบ 30 กว่าปี ทำให้ประเทศไทยส่งออกรถยนต์ไปในตลาดออสเตรเลีย และโอเชียเนีย เพิ่มขึ้น 48.16 %