เป็นรถอนุกรมใหม่ที่ไม่ได้ออกแบบ/พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่เป็นผลลัพธ์ของการพัฒนาต่อกิ่งต่อยอดจากรถ CHEVROLET BOLT EV ที่เพิ่งผ่านตาไป โดยมีจุดหมายเพื่อให้เปลี่ยนรูปลักษณ์จากรถเก๋งแฮทช์แบคหลังคาสูง เป็นรถเก๋งที่ให้ความรู้สึกเหมือน SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างไรก็ตาม ค่ายนี้ยืนยันว่า ตัวถังยาว 4.306 ม. กว้าง 1.770 ม. และสูง 1.616 ม. ของรถแบบใหม่นี้ ไม่มีชิ้นส่วนโลหะของตัวถังภายนอกชิ้นใดเลยที่สลับสับเปลี่ยนกันได้กับรถซึ่งเป็นที่มา
เมื่อนำ CHEVROLET BOLT EUV กับ CHEVROLET BOLT EV มาจอดประกบกันใกล้ๆ ก็จะเห็นว่า ความแตกต่างที่มองเห็นจากภายนอกมีอยู่มากมาย ตัวอย่าง คือ แผงกระจังหน้า ดวงโคมไฟหน้า ดวงโคมไฟท้าย และเส้นสายตัวถังโดยเฉพาะเส้นสะเอวเมื่อมองจากด้านข้างตรงๆ แต่เมื่อก้าวเข้าไปในห้องโดยสารที่นั่งได้รวม 5 คน และเจ้าของเครื่องหมายการค้า ”โบว์ไทสีแดง” ยืนยันว่า มีพื้นที่กว้างขวางกว่า และขยับแข้งขยับขาได้สะดวกกว่า กลับพบว่าความแตกต่างที่เห็นได้ชัดมีอยู่ไม่มาก แม้แต่แผงหน้าปัดอุปกรณ์ และพวงมาลัย ดูเผินๆ ก็เหมือนกันไปหมด ต้องสังเกตกันอย่างจริงๆ จังๆ นั่นแหละจึงจะเห็นจุดแตกต่างซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อย
ติดตั้งระบบขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ชุดเดียวกันกับรถซึ่งเป็นที่มา คือ เป็นระบบขับล้อหน้าซึ่งใช้ PERMANENT MAGNET DRIVE MOTOR หรือมอเตอร์ไฟฟ้าแม่เหล็กถาวรขนาด 150 กิโลวัตต์/200 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับระบบเกียร์จังหวะเดียว และแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาดความจุ 65.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเมื่อชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน EPA (ENVIRONMENTAL PROTECTION AGENCY) หรือองค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา รถจะวิ่งได้ไกล 398 กม. เป็นแบทเตอรีซึ่งเมื่อชาร์จไฟนาน 1 ชม. ด้วยไฟบ้านซึ่งเป็นไฟกระแสสลับแรงดัน 120 โวลท์ รถจะวิ่งได้ไกล 4 ไมล์ (ประมาณ 6.4 กม.) และการชาร์จไฟเต็มด้วยไฟบ้านซึ่งเป็นไฟกระแสสลับแรงดัน 240 โวลท์ จะใช้เวลาประมาณ 7 ชม. ส่วนการชาร์จไฟแบบเร่งด่วนด้วยไฟกระแสตรงที่สถานีบริการ เมื่อชาร์จไฟนาน 30 นาที รถจะวิ่งได้ไกล 95 ไมล์ (ประมาณ 153 กม.)
ติดตั้งระบบรองรับ (กันสะเทือน) หน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท/เหล็กกันโคลง หลังคานบิด/สปริงขด ห้ามล้อหน้าเป็นจานรูขนาด 15/276 ห้ามล้อหลังเป็นจานขนาด 15/264 และใช้ล้อขนาด 17 นิ้ว ที่ไม่เคยพบมาก่อนในรถแบบใดของค่ายนี้เพราะเพิ่งนำมาใช้เป็นครั้งแรก คือ ระบบ SUPER CRUISE (ซูเพอร์ ครูซ) ซึ่งใช้ได้กับถนนบางช่วงบางตอนในสหรัฐอเมริกา และแคนาดา รวมระยะทางประมาณ 320,000 กม. เป็นเทคโนโลยีช่วยขับที่ทำให้รถวิ่งได้โดยผู้ขับไม่ต้องจับพวงมาลัย
และยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยอีกมากมายที่ทำให้รถพลังไฟฟ้าแบบนี้ไม่น้อยหน้ารถระดับเดียวกันแบบใดๆ ตัวอย่างเช่น AUTOMATIC EMERGENCY BRAKING ระบบห้ามล้อฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ FORWARD COLLISION ALERT ระบบเตือนเมื่ออาจเกิดการเฉี่ยวหรือชนด้านหน้า และ LANE DEPARTURE WARNING ระบบเตือนเมื่อรถจะวิ่งออกนอกลู่นอกทาง
มีกำหนดเริ่มจำหน่ายในฤดูร้อนของปี 2021 นี้ (ประมาณไตรมาส 3) ค่าตัว MSRP ซึ่งยังไม่รวมภาษีและยังไม่ได้หักเงินสนับสนุนการใช้รถไฟฟ้า เริ่มต้นที่ 33,995 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.12 ล้านบาทไทย
CHEVROLET BOLT EUV

