เป็นสปอร์ท ”ไฮเพอร์คาร์” ที่พัฒนาต่อกิ่งต่อยอดจากรถแนวคิด RIMAC C_TWO (รีแมค ซี_ทู) ซึ่งปรากฏตัวให้เห็นเป็นครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวาเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2018 รวมทั้งเป็นรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ที่แรงสุดๆ เร็วสุดๆ และสร้างสรรค์นวัตกรรมทางอากาศพลศาสตร์ไว้มากมายหลายรายการ เพื่อผลทางด้านการระบายความร้อน สมรรถนะการบังคับขับขี่ เสถียรภาพการทรงตัว ประสิทธิภาพโดยรวม ชื่อรุ่นของรถ คือ NEVERA มาจากชื่อคลื่นที่รุนแรงรวดเร็ว และเกิดขึ้นอย่างกระทันหันในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ตัวถัง 2 ที่นั่ง ซึ่งยาว 4.750 ม. กว้าง 1.986 ม. สูง 1.208 ม. มีช่วงฐานล้อยาว 2.745 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.30 เป็นผลลัพธ์ของการออกแบบ/พัฒนาด้วยเทคโนโลยีอันก้าวล้ำนำสมัย ส่วนของตัวรถที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า MONOCOQUE (โมโนคอค) ซึ่งรวมหลังคา กล่องบรรจุแบทเตอรี และโครงสร้างย่อยส่วนท้ายไว้ด้วยเป็นชิ้นเดียวกัน มีน้ำหนักไม่ถึง 200 กก. แต่ผู้ผลิตยืนยันว่า นี่คือ ชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่อุตสาหกรรมรถยนต์เคยทำ กับบอกด้วยว่าเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ใช้คาร์บอนไฟเบอร์ถึง 2,200 ชั้น และสอดแทรกด้วยอลูมิเนียม 222 ชิ้น ผลลัพธ์ในบั้นปลายก็คือ RIMAC NEVERA กลายเป็นรถยนต์นั่งที่มีโครงสร้างตัวถังแข็งแรงกว่ารถคันใดๆ ที่เคยสร้างในโลก !
เป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ซึ่งติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า PERMANENT MAGNET ELECTRIC MOTOR จำนวน 4 ชุด ได้กำลังรวมสูงสุด 1,408 กิโลวัตต์/1,914 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุด 2,360 นิวตัน-เมตร/240.7 กก.-ม. โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 220 กิโลวัตต์/299 แรงม้า จำนวน 2 ชุด และระบบเกียร์จังหวะเดียว 2 ชุด ขับล้อคู่หน้า กับใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 480 กิโลวัตต์/653 แรงม้า จำนวน 2 ชุด และระบบเกียร์จังหวะเดียว 2 ชุด ขับล้อคู่หลัง ส่วนอุปกรณ์ป้อนพลังไฟฟ้า เป็นแบทเตอรี LITHIUM MANGANESE NICKEL (ลิเธียม แมงกานีส นิคเคิล) ที่ค่ายนี้พัฒนาขึ้นเอง เป็นแบทเตอรีระบายความร้อนด้วยของเหลว แรงดัน 730 โวลท์ ขนาดความจุ 120 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้แก่โครงสร้างตัวถังถึงร้อยละ 37 (เพราะรวมเป็นชิ้นเดียวกันกับตัวถังดังที่กล่าวข้างต้น) และชาร์จไฟเต็มแต่ละครั้งรถจะวิ่งได้ไกลถึง 550 กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP การชาร์จไฟที่ว่านี้ทำได้ด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ 3-เฟส 22 กิโลวัตต์ หรือโดยวิธีเร่งด่วนด้วยไฟฟ้ากระแสตรงที่สถานีบริการ ซึ่งการชาร์จไฟ 0-80 % จะใช้เวลาเพียง 22 นาที
ตามตัวเลขของผู้ผลิตไฮเพอร์คาร์สุดไฮเทคแบบนี้ ใช้เวลาเพียง 1.97 วินาที ในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. และเพิ่มเป็น 9.3 วินาที ในการทำอัตราเร่ง 0-300 กม. ส่วนความเร็วสูงสุด คือ 412 กม./ชม. เป็นตัวเร็วที่ทำให้กล่าวได้ในทันทีว่า นี่คือ รถพลังไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลกขณะนี้ เป็นรถที่จะจำกัดจำนวนผลิตไว้เพียง 150 คัน กำหนดค่าตัวไว้ที่ 2,000,000 ยูโร หรือประมาณ 80 ล้านบาทไทย และผู้ผลิตยืนยันว่า จะไม่มีรถสองคันใดเลยที่มีรูปลักษณ์ และข้อมูลทางเทคนิคเหมือนกันทุกประการ เพราะจะเชิญผู้ซื้อทุกคนไปเยือนคโรเอเชีย แล้วให้ออกแบบรายละเอียดของรถด้วยตนเอง
RIMAC NEVERA

