ใครที่ติดตามความเคลื่อนไหวของ TOYOTA (โตโยตา) มาโดยตลอด คงจะสับสนพอสมควรกับท่าทีลีลาของผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ค่ายนี้ ที่มีต่ออนาคตของอุตสาหกรรมรถยนต์โลก ซึ่งกำลังก้าวสู่ยุคพลังไฟฟ้าพูดง่ายๆ คือ เรากำลังงง และอยากรู้ว่า พี่ใหญ่จะเอาอย่างไรกันแน่กับเรื่องรถไฟฟ้า TOYOTA เป็นผู้ผลิตรถไฮบริดออกขายเป็นรายแรกของโลกเมื่อหลายปีก่อน แต่กลับพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟฟ้าล้วนแบบใช้แบทเตอรีช้ากว่าผู้ผลิตรายอื่น ขณะเดียวกันก็ทำท่าจะหันไปเอาดีกับรถเซลล์เชื้อเพลิง พลังไฮโดรเจน แทนซะงั้น ท่าทีนี้ดูเป็นจริงเป็นจังยิ่งขึ้น เมื่อ AKIO TOYODA ประธานใหญ่ TOYOTA ได้แสดงความเห็นต่อต้านรถยนต์ไฟฟ้า ในงานประชุมสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น เมื่อ 17 ธันวาคม 2020 โดยระบุว่า ไฟฟ้าไม่ได้เป็นพลังงานสะอาดอย่างที่เชียร์กัน แถมยังสกปรกกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายในเสียอีก เนื่องจากโรงงานไฟฟ้าส่วนใหญ่ ต้องใช้เชื้อเพลิงที่มีมลพิษสูงในการผลิต การใช้ไฟฟ้ามากขึ้น จึงมีแต่จะเพิ่มมลพิษให้โลก นอกจากนี้ เขาไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลญี่ปุ่นที่จะห้ามจำหน่ายรถยนต์ใหม่ ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ในปี 2035 ด้วยเหตุผลว่า หากยานพาหนะในประเทศเป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด กระแสไฟฟ้าคงหมดประเทศภายในไม่กี่เดือน และการพัฒนาสาธารณูปโภคให้รองรับปริมาณรถไฟฟ้าอาจต้องใช้เงินลงทุนสูงถึงกว่า 100,000 ล้านบาท ที่สำคัญ บริษัทรถยนต์ต้องลงทุนมหาศาลในการพัฒนา และผลิตรถไฟฟ้า ซึ่งอาจทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นล่มสลาย พร้อมจำนวนผู้ตกงานนับ 1,000,000 คน ต่อมา ท่านประธานยังออกมา “แซะ” TESLA (เทสลา) ของ อีลอน มัสก์ ซึ่งเตรียมขึ้นแท่นเป็นผู้นำรายใหม่ในยุคไฟฟ้า ว่า TESLA เพียงแค่คิดสูตรอาหาร และเหตุที่มูลค่าบริษัทเพิ่มสูงขึ้น ก็เพราะคนแห่ไปซื้อสูตรเท่านั้น ตรงกันข้ามกับ TOYOTA ที่มีทั้งห้องครัว และ เชฟ พร้อมผลิตอาหารหลากหลายเพื่อเสิร์ฟให้ผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง TOYOTA กำลังเร่งพัฒนา แบทเตอรี โซลิด สเตท และวางโรดเเมพจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ถึง 15 รุ่น ภายในปี 2025 รวมทั้งตั้งใจจะเพิ่มยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า และรถเซลล์เชื้อเพลิง ให้ได้กว่า 1,000,000 คันภายในปี 2030 ส่วนในบ้านเรา กรรมการผู้จัดการใหญ่ คนใหม่ของ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า TOYOTA มีศักยภาพด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ประกอบแบทเตอรี และกำจัดแบทเตอรีเก่า พร้อมสรรพสำหรับการทำตลาดรถไฟฟ้าแบบครบวงจร โดยจะอิงข้อมูลจาก “พัทยาโมเดล” ซึ่ง TOYOTA ได้นำรถไฟฟ้า และรถพลังงานทางเลือกอื่นทุกรูปแบบ ที่ตัวเองผลิต ไปทดลองขับในเมืองพัทยา เพื่อพิจารณาว่า รถยนต์แบบใดเหมาะกับพฤติกรรมการใช้งานของชาวไทยมากที่สุด สรุปแล้ว TOYOTA คงได้บทเรียนจากการเลือกวัคซีน COVID-19 แบบ “แทงม้าตัวเดียว” ของประเทศแถวนี้ พอถึงกรณีพลังงานอนาคตที่ยังไม่มีความแน่นอน เลยตัดสินใจ “แทง” เผื่อไว้ทุกตัว เพื่อรอรับทรัพย์ชัวร์ๆ ไม่ว่าตัวไหนจะเข้าวิน
บทความแนะนำ