UNSEEN อุทัยธานี กับเอสยูวีน้องใหม่ DFSK GLORY 560

อุทัยธานี เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์จากธรรมชาติ มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ทิวทัศน์สวยงาม ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ “ชีวิตอิสระ” จะพาไปชม UNSEEN ของจังหวัดนี้

มุ่งหน้าสู่บ้านไร่ อุทัยธานี การเดินทางครั้งนี้ เราวิ่งผ่าน จ. สุพรรณบุรี ที่ อ. ด่านช้าง ตามทางหลวงหมายเลข 333 เพื่อมุ่งหน้าสู่ อ. บ้านไร่ จ. อุทัยธานี ระยะทางประมาณ 250 กม. ใช้เวลาไป 3 ชม. รถคู่ใจครั้งนี้ เป็นน้องใหม่ DFSK GLORY 560 (ดีเอฟเอสเค กลอรี 560) ซึ่งเป็นรถยนต์สไตล์ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี 7 ที่นั่ง ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ 150 แรงม้า ให้กำลังดีตั้งแต่ออกตัว แต่ช่วงเร่งแซงอาจมาช้าไปนิด สิ่งที่โดดเด่น คือ ช่วงล่างที่เซทมาได้นุ่มหนึบสไตล์รถยุโรป ให้ความมั่นใจได้ดีทั้งทางตรง และทางโค้ง โดยเฉพาะเวลาเดินทางไกล ที่สำคัญเป็นรถหน้าตาดี ดูหรูหราทีเดียว   ชมต้นไม้ยักษ์ขนาด 40 คนโอบ ที่บ้านสะนำ บ้านไร่ อุทัยธานี มีต้นไม้ยักษ์ที่มีคุณค่าต่อชุมชน ใครที่มาเที่ยว อ. บ้านไร่ ต้องห้ามพลาดเที่ยวชุมชนบ้านสะนำ ซึ่งเป็นชุมชนชาวลาวที่อพยพย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยโบราณ จากปากทางเข้า เราเดินเท้าผ่านตลาดเข้าไปประมาณ 200 ม. จะพบกับต้นไม้ยักษ์ที่สูงเด่นเป็นสง่า ท่ามกลางความร่มรื่นของป่าหมาก ต้นไม้ยักษ์มีชื่อว่า “ต้นเซียง” แต่ชาวบ้านเรียกว่า “ต้นผึ้ง” เพราะมีรังผึ้งขนาดใหญ่เกาะอยู่ตลอดทั้งปี มีขนาด 40 คนโอบ วัดรอบโคนต้นยาว 97 ม. มีอายุกว่า 400 ปี ต้นไม้ยักษ์นี้ ตั้งอยู่ในที่ดินของลุงเฮียง ชาวป่าที่หลงรักต้นไม้ใหญ่ จึงตั้งใจรักษาให้เป็นสมบัติของลูกหลาน และแบ่งปันให้คนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาชื่นชม โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ถือเป็นแหล่ง UNSEEN ของจังหวัดเลยทีเดียว   วัดถ้ำเขาวง ที่เที่ยวคลาสสิคของจังหวัด วัดถ้ำเขาวง เป็นสถานที่ UNSEEN ของจังหวัดมาช้านาน จากความงดงามของวัดที่ทำด้วยไม้ทั้งหลัง ตั้งอยู่ริมหน้าผาติดภูเขา จึงทำให้วัดนี้มีความร่มรื่น และมีอากาศที่เย็นเกือบตลอดทั้งปี ลักษณะของวัดเป็นสถาปัตยกรรมไทย มีใต้ถุนเป็นลานอเนกประสงค์ บริเวณชั้น 2 เป็นวิหาร ชั้น 3 เป็นกุฏิ ส่วนโบสถ์จะอยู่ชั้นที่ 4 ซึ่งมีความงดงามไม่เหมือนใคร บริเวณรอบๆ มีสระน้ำขนาดใหญ่ และสวนไม้ดอกไม้ประดับ เราสามารถขึ้นไปชมถ้ำบนภูเขาได้ โดยต้องเดินผ่านน้ำตกเทียมซึ่งเข้ากับบรรยากาศมาก ด้านบนมีถ้ำอยู่ 7-8 ถ้ำ บางถ้ำเป็นที่นั่งวิปัสสนาสำหรับพระภิกษุ บางถ้ำเป็นถ้ำค้างคาว บางถ้ำมีหินงอกหินย้อยให้เข้าชม บนเขามีที่ราบกว้าง และมีต้นไม้หลากหลายชนิด อีกทั้งยังมีร้านค้าของฝาก ร้านอาหาร ร้านกาแฟไว้บริการอีกด้วย   ถ้ำพุหวาย ความงามจากธรรมชาติ ถ้ำพุหวาย อยู่ถัดจากวัดถ้ำเขาวงเพียง 3 กม. เป็นถ้ำขนาดใหญ่ในเขตวนอุทยานถ้ำเขาวง ตั้งอยู่บนยอดเขาพุหวาย มีความสูง 700 ม. จากระดับน้ำทะเล ภายในงดงามไปด้วยหินงอกหินย้อยหลากหลายรูปแบบ เมื่อไปถึงจะมีเจ้าหน้าที่พาเดินชมถ้ำ พร้อมเป็นไกด์อธิบาย ภายในถ้ำมืดสนิท ถ้าไม่มีไฟฉายมา แนะนำให้เช่าไฟฉายของอุทยานฯ ในราคากระบอกละ 30 บาท เมื่อเดินขึ้นถึงปากถ้ำ เข้าไปจะพบกับโถงแรก ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป จากนั้นค่อยๆ เดินชมหินงอกหินย้อยหลากหลายรูปทรง เช่น รูปเจดีย์ อ่างน้ำ โดยเฉพาะรูปน้ำตกหินปูนสุดอลังการนั้น ถือเป็นไฮไลท์ของถ้ำพุหวายเลยทีเดียว นอกจากนี้ การเดินชมจุดต่างๆ ภายในถ้ำค่อนข้างสบาย เนื่องจากมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก อีกทั้งยังได้ตื่นตาตื่นใจกับค้างคาวที่อาศัยอยู่ภายในถ้ำถึง 9 ชนิด เราใช้เวลาเดินชมถ้ำประมาณ 1 ชม. เมื่อออกจากถ้ำแล้ว ยังมีถ้ำพระให้สักการะระหว่างทางอีกด้วย นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว   ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์ น้ำตกจากฝีมือมนุษย์ ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์ ตั้งอยู่ทางไป อ. ลานสัก บนทางหลวงหมายเลข 3282 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ยังไม่ค่อยรู้จักกันอย่างแพร่หลายนัก แต่ทัศนียภาพ และบรรยากาศโดยรอบนั้นสวยงามสมชื่อ ฝายกั้นน้ำแห่งนี้ เกิดจากการทำฝายของชุมชน ที่สร้างขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำ และชะลอการไหลของน้ำ เมื่อน้ำมีปริมาณมากเกินกว่าความจุของฝาย น้ำจะไหลล้นข้ามสันฝายลงสู่ด้านล่าง ทำให้เกิดเป็นม่านน้ำที่สวยงาม ตกกระทบยังพื้นด้านล่างที่เป็นช่องสี่เหลี่ยม กลายเป็นภาพที่ดูสวยงาม และแปลกตา เมื่อมาถึงแนะนำให้ถอดรองเท้า แล้วเตรียมกล้องถ่ายรูปให้พร้อม จะมีทางลงตรงร้านขายของ การเดินบนฝายต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะบางพื้นที่จะมีตะไคร่น้ำเกาะอยู่ แต่รับรองว่าคุ้มที่จะเสี่ยง เพราะเมื่อน้ำไหลลงพื้นล่างแล้วกระทบกับแสงแดด บอกเลยว่าเป็นอะไรที่สวยมาก นับเป็นอีกหนึ่งโลเคชันที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง   น้ำพุร้อนสมอทอง เกาะสวรรค์ของคนอุทัยธานี น้ำพุร้อนสมอทอง อยู่ระหว่างทางไปบ้านชายเขา ตั้งอยู่ในโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว มีจุดชมทิวทัศน์ ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ภายในยังมีกิจกรรมมากมายให้เลือก ตั้งแต่ผ่อนคลายด้วยการแช่น้ำอุ่น สปาเท้าแบบธาราบำบัด ปั่นจักรยาน หรือจะตกปลาด้วยเบ็ดไม้ไผ่ก็ยังได้ นอกจากนี้ ยังมีบ้านพักไว้รับรองโดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ถ้าไม่ชอบจะเลือกนอนกางเทนท์ ก็มีลานกว้างริมน้ำให้บริการอีกด้วย น้ำพุร้อนสมอทอง เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติขนาดเล็ก ที่ผุดขึ้นมาบนผิวดิน โดยไหลผ่านช่องเขา 2 ลูก น้ำพุที่ผุดขึ้นมาใส แต่มีกลิ่นกำมะถันฉุน มีความร้อนประมาณ 50-70 องศาเซลเซียส สามารถต้มไข่สุกภายใน 5 นาที โดยน้ำจะไหลลาดตามหินของภูเขาลงไปรวมกับน้ำในลำห้วยคอกควาย   บ้านชายเขา สวิทเซอร์แลนด์เมืองไทย บ้านชายเขา เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ต้องมาให้ได้ มีวิวทิวทัศน์โดยรอบรายล้อมไปด้วยหุบเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อนที่ทอดตัวเป็นแนวยาว บรรยากาศคล้ายกับสวิทเซอร์แลนด์ มีการจัดทำระเบียงชมวิวยกสูง สำหรับให้ขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์โดยรอบ รวมถึงถ่ายภาพเชคอินสุดเก๋แบบไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหาร และที่พักไว้ให้บริการด้วย จุดชมวิวบ้านชายเขา มีวิวดีเหมือนได้ไปเมืองนอก อยู่ด้านหลังของสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิทอย่าง หุบป่าตาด ช่วงหน้าหนาวอากาศจะหนาวมาก ชาวบ้านบางคนแถวนี้เรียกที่นี่ว่า จุดชมวิวบ้านชายเขาสวิทเซอร์แลนด์เมืองไทย จุดชมวิวแห่งนี้ได้วิวสุดสวยของภูเขาหินปูน เขาปลาร้า หุบป่าตาด และเขาที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เรียงรายกันสวยงาม ตัดสลับกับไร่ข้าวโพด สวนผลไม้ของชาวบ้าน ดูสวยแปลกตา และคนจะเยอะมากในช่วงเย็น ใครอยากไปพักผ่อนชิลล์ๆ บริเวณใกล้ๆ จุดชมวิว มีที่พักโฮมสเตย์ และรีสอร์ทให้บริการอีกมากมาย   แผนที่   ที่กิน มาเที่ยว อ. ลานสัก จ. อุทัยธานี ทั้งที เมนูอาหารที่พลาดไม่ได้ คือ “ปลาแรด” เราเลือก “ร้านอาหารแตน” เนื่องจากมีชื่อเสียงด้านความอร่อยมายาวนาน ผมสั่งปลาแรดสามรส แกงส้มชะอมทอด และกบทอดกระเทียม ต้องบอกว่าร้านนี้รสชาติดีมากๆ จัดจ้านทุกเมนู ไม่เสียชื่อเรื่องความอร่อยครับ   ที่นอน ไหนๆ เราก็มาเที่ยวถึงถิ่นสวิทเซอร์แลนด์เมืองไทยกันแล้ว ผมขอนอนค้างที่นี่ไปด้วยเลยแล้วกัน ผมเลือกพักที่ “BIKE CAMP หุบป่าตาด” เพราะมีความโดดเด่น และสวยงาม บ้านพักที่นี่จะเป็นสไตล์ NORDIC มี 2 ห้อง ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนอยู่เมืองนอก มีสิ่งอำนวยความสะดวก บอกเลยว่าวิวหลักล้าน ราคาเริ่มต้นที่ 3,500 บาท   ขอขอบคุณ บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ที่เอื้อเฟื้อยานพาหนะในการเดินทาง