FORD EVEREST รุ่น TITANIUM PLUS

• เครื่องยนต์ ดีเซล เทอร์โบ วี 6 สูบ • ความจุ 2,993 ซีซี • กำลังสูงสุด 267 แรงม้า ที่ 4,000 รตน. • แรงบิดสูงสุด 56.8 กก.-ม. ที่ 1,500-3,200 รตน. • ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ 10 จังหวะ • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา  

ภายนอกบึกบึนแบบอเมริกัน

FORD EVEREST (ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์) รุ่นล่าสุด มีระยะฐานล้อที่กว้าง และระยะระหว่างล้อหน้า และหลังที่เพิ่มขึ้น ทำให้นักออกแบบสร้างสรรค์รูปลักษณ์ที่ดูล้ำสมัยและบึกบึนมากขึ้นให้กับ เอสยูวี รุ่นนี้ ไฟหน้าใหม่รูปตัว C และลายเส้นอันทรงพลังบนกระจังหน้า ส่วนหน้าของรถยังมีการผสมผสานขององค์ประกอบที่มีทั้งแนวตั้ง และแนวนอน สื่อถึงเสถียรภาพในการขับขี่ที่เหนือชั้น เส้นด้านข้างตัวถังทอดยาวจากด้านหน้าจรดท้ายรถเน้นการออกแบบตัวถังที่สะดุดตา ฐานล้อที่กว้างทำให้ซุ้มล้อใหญ่โดดเด่น เพิ่มความแข็งแกร่ง และทันสมัยให้กับตัวรถ  

ห้องโดยสารกว้างขวาง อเนกประสงค์

ห้องโดยสารกว้างขวาง และการใช้งานที่หลากหลาย เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง สามารถปรับอุณภูมิ และระบายอากาศได้ เบาะนั่งแถว 2 ยังสามารถปรับอุณหภูมิได้ (ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นย่อย) เบาะนั่งแถวที่ 3 เข้า/ออกได้ง่ายขึ้น ด้วยการออกแบบให้เบาะนั่งแถวที่ 2 ขยับมาด้านหน้ามากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังใช้งานได้อเนกประสงค์ โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเลื่อนได้ และพับได้แบบแบ่ง 60:40 ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 แบ่งที่นั่งในอัตราส่วน 50:50 และพับได้แบบไฟฟ้าสำหรับบางรุ่น  

ขุมพลังแรงกว่าเดิม

เพื่อให้ FORD EVEREST รุ่นล่าสุด มีพละกำลังและแรงบิดมากขึ้นสำหรับการลากจูง การบรรทุกของหนัก รวมถึงการเดินทางบนเส้นทางสุดทรหด ทีมงานจึงเลือกนำเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 3.0 ลิตร วี 6 สูบ มาปรับแต่งให้เหมาะสม เป็น 1 ใน 3 ตัวเลือกของเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลสำหรับบางประเทศ และยังมาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ที่เหมาะกับไลฟสไตล์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซิน 2.3 ลิตร แบบ ECOBOOST และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ อีก 2 แบบ โดยมีทงเลือกระบบส่งกำลัง คือ กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ

รู้หรือไม่

1. ค่าย FORD เปิดตัวสายพันธุ์แกร่งรุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมกันถึง 3 รูปแบบด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ กระบะ RANGER (เรนเจอร์) ที่มีทั้งความบึกบึน และทันสมัยกว่าเดิม ตามด้วย เอสยูวี พื้นฐานร่วมกันอย่าง EVEREST ปิดท้ายด้วยกระบะพันธุ์แรง RAPTOR (แรพเตอร์) ชูจุดเด่นด้วยขุมพลังที่ร้อนแรงกว่าเดิม แบบเบนซิน เทอร์โบ วี 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุดถึง 397 แรงม้า 2. ตัวแกร่งทั้ง 3 รุ่นใช้โครงสร้างตัวถังร่วมกัน มีตัวถังส่วนหน้าที่แทบจะเหมือนกันทุกประการ โดดเด่นชุดไฟหน้ารูปแบบใหม่ ทรงโค้งรูปตัว C โดยทาง RANGER จะมีราคาในเบื้องต้นที่ 929,000-999,000 บาท ส่วน EVEREST มีราคาที่ 1,464,000-1,854,000 บาท และกระบะตัวแรง RAPTOR มีราคาที่ 1,869,000 บาท 3. กระแสรถยนต์ไฟฟ้ากำลังมาแรงทั่วโลก ล่าสุดทาง FORD ที่เมืองนอกเผยว่า โครงการรถกระบะพลังงานไฟฟ้า ภายใต้สายพันธุ์ของ RANGER อยู่ในแผนงานของการพัฒนาด้วย หลังจากที่มีการทำตลาดกับกระบะพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหญ่ไปแล้วกับ F-150 LIGHTING (เอฟ-150 ไลทิง)