เพื่อเอาใจทั้งคนรักรถทั่วไป และคนรักรถสมบัติเยอะ รถแรง และเร็วโมเดลใหม่นี้จึงมีให้เลือก ทั้งตัวถัง 4 ประตูซีดาน 5 ที่นั่ง ซึ่งยาว 4.791 ม. กว้าง 1.824 ม. สูง 1.450 ม. กับมีช่วงฐานล้อยาว 2.865 ม. และตัวถัง 5 ประตูตรวจการณ์ 5 ที่นั่ง ซึ่งยาว 4.791 ม. กว้าง 1.824 ม. สูง 1.466 ม. กับมีช่วงฐานล้อยาว 2.865 ม. ทั้ง 2 ตัวถังเป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อด้วยระบบ AMG PERFORMANCE 4MATIC PERMANENT ALL-WHEEL DRIVE ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนทุกล้อแบบถาวรที่กระจายแรงบิดสู่ล้อคู่หน้า และคู่หลังในอัตราส่วน 31:69 และติดตั้งระบบบังคับเลี้ยวทุกล้อ ซึ่งล้อคู่หลังจะเลี้ยวได้มากที่สุด 2.5 องศา
ส่วนเครื่องยนต์ที่ติดตั้งอยู่ภายใต้ฝากระโปรงหน้า เป็นเครื่องยนต์บลอคเดียวกันกับเครื่องที่เพิ่งนำมาใช้ในรถสปอร์ทเปิดประทุน MERCEDES-AMG SL 43 (เมร์เซเดส-เอเอมจี เอสแอล 43) คือเครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง 4 สูบเรียง 1,991 ซีซี (เป็นเครื่องยนต์ผลิตขายแบบแรกในโลก ซึ่งติดตั้งเทอร์โบชาร์เจอร์แบบพิเศษ ที่มีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า ELECTRIC EXHAUST GAS TURBOCHARGER) แต่ปรับแต่งเป็นพิเศษจนกำลังสูงสุดพุ่งจาก 280 กิโลวัตต์/381 แรงม้า เป็น 300 กิโลวัตต์/408 แรงม้า พร้อมติดตั้งระบบ 48V MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน 48 โวลท์ ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ได้อีก 10 กิโลวัตต์/14 แรงม้า ในช่วงสั้นๆ
สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของผู้ผลิต รถซีดานซึ่งค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ของเยอรมนี เริ่มต้นที่ 71,460 ยูโร หรือประมาณ 2.64 ล้านบาทไทย อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 8.7-9.1 ลิตร/100 กม. หรือ 11.0-11.5 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 196-206 กรัม/กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP ส่วนรถตรวจการณ์ซึ่งค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแพงกว่ากันนิดหน่อย คือ เริ่มต้นที่ 73,245 ยูโร หรือประมาณ 2.71 ล้านบาทไทย ตัวเลขเปลี่ยนเป็น 4.7 วินาที 250 กม./ชม. 8.8-9.2 ลิตร/100 กม. หรือ 10.9-11.4 กม./ลิตร และ 199-209 กรัม/กม. 
