ระเบียงรถใหม่
BMW X1/ IX1 ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ขนาดจิ๋ว ติดตั้งสารพัดสารพันระบบขับ
เดือนนี้เป็นการชุมนุม เอสยูวี หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งอีกครั้งหนึ่ง เป็นรถ 2 สัญชาติ คือ รถเยอรมันกับรถอังกฤษ เป็นผลงานของผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกรวม 3 ราย มีทั้งรถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปเพียงอย่างเดียว รถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ทำงานร่วมกันกับระบบ MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน รถติดตั้งระบบ PLUG-IN HYBRID หรือไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ และรถขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ทั้งหมดล้วนเป็น CROSSOVER SUV (ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี) หรือที่เรียกกันในภาษาไทยสไตล์ “สื่อสากล” ว่า รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ ซึ่งอธิบายอย่างสั้นๆ ได้ว่า เป็นรถ เอสยูวี ซึ่งตัวถังมีโครงสร้างแบบรถเก๋ง อย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า UNIT BODY (ยูนิท บอดี) หรือ UNIBODY (ยูนิบอดี) หรือ MONOCOQUE BODY (โมโนคอค บอดี) นั่นเอง
เริ่มกันที่รถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน และรถไฮบริด BMW X1 (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1) กับรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ BMW IX1 (บีเอมดับเบิลยู ไอเอกซ์ 1) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2022 นี่เอง
BMW X1 เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดเล็กสุดในสายการผลิตของค่าย “ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว” และเป็นรถที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า SUBCOMPACT LUXURY CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ระดับหรูขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด รถอนุกรมนี้เริ่มออกสู่ตลาดเมื่อปี 2009 รถรุ่นแรกซึ่งมีรหัสโรงงาน E84 เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง หรือขับเคลื่อนทุกล้อ ที่พัฒนามาจาก และใช้ชิ้นส่วนบางชิ้นรวมทั้งพแลทฟอร์มร่วมกันกับรถเก๋ง BMW 3-SERIES (บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-3) รุ่นที่มีรหัสโรงงาน E90 ส่วนสถานที่ผลิต คือ โรงงานซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง LEIPZIG (ไลพ์ซิก) ในเยอรมนี รถรุ่นนี้ถูกปลดจากสายการผลิตเมื่อปี 2015 หลังจากขายทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 820,000 คัน
รถรุ่นที่ 2 รหัสโรงงาน F48 ตามมาตอนกลางปี 2015 พร้อมเปลี่ยนแปลงระบบขับ จากขับเคลื่อนล้อหลังเป็นขับเคลื่อนล้อหน้า รถรุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงแบบ FACELIFT หรือ “ยกหน้า” ไปครั้งหนึ่งเมื่อกลางปี 2019 ส่วนสถานที่ผลิต คือ โรงงานที่เมือง REGENSBURG (เรเกนสบวร์ก) ในเยอรมนี
รถรุ่นล่าสุดซึ่งเป็นรุ่นที่ 3 และมีรหัสโรงงาน U11 เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน 2022 พร้อมคำยืนยันว่า เป็นรุ่นแรกของรถกิจกรรมกลางแจ้งอนุกรมนี้ ที่จะมีให้เลือกทั้งรถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน รถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในพร้อมระบบ MILD HYBRID รถติดตั้งระบบ PLUG-IN HYBRID ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซินทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า และรถขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ไม่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ใดๆ ส่วนสถานที่ผลิตยังคงใช้โรงงานเดิม
ตัวถัง 5 ประตู 5 ที่นั่ง ทรง 2 กล่อง ยาว 4.500 ม. กว้าง 1.845 ม. และสูง 1.642 ม. ที่ออกแบบใหม่หมดตั้งแต่พื้นรถจรดหลังคา เป็นตัวถังที่ค่อนข้างลู่ลม คือ มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำสุด 0.26 หน้าตา และรูปทรงองค์เอวของตัวถังภายนอกไม่มีจุดสะดุดตาสะดุดใจอะไรที่สมควรกล่าวถึงเป็นพิเศษ เพราะเป็นการออกแบบซึ่งแทบไม่มีจุดไหนดูแปลกแหวกแนวจากรถรุ่นก่อน จุดหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่าเปลี่ยนไป คือ แผงกระจังหน้ารูปไตคู่ ซึ่งดูสูงกว่าแต่แคบกว่าของรุ่นเดิม ส่วนขนาดตัวถังที่กล่าวข้างต้น เมื่อเทียบกับตัวถังของรถรุ่นเดิมซึ่ง ยาว 4.447 ม. กว้าง 1.821 ม. และสูง 1.598 ม. ก็จะพบว่ามีขนาดโตขึ้นเล็กน้อยในทุกมิติ คือ ยาวขึ้น 5.3 ซม. กว้างขึ้น 2.4 ซม. และสูงขึ้น 4.4 ซม.
ในเมืองแม่ คือ เยอรมนี รถรุ่นใหม่นี้จะเริ่มการผลิตในเดือนตุลาคมที่กำลังรออยู่ข้างหน้า ในระยะแรกจะมีรถให้เลือกรวม 4 โมเดล เป็นรถเบนซิน 2 โมเดล คือ BMW X1 SDRIVE18I (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 เอสดไรฟ 18 ไอ) กับ BMW X1 XDRIVE23I (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 เอกซ์ดไรฟ 23 ไอ) และเป็นรถดีเซล 2 โมเดล คือ BMW X1 SDRIVE18D (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 เอสดไรฟ 18 ดี) กับ BMW X1 XDRIVE23D (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 เอกซ์ดไรฟ 23 ดี)
รถขับล้อหน้า BMW X1 SDRIVE18I ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซิน 3 สูบเรียง 12 วาล์ว 1,499 ซีซี 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้าผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ STEPTRONIC อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 9.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 208 กม./ชม.
รถขับทุกล้อ BMW X1 XDRIVE23I ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซิน 4 สูบเรียง 16 วาล์ว 1,998 ซีซี 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า พร้อมระบบ MILD HYBRID 48 โวลท์ 14 กิโลวัตต์/19 แรงม้า ได้กำลังรวมสูงสุด 160 กิโลวัตต์/218 แรงม้า และส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้าคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ STEPTRONIC โมเดลนี้ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 7.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 233 กม./ชม.
รถขับล้อหน้า BMW X1 SDRIVE18D ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรง 4 สูบเรียง 16 วาล์ว 1,995 ซีซี 110 กิโลวัตต์/150 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้าผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ STEPTRONIC อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 8.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
ส่วนรถขับทุกล้อ BMW X1 XDRIVE23D ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรง 4 สูบเรียง 16 วาล์ว 1,995 ซีซี 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า พร้อมระบบ MILD HYBRID 48 โวลท์ 14 กิโลวัตต์/19 แรงม้า ได้กำลังรวมสูงสุด 155 กิโลวัตต์/211 แรงม้า และส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้าคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ STEPTRONIC นับเป็นรถดีเซลที่แรง และเร็วอย่างน่าพอใจทั้งตีนต้น และตีนปลาย อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 7.4 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุด คือ 225 กม./ชม.
อีก 3 โมเดล ที่ตั้งเป้าว่าจะตามมา 1 เดือนหลังจากนั้น คือ ในเดือนพฤศจิกายน 2022 เป็นรถ PLUG-IN HYBRID หรือไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี 2 โมเดล คือ BMW X1 XDRIVE25E (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 เอกซ์ดไรฟ 25 อี) กับ BMW X1 XDRIVE30E (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 เอกซ์ดไรฟ 30 อี) และเป็นรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ อีก 1 โมเดล คือ BMW IX1 XDRIVE30 (บีเอมดับเบิลยู ไอเอกซ์ 1 เอกซ์ดไรฟ 30)
รถไฮบริดขับทุกล้อ BMW X1 XDRIVE25E ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซิน 3 สูบเรียง 12 วาล์ว 1,499 ซีซี 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า 80 กิโลวัตต์/109 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ STEPTRONIC และแบทเตอรี LITHIUM-ION ขนาดความจุสุทธิ 14.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ได้กำลังรวมสูงสุด 180 กิโลวัตต์/245 แรงม้า โมเดลนี้ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 6.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม. กรณีชาร์จไฟเต็มจะวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกล 78-89 กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP แต่จะทำความเร็วสูงสุดได้เพียง 140 กม./ชม.
รถไฮบริดขับทุกล้อ BMW X1 XDRIVE30E ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซิน 3 สูบเรียง 12 วาล์ว 1,499 ซีซี 110 กิโลวัตต์/150 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า 130 กิโลวัตต์/177 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ STEPTRONIC และแบทเตอรี LITHIUM-ION ขนาดความจุสุทธิ 14.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ได้กำลังรวมสูงสุด 240 กิโลวัตต์/316 แรงม้า โมเดลนี้ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 205 กม./ชม. กรณีชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน WLTP จะวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกล 78-89 กม. และความเร็วสูงสุดจะลดเป็น 140 กม./ชม. เช่นกัน
ส่วนรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ขับทุกล้อ BMW IX1 XDRIVE30 ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด ชุดหนึ่งขับล้อคู่หน้า อีกชุดหนึ่งขับล้อคู่หลัง ได้กำลังรวมสูงสุด 230 กิโลวัตต์/313 แรงม้า และใช้แบทเตอรี LITHIUM-ION ขนาดความจุสุทธิ 64.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง (ซึ่งการใช้ไฟด้วยไฟฟ้าแรงสูงเพื่อให้รถวิ่งได้ไกล 120 กม. จะใช้เวลาเพียง 10 นาที ส่วนการชาร์จไฟแบบเร่งด่วน ณ สถานีชาร์จไฟเพื่อให้ได้ปริมาณไฟฟ้า 80 % จะใช้เวลา 29 นาที) รถโมเดลนี้สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 180 กม./ชม. กรณีชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน WLTP รถจะวิ่งได้ไกล 413-438 กม. และมีอัตราสิ้นเปลืองพลังไฟฟ้าเฉลี่ย 0.173-0.184 กิโลวัตต์ชั่วโมง/กม.
ในเยอรมนี ค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ของ BMW X1 เริ่มต้นที่ 43,900 ยูโร หรือประมาณ 1.62 ล้านบาทไทย ส่วนรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ BMW IX1 เริ่มต้นที่ 55,000 ยูโร หรือประมาณ 2.04 ล้านบาทไทย
BMW X1
รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด ขับล้อหน้า หรือขับทุกล้อ
มิติตัวถัง 4.500x1.845x1.642 ม. สัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำสุด 0.26
เครื่องยนต์สันดาปภายใน/เครื่องยนต์สันดาปภายในพร้อมระบบ MILD HYBRID
เครื่องยนต์สันดาปภายในพร้อมระบบ PLUG-IN HYBRID
ราคารวมภาษีในเยอรมนี เริ่มต้นที่ 43,900 ยูโร (ประมาณ 1.62 ล้านบาทไทย)
BMW IX1
รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ ขับเคลื่อนทุกล้อด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ
มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด กำลังรวมสูงสุด 230 กิโลวัตต์/313 แรงม้า
แบทเตอรี 64.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จไฟเต็มรถวิ่งได้ไกล 413-438 กม.
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม.
ราคารวมภาษีในเยอรมนี เริ่มต้นที่ 55,000 ยูโร (ประมาณ 2.04 ล้านบาทไทย)
ABOUT THE AUTHOR
ช
ชูศักดิ์ ชมจินดา
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตนิตยสาร 399 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2565
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่