BMW พัฒนาแบทเตอรีทรงกระบอก ให้พลังงานยาวนานขึ้น และประจุไฟเร็วขึ้น

เราได้ยินชื่อเรียกรถยนต์ที่ใช้แบทเตอรีเป็นตัวเก็บประจุไฟฟ้า ไม่ว่าจะรถไฮบริด หรือแม้แต่รถไฟฟ้าเองว่า “รถถ่าน” รถถ่านในที่นี่ คือ การเปรียบแบทเตอรีว่าเป็นเหมือนถ่านไฟฉายนั่นเอง ครั้งนี้ BMW ได้พัฒนารูปทรงของแบทเตอรีใหม่ ซึ่งเป็นทรงกระบอกรูปร่างหน้าตาละม้าย “ถ่านไฟฉาย” BMW เตรียมพัฒนา HYDROGEN FUEL CELL ปกติรูปแบบของแบทเตอรีในรถยนต์กลุ่มนี้ มักจะเป็นลักษณะสี่เหลี่ยม ลองมาดูว่า การพัฒนาในครั้งนี้ทาง BMW (บีเอมดับเบิลยู) ทำให้มีความสามารถด้านใดมากยิ่งขึ้น ซึ่งค่าย BMW ไม่ได้หยุดยั้งการพัฒนาการขับเคลื่อนด้วยพลังงานทางเลือก เดิมทีมีการพัฒนาการขับเคลื่อนด้วยพลังงาน HYDROGEN มาอย่างยาวนาน ทั้งการขับเคลื่อนด้วย HYDROGEN แบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน และการขับเคลื่อนในรูปแบบของ HYDROGEN FUEL CELL ซึ่งเพิ่งประกาศไปเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เตรียมพัฒนา BMW IX5 (บีเอมดับเบิลยู ไอเอกซ์ 5) ในรูปแบบของ HYDROGEN FUEL CELL แบทเตอรีใหม่ เพิ่มระยะทางได้ 30 % แบทเตอรีถูกพัฒนาขึ้นพร้อมๆ กับพแลทฟอร์มใหม่ ที่จะเริ่มใช้ในช่วงประมาณปี 2020 กับพแลทฟอร์มใหม่ “NEUE KLASSE” ความเปลี่ยนแปลงนอกจากเรื่องรูปทรงของแบทเตอรีแล้ว คุณสมบัติทางเคมีโดยการใช้วัสดุอย่าง “นิคเคิล” และ “ซิลิคอน” ให้มากขึ้น และลดส่วนประกอบบางอย่าง ทำให้ได้แบทเตอรีรูปทรงกระบอกเส้นผ่าศูนย์กลาง 46 มม. ในแต่ละเซลล์ที่สามารถนำมาประกอบกันได้หลากหลายขนาด ความจุตามความต้องการของตัวรถ แบทเตอรีเทคโนโลยีใหม่นี้ สามารถเพิ่มระยะการเดินทางได้มากขึ้นอีก 30 % ในขนาดความจุเท่าเดิม เพิ่มความสะดวกสบายได้มากขึ้นในการเดินทาง เพราะการชาร์จด้วยไฟ DC นั้น จากระดับแบทเตอรี 10-80 % ลดระยะเวลาในการชาร์จได้ถึง 30 %   สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ถึง 50 % เทคโนโลยีในการพัฒนาแบทเตอรีชนิดใหม่ในเจเนอเรชันที่ 6 นี้ ผลิตโดยใช้การรีไซเคิลจากแบทเตอรีเก่า โดยการแยกธาตุอย่าง โคบอลท์, นิคเคิล และซิลิคอน กลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง ผ่านการรับรองกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ลดการปล่อยมลพิษได้ถึง 60 % สิ่งสำคัญ คือ สามารถลดต้นทุนการผลิตที่ต่ำลงถึง 50 % จะส่งผลให้ราคาตัวรถต่ำลงด้วยนั่นเอง ก็ต้องติดตามต่อไปว่า แนวคิดในการพัฒนาครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จขนาดไหน เมื่อประกาศว่าจะนำมาใช้ในปี 2025