ABARTH เป็นผู้ผลิตรถยนต์ และรถแข่ง ที่ประกอบกิจการมายาวนานกว่า 7 ทศวรรษ บริษัทนี้ก่อตั้งกิจการเมื่อปี 1949 โดยชาวอิตาลี-ออสเตรีย เจ้าของนาม CARLO ABARTH (การ์โล อบาร์ธ) ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมือง TURIN (ตูริน) ของอิตาลี และมีโลโกเป็นรูปแมงป่องสีดำบนโล่สีเหลือง และแดง ผู้ผลิตรถยนต์ผู้มีความชำนาญเฉพาะทางรายนี้ ประกอบธุรกิจร่วมกับยักษ์ใหญ่ FIAT (เฟียต) มานมนาน นำรถยนต์ติดป้ายชื่อ FIAT ไปพัฒนาต่อกิ่งต่อยอดแล้วเปลี่ยนป้ายชื่อเป็น ABARTH มาแล้วมากมาย รถ ABARTH 500E (อบาร์ธ 500 อี) ที่กำลังอวดรูปทรงองค์เอวอยู่นี้ก็เช่นกัน เป็นรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ที่พัฒนาจากรถ FIAT 500 (เฟียต 500) รุ่นปัจจุบัน การปรากฏตัวของรถแบบใหม่นี้เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่เพิ่งผ่านพ้นไป ซีอีโอของค่ายนี้บอกว่าเป็น ONE OF THE MOST EXCITING LAUNCHED IN HISTORY OF THE BRAND หรือ “หนึ่งในบรรดาการเปิดตัวรถที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์ของรถยี่ห้อนี้”
รถเก๋งแฮทช์แบคขนาดเล็กกระจิริดกระจิ๋วหลิวติดป้ายชื่อ FIAT 500 รุ่นแรก อยู่ในสายการผลิตยาวนานระหว่างปี 1957-1975 แล้วก็หายหน้าไปนานจนกระทั่งปี 2007 รถรุ่นที่ 2 ซึ่งมีขนาดโตขึ้นมากจึงปรากฏตัว ส่วนรถรุ่นล่าสุดที่จำหน่ายอยู่ในเมืองมะกะโรนีขณะนี้ เป็นรถรุ่นที่ 3 เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน 2020 และขณะนี้มีรถ 3 โมเดลหลัก คือ FIAT NUOVA 500 BERLINA (เฟียต นูโอวา 500 แบร์ลีนา) ซึ่งเป็นรถ 3 ประตูแฮทช์แบค 4 ที่นั่ง FIAT NUOVA 500 3+1 (เฟียต นูโอวา 500 3+1) ซึ่งเป็นรถ 3+1 ประตูแฮทช์แบค 4 ที่นั่ง และ FIAT NUOVA 500 CABRIO (เฟียต นูโอวา 500 กาบริโอ) ซึ่งเป็นรถ 2 ประตูเปิดประทุน 4 ที่นั่ง ทั้งหมดเป็นรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ติดตั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 87 กิโลวัตต์/118 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรี LITHIUM-ION (ลิเธียม-ไอออน) ขนาดความจุ 42 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเมื่อชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน WLTP รถจะวิ่งได้ไกลกว่า 300 กม. ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 150 กม./ชม.
งานชิ้นใหม่ของค่าย “แมงป่อง” ABARTH 500E ซึ่งมีกำหนดเริ่มการจำหน่ายในปี 2023 นี้ พัฒนาจากรถแฮทช์แบค FIAT NUOVA 500 BERLINA โดยปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งในส่วนของตัวถัง และระบบขับเครื่องยนต์ ตัวอย่าง คือ การขยายช่วงล้อทั้งหน้า และหลัง รวมทั้งเพิ่มความยาวของช่วงฐานล้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว การเลือกใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ตอบสนองดีขึ้น การเพิ่ม SOUND GENERATION หรือเครื่องกำเนิดเสียงสังเคราะห์เหมือนเสียงเครื่องยนต์ซึ่งหยุดการทำงานได้เมื่อไม่ต้องการ มีโหมดการขับให้เลือกใช้ 3 โหมด กำกับด้วยรหัส TURISMO-SCORPION STREET-SCORPION TRACK
ส่วนระบบขับล้อหน้าด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ก็เพิ่มขนาดมอเตอร์ไฟฟ้าเป็น 114 กิโลวัตต์/155 แรงม้า คือ เพิ่มขึ้นถึง 27 กิโลวัตต์/37 แรงม้า หรือเท่ากับร้อยละ 31.4 แต่ยังใช้แบทเตอรี LITHIUM-ION ขนาดเดิม คือ 42 กิโลวัตต์ชั่วโมง เป็นแบทเตอรีติดตั้งใต้พื้นรถ ซึ่งใช้เวลา 35 นาที ในการชาร์จไฟ 80 % ด้วยไฟฟ้ากระแสตรงที่สถานีชาร์จไฟ และใช้เพียง 5 นาที ในการชาร์จไฟเพื่อให้รถวิ่งได้ไกล 40 กม.
ผลลัพธ์ด้านสมรรถนะความเร็ว อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 7.0 วินาที คือ เร็วขึ้น 2.0 วินาที เมื่อเทียบกับรถซึ่งเป็นที่มา
ABARTH 500E
● รถเก๋งแฮทช์แบคขนาดมีนี ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ
● พัฒนาต่อกิ่งต่อยอดจากรถจิ๋ว FIAT NUOVA 500 BERLINA
● มอเตอร์ไฟฟ้า 114 กิโลวัตต์/155 แรงม้า
● แบทเตอรี LITHIUM-ION (ลิเธียม-ไอออน) 42 กิโลวัตต์ชั่วโมง
● อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.0 วินาที                    
