รถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ติดป้ายชื่อ BMW I7 (บีเอมดับเบิลยู ไอ 7) เป็นส่วนหนึ่งของรถเก๋งซีดานสุดหรูขนาดใหญ่ BMW 7-SERIES (บีเอมดับเบิลยู ซีรีส-7) รุ่นปัจจุบัน ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 7 และเพิ่งเริ่มการจำหน่ายในเมืองแม่ คือ เยอรมนีเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 นี่เอง ในระยะแรกรถแบบนี้มีขายโมเดลเดียว คือ BMW I7 XDRIVE60 (บีเอมดับเบิลยู ไอ 7 เอกซ์ดไรฟ 60) ซึ่งค่าตัวในเยอรมนีขณะนี้เริ่มต้นที่ 139,000 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 5.28 ล้านบาทไทย (เมื่อคำนวณว่า ต้องใช้เงินไทย 38 บาทถ้วน ในการแลกเปลี่ยนเงินฝรั่ง 1 ยูโร)
รถโมเดลข้างต้น มีตัวถังยาว 5.391 ม. กว้าง 1.950 ม. สูง 1.544 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.24 เป็นตัวถังทรงสามกล่องที่ออกแบบใหม่หมดตั้งแต่พื้นรถจรดหลังคา มีจุดเด่นที่นักวิจารณ์บางคนในยุโรปชื่นชมกันมาก คือดวงโคมไฟหน้าแต่ละด้านที่แยกเป็นไฟ 2 ดวงและวางซ้อนกันในแนวนอนโดยมีส่วนหนึ่งของตัวถังแทรกอยู่ เป็นลักษณะการออกแบบที่ไม่เคยพบเคยเห็นกันมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 1 ศตวรรษของค่ายนี้ ส่วนระบบขับที่ใช้ เป็นระบบขับเคลื่อนทุกล้อด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 190 กิโลวัตต์/258 แรงม้า ขับล้อคู่หน้า และใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 230 กิโลวัตต์/313 แรงม้า ขับล้อคู่หลัง ได้กำลังรวมสูงสุด 400 กิโลวัตต์/544 แรงม้า และติดตั้งแบทเตอรี LITHIUM-ION (ลิเธียม-ไอออน) ขนาดความจุ 101.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเมื่อชาร์จไฟเต็มและวัดตามมาตรฐาน WLTP รถจะวิ่งได้ไกล 591-625 กม. ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 240 กม./ชม.
BMW I7 M70 XDRIVE (บีเอมดับเบิลยู ไอ 7 เอม 70 เอกซ์ดไรฟ) ที่กำลังอวดโฉมอยู่นี้ เป็นรถโมเดลใหม่ เพิ่งปรากฏตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ “ครั้งแรกในโลก” ที่งานมหกรรมยานยนต์เซี่ยงไฮ้ครั้งล่าสุด ซึ่งมีขึ้นในเมืองมังกรระหว่างวันที่ 18-27 เมษายน 2053 แต่ต้องจนถึงครึ่งหลังของปีจึงจะเริ่มการจำหน่าย เป็นรถที่มีตัวถังยาว 5.391 ม. กว้าง 1.950 ม. และสูง 1.544 ม. คือ ไม่ต่างกันเลยกับรถโมเดลแรก ส่วนค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศซึ่งบ่งบอกความลื่นลม เลวลงเล็กน้อย คือเพิ่มจาก 0.24 เป็น 0.2 6
ติดตั้งระบบขับเคลื่อนทุกล้อด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 190 กิโลวัตต์/258 แรงม้า ขับล้อคู่หน้า และใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 360 กิโลวัตต์/489 แรงม้า ขับล้อคู่หลัง ได้กำลังรวมสูงสุดที่สูงถึง 485 กิโลวัตต์/660 แรงม้า และได้แรงบิดสูงสุด 1,100 นิวทัน-เมตร/112.2 กก.-ม.ส่วนอุปกรณ์ป้อนพลังไฟฟ้าคือ แบทเตอรี LITHIUM-ION (ลิเธียม-ไอออน) ขนาด 101.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลา 5.5 ชั่วโมง เมื่อชาร์จไฟเต็ม 100 % ด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส 32 แอมพ์/380 โวลท์ และลดเหลือเพียง 34 นาที เมื่อชาร์จไฟ 80 % แบบเร่งด่วนด้วยไฟฟ้ากระแสตรง ณ สถานีจ่ายไฟ การชาร์จไฟเต็มแต่ละครั้งและเมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP รถจะวิ่งได้ไกล 488-560 กม. และมีอัตราสิ้นเปลืองพลังไฟฟ้าเฉลี่ย 0.208-0.238 กิโลวัตต์ชั่วโมง/กม.
ตามตัวเลขของค่าย”ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว” รถหรูและแรง ซึ่งจะใช้โรงงานที่เมือง DINGOLFING (ดิงโกลฟิง) ในเยอรมนีเป็นที่ผลิตโมเดลนี้ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ในเวลาแค่ 0.37 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม.
สำหรับคนรักรถที่นิยมชมชอบรถแรงรถเร็วและต้อการให้รถโมเดลนี้วิ่งได้ไกลกว่าตัวเลขข้างต้น คือ 488-560 แรงม้า เมื่อชาร์จไฟเต็ม ยอดผู้ผลิตรถหรูของเมืองเบียร์มีฟังค์ชันการทำงานซึ่งตั้งชื่อว่า MAX RANGE FUNCTION (แมกซ์ เรนจ์ ฟังค์ชัน) ช่วยให้ผู้ขับรถสามารถยืดระยะการเดินทางได้มากถึงร้อยละ 15-25 ทั้งโดยการจำกัดกำลังมอเตอร์ที่ใช้ โดยการลดอัตราความเร็วสูงสุด และโดยการลดการใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกบางรายการ
BMW I7 M70 XDRIVE
รถเก๋งซีดานระดับหรูขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนทุกล้อด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ
มิติตัวถัง 5.391x1.950x1.544 ม. สัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.26
มอเตอร์ไฟฟ้า 190 กิโลวัตต์/258 แรงม้า+360 กิโลวัตต์/489 แรงม้า
กำลังรวมสูงสุด 485 กิโลวัตต์/660 แรงม้า ระยะเดินทาง 488-560 กก.
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. (จำกัด) 
