10,500,000 คือ ยอดขายทั่วโลกโดยประมาณในรอบปี 2022 ซึ่งมีหน่วยเป็นคัน ของ BEV

หรือรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ซึ่งได้พลังไฟจากแบทเตอรี และ PHEV (PLUG-IN HYBRID ELECTRIC VEHICLE) หรือรถไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ คือ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 55 จากตัวเลขในรอบปี 2021 ทั้งนี้ตามข้อมูลในเวบไซท์ ev-volumes.com ผู้ชำนาญการด้านตัวเลขยอดขายของรถพลังไฟฟ้า ตัวเลขดังกล่าวแยกออกได้เป็น BEV ร้อยละ 73 กับเป็น PHEV ร้อยละ 27 และเมื่อแยกยอดขายตามผู้ผลิตก็พบว่า ผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในโลก 25 อันดับแรก ประกอบด้วย (ยอดขายต่อท้ายชื่อผู้ผลิตเป็นตัวเลขโดยประมาณ) 1. BYD 1,800,000 คัน 2. TESLA 1,300,000 คัน 3. VOLKSWAGEN GROUP 800,000 คัน 4. GM+WULING 600,000 คัน 5. STELLANTIS 500,000 คัน 6. HYUNDAI MOTOR 500,000 คัน 7. BMW GROUP 400,000 คัน 8. GEELY AUTO GROUP 350,000 คัน 9. MERCEDES-BENZ GROUP 350,000 คัน 10. R-N-M ALLIANCE 350,000 คัน 11. GAC 300,000 คัน 12. SAIC 200,000 คัน 13. CHERY AUTOMOBILE 200,000 คัน 14. VOLVO CARS+POLESTAR 200,000 คัน 15. CHANGAN AUTOMOBILE 200,000 คัน 16. DONGFENG MOTOR 200,000 คัน 17. FORD MOTOR 150,000 คัน 18. HOZON AUTO 120,000 คัน 19. CHJ AUTOMOTIVE 120,000 คัน 20. GREAT WALL MOTORS 120,000 คัน 21. NIO INC 120,000 คัน 22. XIAOPENG 120,000 คัน 23. TOYOTA 100,000 คัน 24. LEAP MOTOR 100,000 คัน 25. SOKON 100,000 คัน เวบไซท์ดังกล่าวคาดหมายว่า ในรอบปี 2023 ยอดขายรถ BEV และ PHEV ในตลาดทั่วโลกจะพุ่งขึ้นเป็น 14.3 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 36 แยกเป็นรถ BEV 11.0 ล้านคัน กับรถ PHEV 3.3 ล้านคัน และเมื่อถึงสิ้นปี 2023 จะมี BEV และ PHEV ใช้งานอยู่ในโลกรวมทั้งสิ้นประมาณ 40 ล้านคัน