LEXUS TX ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี สายเลือดซามูไรอนุกรมใหม่ ผลิตในสหรัฐอเมริกา

รถใหม่อีกแบบหนึ่งที่เลือกมาปิด “ระเบียงรถใหม่” ในเดือนแห่งการชุมนุมรถกิจกรรมกลางแจ้งนี้ ก็เป็นผลงานของยอดผู้ผลิตรถ PREMIUM (พรีเมียม) เมืองปลาดิบเช่นกัน คือ LEXUS TX (เลกซัส ทีเอกซ์) ที่เพิ่งเปิดตัวในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2023 พร้อมกันกับรถ LEXUS GX (เลกซัส จีเอกซ์) ซึ่งเพิ่งผ่านตาไป เป็น FULL-SIZE LUXURY CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ระดับหรูขนาดโตเต็มพิกัด และเป็นรถที่ออกแบบ/พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้รถในทวีปอเมริกาเหนือ มีพื้นฐานมาจาก และใช้ชิ้นส่วนหลายชิ้นร่วมกันกับรถ TOYOTA LAND CRUISER (โตโยตา แลนด์ ครูเซอร์) รวมทั้งเป็นรถติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 3 แถว ที่ค่ายนี้กำลังจะนำออกสู่โชว์รูมในฐานะรถรุ่นปี 2024 แทนที่รถตัวถังยาว LEXUS RX L (เลกซัส อาร์เอกซ์ แอล) ซึ่งอยู่ในตลาดระหว่างปี 2019-2022 และเป็นส่วนหนึ่งของรถ LEXUS RX (เลกซัส อาร์เอกซ์) รุ่นก่อนซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 4 ตัวถังทรง 2 กล่อง ซึ่งยาว 5.160-5.170 ม. กว้าง 1.990 ม. สูง 1.780 ม. และมีช่วงฐานล้อยาว 2.950 ม. ออกแบบโดยใช้พแลทฟอร์มซึ่งมีชื่อว่า GA-K PLATFORM มีจุดศูนย์กลางความถ่วงอยู่ต่ำ มีการกระจายน้ำหนักลงสู่ล้อในอัตราที่เหมาะสมที่สุด รวมทั้งมีความพยายามมากมายเพื่อเพิ่ม RIGIDITY หรือความแข็งเกร็งของตัวถัง และทำให้เสียงรบกวน/อาการสั่น และความกระด้างเกิดขึ้นน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ภายในห้องโดยสารซึ่งติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 3 แถว นั่งได้รวม 6 หรือ 7 คน (2+2/3+2) เมื่อพับราบเก้าอี้ที่นั่งแถว 3 ห้องเก็บของท้ายรถจะมีขนาดความจุ 57.4 ลูกบาศก์ฟุต หรือ 1,625 ลิตร และจะเพิ่มเป็น 97 ลูกบาศก์ฟุต หรือ 2,747 ลิตร เมื่อพับราบเก้าอี้ที่นั่งทั้งแถว 3 และแถว 2 รถที่ฤดูใบไม้ร่วงปีนี้จะเริ่มการจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ในฐานะรถรุ่นปี 2024 แบ่งการตกแต่ง และติดตั้งอุปกรณ์เป็น 4 ระดับ กำกับด้วยรหัส STANDARD-PREMIUM-LUXURY-F SPORT PERFORMANCE ล้อมาตรฐานของ 3 ระดับแรก มีขนาด 20 นิ้ว แต่ระดับท้ายสุดใช้ล้อขนาด 22 นิ้ว สีตัวถังจะมีให้เลือกรวม 7 สี คือ สีเทา CLOUDBURST GRAY สีขาว WIND CHILL PEARL สีน้ำตาล CAVIAR สีแดง MATADOR RED MICA สีน้ำเงิน NIGHTFALL MICA สี INCOGNITO สีเงิน CELESTIAL SILVER METALLIC ส่วนห้องโดยสารซึ่งประตูข้างเปิด/ปิดโดยการสัมผัส มีสีให้เลือก 3 สี คือ สีเทาเข้ม PEPPERCORN สีครีม BIRCH และสีดำ BLACK ในระยะแรกจะมีรถให้เลือกเพียง 2 โมเดล คือ LEXUS TX 350 กับ LEXUS TX 500H โมเดลแรกซึ่งมีทั้งรถขับเคลื่อนล้อหน้า และรถขับเคลื่อนทุกล้อ ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง 4 สูบเรียง 2,393 ซีซี 205 กิโลวัตต์/275 แรงม้า (รหัสเครื่องยนต์ T24A-FTS) และส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ DIRECT SHIFT (ไดเรคท์ ชิฟท์) ส่วนโมเดลหลังซึ่งมีแต่รถขับเคลื่อนทุกล้อ ติดตั้งระบบขับไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี ซึ่งใช้เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง 4 สูบเรียง 2,393 ซีซี (T24A-FTS) ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า ได้กำลังรวมสูงสุด 273 กิโลวัตต์/366 แรงม้า และส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ที่จะตามมาในระยะต่อไป คือ LEXUS TX 500H+ ซึ่งก็มีแต่รถขับเคลื่อนทุกล้อ ติดตั้งระบบ PLUG-IN HYBRID (พลัก-อิน ไฮบริด) หรือไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง วี 6 สูบ 3,456 ซีซี (รหัสเครื่องยนต์ 2GR-FXS) ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า ได้กำลังรวมสูงสุด 303 กิโลวัตต์/406 แรงม้า และส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง ECVT ฐานการผลิตของรถแบบนี้อยู่ในสหรัฐอเมริกา คือ โรงงานของ TOYOTA MOTOR MANUFACTURING, INDIANA (TMMI)   LEXUS TX รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ระดับหรูขนาดโตเต็มพิกัด ขับล้อหน้า/ขับทุกล้อ มิติตัวถัง 5.160-5.170x1.990x1.780 ม. ห้องโดยสาร 6/7 ที่นั่ง (2+2/3+2) LEXUS TX 350 (เทอร์โบเบนซินฉีดตรง 2,393 ซีซี 205 กิโลวัตต์/275 แรงม้า) LEXUS TX 500H (ไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊ก 273 กิโลวัตต์/366 แรงม้า) LEXUS TX 550H+ (ไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊ก 303 กิโลวัตต์/406 แรงม้า)