“ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ บดินทร์ อินทร์หน่อแก้ว ผู้จัดการฝ่ายขาย ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และ CLMV บริษัท คอนติเนนทอล ออโตโมทีฟ แบงคอก จำกัด
ฟอร์มูลา : เพราะเหตุใดจึงนำผลิตภัณฑ์ผ้าเบรค ATE (เอเท) เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ?
บดินทร์ : ประเทศไทยเป็นศูนย์การผลิตรถยนต์ และมีจำนวนรถสะสมบนท้องถนนมากกว่า 15 ล้านคัน และพบว่าผู้ใช้รถให้ความสำคัญกับการศึกษาหาข้อมูลสินค้าและผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งเราเชื่อว่า ผลิตภัณฑ์ ATE ตอบโจทย์เรื่องคุณภาพ มาตรฐานความปลอดภัย รวมถึงประสิทธิภาพของระบบเบรคที่ผู้ใช้รถสามารถมั่นใจ และเชื่อถือได้
ฟอร์มูลา : ผลิตภัณฑ์ ATE นำเข้ามาจากประเทศใด ?
บดินทร์ : ATE มีการคิดค้นนวัตกรรม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ควบคุมคุณภาพการผลิตที่เป็นมาตรฐานของ ATE พร้อมขยายฐานการผลิตผ่านโรงงานในหลายแห่ง ทั้งในยุโรป และเอเชีย เพื่อการตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ของการร่วมกันพัฒนาสินค้ากับผู้ผลิตรถยนต์ในแต่ละประเทศ รวมถึงความรวดเร็วในการจัดส่ง และบริการ ปัจจุบัน CONTINANTAL (คอนทิเนนทอล) มีเครือข่ายถึง 519 แห่ง ใน 57 ประเทศทั่วโลก ดังนั้น ATE จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจากยุโรป และกลุ่มประเทศอาเซียน
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม ได้แก่ ผ้าเบรคที่เป็นสูตรเฉพาะของ ATE มาตรฐานยุโรปเพื่อรถในอาเซียน ภายใต้คอนเซพท์ FORM AUTOBAHN TO ASEAN ROAD และยังมีผ้าเบรคสำหรับรถยุโรปทั้งผ้าเบรคแท้ติดรถยุโรป และผ้าเบรคอัพเกรดสูตรเซรามิค นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ประเภทอะไหล่ ได้แก่ จานเบรค, ดุมเบรค น้ำมันเบรค, ระบบไฮดรอลิคเบรค เช่น คาลิเพอร์, ระบบคลัทช์, WHEEL SPEED SENSORS และเครื่องมือและอุปกรณ์เฉพาะสำหรับศูนย์เบรค
สำหรับลูกค้าของผลิตภัณฑ์ ATE เดิมจะเน้นไปที่กลุ่มผู้ใช้รถบแรนด์ยุโรปที่ใช้ผลิตภัณฑ์ ATE แท้ ที่ติดตั้งมากับรถอยู่ก่อนแล้ว แต่ก็ได้ขยายกลุ่มลูกค้าไปยังผู้ใช้รถในอาเซียนให้กว้างขึ้น ทั้งกลุ่มรถบแรนด์ยุโรป และ กลุ่มรถบแรนด์เอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย และจีน โดย ATE มองถึงกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจในเรื่องความมั่นใจในการขับขี่ และความปลอดภัย และมุมมองเรื่องชีวิตที่ดี และให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับแรก พร้อมเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง และครอบครัว
ฟอร์มูลา : จุดเด่นของผลิตภัณฑ์มีอะไรบ้าง ?
บดินทร์ : ATE บแรนด์เยอรมนี เป็นผู้คิดค้น และผลิตระบบเบรคด้วยนวัตกรรมของตัวเองมากว่า 116 ปี เรามีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมระบบเบรคทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ผ้าเบรค จานเบรค น้ำมันเบรค ระบบไฮดรอลิค เครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับศูนย์เบรค ซึ่งใช้มาตรฐานจากเยอรมนีที่ได้รับการยอมรับของผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ของเราคำนึงถึงความปลอดภัย และความมั่นใจในการเบรคเป็นหลัก สิ่งที่ผู้ใช้รถจะได้รับ คือ ผ้าเบรค ATE ทุกชิ้นผ่านมาตรฐานยุโรป EC R90 ให้ประสิทธิภาพในการเบรคสม่ำเสมอความเร็วในช่วงออกตัวตลอดถึงช่วงที่ใช้ความเร็วสูง ระยะเบรคสั้น ตอบสนองฉับไว และให้ความรู้สึกปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากผลิตด้วยเทคโนโลยี COPPER FREE TECHNOLOGY ที่ผ่านมาตรฐาน NFS (NATIONAL SCIENCE FOUNDATION INTERNATIONAL) โดยผ้าเบรค ATE ได้รับเกรดขั้นสูงสุดสัญลักษณ์ใบใม้ครบ 3 ใบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์มาตรฐานที่สังเกตได้บนกล่องผลิตภัณฑ์ผ้าเบรค หากมีครบทั้ง 3 ใบ แปลว่า ผ้าเบรคนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำ สัตว์น้ำ และสัตว์ป่า
ฟอร์มูลา : ปัจจุบันมีช่องทางการจัดจำหน่ายทางใดบ้าง ?
บดินทร์ : ปัจจุบันจำหน่ายผ่านเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย เช่น ศูนย์บริการรถยนต์, ศูนย์บริการเบรค, ช่วงล่าง รวมถึงอู่รถยนต์ทั่วไป รวมทั้งยังมองถึงการสร้างเครือข่าย ATE BRAKE CENTER ศูนย์บริการเบรค ATE ในอาเซียน โดยการส่งผ่าน และแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านระบบเบรค และเทคนิคต่างๆ จากเยอรมนี สู่ศูนย์บริการเบรค ช่วงล่าง, อู่รถยนต์ และศูนย์เปลี่ยนยางรถยนต์ ภายใต้มาตรฐานสินค้า และบริการที่เข้าถึงง่าย และครอบคลุมพื้นที่บริการให้ได้มากที่สุด
ฟอร์มูลา : ATE เป้าหมายที่วางไว้ ?
บดินทร์ : ATE มองว่าตลาดอาเซียนมีขนาดใหญ่ และยังมีโอกาสที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเป้าหมายระยะแรกของ ATE คือ สร้างการรับรู้ในตราสินค้า และบแรนด์ โดยเจาะกลุ่มผู้ใช้รถยุโรป ทั้งผ้าเบรคแท้ที่ติดมากับรถยุโรป และผ้าเบรคอัพเกรดสูตรเซรามิค พัฒนาทักษะผู้เชี่ยวชาญระบบเบรค ATE และแต่งตั้งศูนย์ติดตั้งระบบครอบคลุมทุกจังหวัดในปี 2571 และภายในปี 2570 คาดว่าจะเป็นบแรนด์ที่ได้รับความชื่นชมในกลุ่มผู้ใช้ระดับ กลาง/สูง และช่วยส่งเสริมการขับขี่ที่ปลอดภัยบนท้องถนนให้มากขึ้น
อีกทั้งยังจะขยายการรับรู้ไปยังภูมิภาคอาเซียนทั้งหมดกว่า 85 % ภายใน 5 ปี พร้อมสร้างเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายครอบคลุมทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน ภายในปี 2567
บทความแนะนำ