ดีทรอยท์ เป็นเมืองหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ที่ผมได้ยินชื่อเสียงมานานหลาย 10 ปี ในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์โลก แต่เพิ่งมีโอกาสไปเยือนเมื่อเร็วๆ นี้เอง
ก่อนไปถึง ผมจินตนาการตามคำบอกเล่าของ บก. ต่างประเทศ ที่เป็นขาประจำของงาน “มหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์” ว่า เมืองนี้คงเงียบเหงาวังเวง เพราะประสบภาวะล้มละลาย และความยิ่งใหญ่ในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ก็กลายเป็นอดีตไปหมดแล้ว
ทว่าพอได้ไปสัมผัส แม้จะแค่ 3-4 วัน ผมกลับหลงรักความเงียบเหงา วังเวงของ ดีทรอยท์ ซะยังงั้น
ขอให้ลองนึกภาพ เมืองที่มีตึกรามทันสมัย ถนนสายใหญ่ ทางเท้ากว้างขวาง แถมสะอาดสะอ้าน แทบไม่เจอเศษขยะสักชิ้น และยังเงียบสงบ เพราะคนน้อยรถน้อย สภาพแวดล้อมสวยงาม มีสวนสาธารณะ และแม่น้ำ ดีทรอยท์ ที่กั้นเขตแดนระหว่าง ดีทรอยท์ กับประเทศแคนาดา
นี่คือ ดีทรอยท์ ที่ผมพบเจอ ถ้าเปรียบเป็นคน ก็คงเหมือนชายวัยชรา ที่ผ่านชีวิตทั้งช่วงสูงสุด และต่ำสุดมาอย่างโชกโชน จนลงตัวในจุดที่สมดุล สงบนิ่ง ไม่โอ้อวด แต่ก็ภาคภูมิใจกับอดีตที่เคยรุ่งเรือง
อีกเหตุผล ที่ทำให้ผมชอบ ดีทรอยท์ มากๆ อาจเป็นเพราะเมืองที่ผมไปเที่ยวก่อนหน้านั้น คือ นิวยอร์ค นครหลวงของโลก ที่บรรยากาศแตกต่างตรงกันข้ามกับ ดีทรอยท์ อย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม โปรดเข้าใจว่า การหลงรัก ดีทรอยท์ เป็นเพียงอารมณ์แบบ LOVE AT FIRST SIGHT ของผมเท่านั้น
ไม่มีเหตุผล หรือข้อมูลใดๆ มารองรับ
เอาเป็นว่า หลังจากคัดค้านมาตลอด ตอนนี้ผมชักอยากให้ไทยเป็น “ดีทรอยท์แห่งเอเชีย” แบบที่ผมเห็นอย่างผิวเผินนี่แหละ ซึ่งหมายถึง เมืองใหญ่ คนน้อย ถนนกว้าง รถเบาบาง ระบบขนส่งสาธารณะทั่วถึง สะดวกสบาย (แบบรถรางลอยฟ้า PEOPLE MOVER ในดีทรอยท์) และไม่จำเป็นต้องมีอุตสาหกรรมยานยนต์ใหญ่โตเกินตัว