และแล้วเราก็เดินทางมาถึงเดือนสุดท้ายของปี 2566
ผมขออนุญาตมอบความสุขเล็กๆ ส่งท้ายปีให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ด้วยคำยืนยันจากปากท่านนายกฯ คนใหม่ที่ว่า รัฐบาลจะไม่ทิ้ง หรือหักดิบอุตสาหกรรมรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน เพราะผู้ประกอบการได้ลงทุนไปแล้วมากมาย มีการจ้างงานทั้งระบบกว่า 6 แสนคน และเป็นแหล่งสร้างรายได้มหาศาลให้ประเทศ
แถมสำทับว่า เราพร้อมเป็นประเทศสุดท้ายของโลกที่ผลิตรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน
สังเกตให้ดีนะครับ ท่านไม่ได้บอกจะหันไปอุดหนุนรถสันดาปเป็นพิเศษ เพียงแต่จะไม่หักหาญตามอำเภอใจ
ที่ไม่ธรรมดา คือ หลังจากนั้น ท่านยังออกมา “ลูบหลัง” บรรดากองเชียร์อีวีด้วยว่า จะสนับสนุนการผลิต และการใช้รถไฟฟ้าต่อไป
เอากับเสี่ยนิดสิ !
ดังนั้น ใครที่วิตกจริตว่า รัฐจะยกเลิกการส่งเสริมรถไฟฟ้า ที่ลุงตู่ริเริ่มไว้ ก็คลายกังวลได้ เพราะ “มาตรการ EV 3.5” คงผ่านฉลุย ซึ่งหมายความว่า ตลาดรถไฟฟ้าจะเติบโตต่อไปแน่ ขณะที่ตลาดรถสันดาปก็จะไม่ถูกบอนไซอย่างผิดธรรมชาติ
ผมเชื่อว่า สิ่งที่ท่านนายกฯ พูด เป็นแนวทางการดูแลอุตสาหกรรมยานยนต์บ้านเรา ที่ถูกต้อง นั่นคือ การปล่อยให้การเปลี่ยนผ่านเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามธรรมชาติ โดยรัฐแค่คอยซัพพอร์ทอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ
พูดง่ายๆ ปล่อยให้กลไกตลาดทำงานของมันไป ไม่จำเป็นที่รัฐจะต้องเทคไซด์ด้านใดด้านหนึ่ง
ตรงกันข้าม รัฐต้องแสวงหาประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่นี้ให้ได้มากที่สุด ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
ทั้งจากอุตสาหกรรมเดิม และอุตสาหกรรมใหม่
หมายถึง ประโยชน์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์โดยส่วนรวมนะครับ ไม่ใช่สำหรับท่าน หรือผู้ผลิตกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ฉะนั้น การที่ท่านปฏิเสธที่จะทำโครงการ “รถไฟฟ้าคันแรก” จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมขอปรบมือให้ !
บทความแนะนำ