เขาว่า... : ผิวถนนที่ฉาบสารสีแดง ช่วยให้รถเกาะถนนเพิ่มขึ้น...จริงไหม ?
จริง : เนื่องจากพื้นสีแดง เป็นสีโพลีเมอร์แรงเสียดทานสูง ช่วยลดการลื่นไถลระหว่างหน้ายางกับผิวถนน ทำให้รถเกาะถนนขึ้น
สีแดงที่ฉาบไว้บนพื้นถนน คือ สารเคลือบผิวถนนเพื่อต้านการลื่นไถล (ANTI-SKID ROAD SURFACING MATERIAL) หรือสีโพลีเมอร์แรงเสียดทานสูง (HIGH-FRICTION POLYMER PAINT) ช่วยเพิ่มแรงเสียดทาน ลดการลื่นไถลของหน้ายางกับผิวถนน
ปัจจุบันกรมทางหลวงได้ใช้สารเคลือบผิวถนนสีแดง ในจุดที่มีความเสี่ยงที่รถของประชาชน จะเกิดการลื่นไถลได้ ส่วนใหญ่มักอยู่ตามโค้งกว้างความเร็วสูง หรือโค้งแคบที่ลาดชัน เราไปทำความเข้าใจสารเคลือบตัวนี้กันครับ
สิ่งที่ฉาบไว้บนพื้นถนน คือ สารกันลื่น ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สารเคลือบผิวถนนเพื่อต้านการลื่นไถล (ANTI-SKID ROAD SURFACING MATERIAL) หรือจะเรียกว่าสีโพลีเมอร์แรงเสียดทานสูง (HIGH-FRICTION POLYMER PAINT) ก็ได้ ประโยชน์ของมัน คือ ลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ จากการลื่นไถลของหน้ายางกับผิวถนน เมื่อใดก็ตามที่เราจำเป็นต้องอาศัยแรงเสียดทานสูงในการควบคุมรถ เช่น ขณะเบรค หรือขณะเลี้ยวบนทางโค้ง สารเหล่านี้จะช่วยให้สามารถควบคุมรถได้ง่ายขึ้น
สารที่ว่านี้ทำมาจากหินแร่อลูมิเนียม หรือบอกไซท์ (BAUXITE) ที่ถูกนำมาให้ความร้อนสูง และป่นเป็นผงละเอียดในขนาดเหมาะสม คุณสมบัติพิเศษที่ได้จากบอกไซท์ คือ ความแข็งแกร่ง การคงสภาพได้นานโดยที่ไม่อ่อนตัวตามกาลเวลา มีความเป็นเหลี่ยมคมเพื่อให้มันสามารถ “จิก” เกาะผิวของหน้ายางรถยนต์ได้ และยังทนทานพอต่อการสึกหรอ จากการกดทับของหน้ายางรถยนต์อยู่ตลอดเวลา ตำแหน่งที่เหมาะสมกับการฉาบสารกันลื่น ควรเป็นพื้นถนนที่ต้องการให้หน้ายางยึดเกาะด้วยแรงเสียดทานที่เพียงพอ ซึ่งก็คือ พื้นถนนที่ล้อของรถต้องรับแรงเบรค เช่น ก่อนถึงทางร่วม ทางแยก กับพื้นที่ที่ต้องรับแรงหนีศูนย์กลาง หรือทางโค้ง แต่มีข้อแม้อยู่ว่า “ห้ามฉาบขาดตอน เด็ดขาด” เพราะหากล้อออกนอกโค้ง ยึดเกาะกับผิวถนนไม่อยู่ โดยเฉพาะช่วงที่ต้องรับภาระทั้งแรงเบรค และแรงหนีศูนย์กลาง แม้ขาดเพียงเมตรเดียว รถก็อาจเสียการทรงตัวจนหมุนได้