เขาว่า... : รถเกียร์ซีวีที ต้องใช้เฉพาะน้ำมันเกียร์ซีวีที เท่านั้น...จริงไหม ?
จริง : เพราะเกียร์ซีวีที มีคุณสมบัติทำให้ฝืด ต่างจากน้ำมันเกียร์อัตโนมัติทั่วไป ที่ทำให้ลื่น
น้ำมันเกียร์อัตโนมัติทั่วไป มีหน้าที่ “หล่อลื่น” ผิวโลหะ ที่ส่งผ่านกำลังในทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ส่วนน้ำมันเกียร์ซีวีที มีหน้าที่สร้าง “ความฝืด” ระหว่างผิวโลหะ มิฉะนั้นสายพานจะลื่น จนครูดกับผนังพูลเลย์ ถ้าเอาน้ำมัน ATF ไม่ว่าจะ DEXRON 2 หรือ 3 มาใส่กับเกียร์ซีวีที ซึ่งมีคุณสมบัติต่างกัน รับรองว่าพังแน่นอนครับ
เกียร์ซีวีทียุคนี้ ถูกนำมาใช้กับรถยนต์หลายรุ่น เนื่องจากเปลี่ยนอัตราทดได้ต่อเนื่อง ไม่มีจังหวะ 4, 5, 6, 7, 8 หรือ 9 ตามจำนวนชุดฟันเฟืองแบบเกียร์อัตโนมัติปกติ จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมัน และมีราคาถูก
เกียร์ซีวีทีใช้สายพานเหล็กกล้าเป็นตัวถ่ายทอดกำลัง โดยคาดอยู่กับร่องทรงลิ่มของพูลเลย์ 2 ชุด โดยชุดหนึ่งเป็นชุดออกกำลัง (แรงบิด) ที่รับกำลังจากเครื่องยนต์โดยผ่านทอร์คคอนเวอร์เตอร์ อีกชุดหนึ่งเป็นชุดรับกำลัง (แรงบิด) แล้วส่งต่อผ่านเพลาขับไปสู่ล้อขับเคลื่อน พูลเลย์ทั้ง 2 ชุดนี้จะถูกสั่งให้กว้างสุด และแคบสุดต่อเนื่องตลอดเวลาขณะใช้งาน สายพานเหล็กเหล่านี้จึงรับภาระหนักมาก จำเป็นต้องพึ่งพาน้ำมันหล่อลื่นสูตรพิเศษเท่านั้น ที่เรียกว่า ซีวีที-เอฟ (CVT-F)
น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ซีวีที (CVT-FLUID) ต้องสร้าง “ความฝืด” ระหว่างผิวโลหะได้ดี มิฉะนั้นสายพานจะลื่น จนครูดกับผนังพูลเลย์ได้ ขณะเดียวกัน ถ้ามีการเสียดสีเกิดขึ้น (ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้) ตอนแผ่นเหล็กเข้า หรือออกจากร่องพูลเลย์ น้ำมันเกียร์ซีวีทีนี้จะต้องต้านการสึกหรอของโลหะได้ดีด้วย
ส่วนน้ำมันเกียร์อัตโนมัติทั่วไป (AUTOMATIC TRANSMISSION FLUID: ATF) มีหน้าที่ “หล่อลื่น” ผิวโลหะ ที่ส่งผ่านกำลังในทอร์คคอนเวอร์เตอร์ และต้องไม่ทำให้เกิดฟอง เวลาถูก “ปั่น” ด้วยความเร็วสูง รวมถึงต้องรักษาความหนืด หรือความข้นให้คงที่ โดยต้องมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่เสื่อมสภาพง่ายเพราะถูกออกซิเจน
ดังนั้นน้ำมันเกียร์ทั้ง 2 ชนิด จึงมีคุณสมบัติที่ต่างกันอย่างชัดเจน น้ำมันเกียร์อัตโนมัติทั่วไปต้องทำให้ลื่น ส่วนน้ำมันเกียร์ซีวีทีต้องทำให้ฝืด ถ้าเอาน้ำมัน ATF ไม่ว่าจะ DEXRON 2 หรือ 3 มาใส่กับเกียร์ซีวีที รับรองว่าพังแน่นอนครับ
บทความแนะนำ