รถใหม่จากแดนซากุระอีกแบบหนึ่งที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังในเดือนนี้ ไม่ใช่รถกิจกรรมกลางแจ้งพันธุ์แท้ที่ตัวถังมีโครงสร้างเหมือนรถพิคอัพ แต่เป็น CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ที่ตัวถังมีโครงสร้างเหมือนรถเก๋ง และเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 3 แถวแบบแรก ที่ยักษ์เล็กของญี่ปุ่น คือ MAZDA ส่งเข้าไปจำหน่ายในทวีปยุโรป
ในญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ มีรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์รหัส MAZDA CX-00 ให้เลือกเพียง 2 อนุกรม คือ MAZDA CX-30 (มาซดา ซีเอกซ์-30) กับ MAZDA CX-60 (มาซดา ซีเอกซ์-60)
อนุกรมแรกเป็นรถขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัดซึ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อกลางปี 2019 และขณะนี้มีขุมพลังขับเคลื่อนให้เลือกใช้ 2 แบบ คือ ขับล้อหน้า หรือขับทุกล้อด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรง และระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ กับขับล้อหน้า หรือขับทุกล้อด้วยเครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง พร้อมระบบ MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน และระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
อนุกรมหลังเป็นรถขนาดกลาง และเป็นรถขายดีที่สุดของค่ายนี้ในญี่ปุ่น เริ่มจำหน่ายเมื่อกลางปี 2022 และขณะนี้มีขุมพลังขับเคลื่อนให้เลือกใช้อย่างจุใจถึง 4 แบบ คือ ขับล้อหลัง หรือขับทุกล้อด้วยเครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับล้อหลัง หรือขับทุกล้อด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรง และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับทุกล้อด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรงพร้อมระบบ MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ กับขับทุกล้อด้วยระบบ PLUG-IN HYBRID (พลัก-อิน ไฮบริด) หรือไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซินฉีดตรงทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
ส่วน MAZDA CX-80 (มาซดา ซีเอกซ์-80) ที่กำลังอวดรูปทรงองค์เอวอยู่นี้ เป็นรถอนุกรมใหม่ เพิ่งเปิดตัวในยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน 2024 และจะเริ่มการจำหน่ายในฤดูใบไม้ร่วงของปีเดียวกัน (ประมาณไตรมาสสุดท้าย) เป็น FULL-SIZE CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดใหญ่ หรือขนาดโตเต็มพิกัด ในตัวถังทรง 2 กล่อง ยาว 4.995 ม. กว้าง 1.890 ม. และสูง 1.710 ม. ซึ่งมีช่วงฐานล้อยาว 3.120 ม. ห้องโดยสารที่กว้างขวาง และตกแต่งอย่างหรูหรา ติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 3 แถว นั่งได้รวม 6 หรือ 7 คน ที่นั่งแถว 2 มีให้เลือกถึง 3 แบบ คือ แบบเก้าอี้ 2 ตัว และมีคอนโซลอยู่ตรงกลาง แบบเก้าอี้ 2 ตัว และไม่มีคอนโซลอยู่ตรงกลาง กับแบบเก้าอี้ม้ายาวซึ่งนั่งได้รวม 3 คน ส่วนห้องเก็บของท้ายรถนั้น ในสภาพปกติมีขนาดความจุ 258 ลิตร แต่จะเพิ่มเป็น 687 ลิตร เมื่อพับราบพนักพิงที่นั่งแถว 3
เป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อ ซึ่งมีขุมพลังขับเคลื่อนให้เลือก 2 แบบ คือ ด้วยระบบ E-SKYACTIV PHEV (อี-สกายแอคทีฟ พีเอชอีวี) และด้วยระบบ E-SKYACTIV D (อี-สกายแอคทีฟ ดี)
E-SKYACTIV PHEV เป็นระบบ PLUG-IN HYBRID หรือไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 16 วาล์ว 2,488 ซีซี 141 กิโลวัตต์/191 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า 129 กิโลวัตต์/175 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ และแบทเตอรี LITHIUM-ION (ลิเธียม-ไอออน) 17.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ได้กำลังรวมสูงสุด 241 กิโลวัตต์/327 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 195 กม./ชม. และวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกล 60 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน WLTP
ส่วน E-SKYACTIV D เป็นระบบซึ่งใช้เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรง DOHC 6 สูบเรียง 24 วาล์ว 3,283 ซีซี 187 กิโลวัตต์/254 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับระบบ MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน 48 โวลท์ และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 219 กม./ชม.
ราคาเมื่อเริ่มการจำหน่าย คาดว่าจะเริ่มต้นที่ระดับ 59,000 ยูโร หรือประมาณ 2.35 ล้านบาทไทย
รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนทุกล้อ
มิติตัวถัง 4.995x1.890x1.710 ม. ห้องโดยสาร 6/7 ที่นั่ง
ระบบ PLUG-IN HYBRID 241 กิโลวัตต์/327 แรงม้า
เครื่องยนต์ดีเซลพร้อมระบบไฮบริดแบบอ่อน 187 กิโลวัตต์/254 แรงม้า
ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ