มีรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ สายเลือดผู้ดีสอดแทรกมาเพียงแบบเดียว คือ MINI ACEMAN (มีนี เอศแมน) ผลงานใหม่ของผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษที่ปัจจุบันมีฐานะเป็นสมบัติของ BMW GROUP (บีเอมดับเบิลยู กรุพ) กลุ่มบริษัทรถยนต์สัญชาติเยอรมัน
ปรากฏตัวให้เห็นเป็นครั้งแรกในรูปลักษณ์ของ CONCEPT CAR (คอนเซพท์คาร์) หรือรถแนวคิด เมื่อเดือนกรกฎาคม 2022 หลังจากนั้นอีกเกือบ 2 ปี คือ ที่งาน AUTO CHINA หรือมหกรรมยานยนต์ปักกิ่ง เมื่อเดือนเมษายน 2024 MINI ACEMAN จึงปรากฏตัวให้เห็นอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เป็น PRODUCTION CAR (พโรดัคชันคาร์) หรือรถผลิตเพื่อจำหน่ายสมบูรณ์แบบ
เป็น SUBCOMPACT CROSSOVER SUV (ซับคอมแพคท์ ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี) หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด และเป็น ELECTRIC SUV (อีเลคทริค เอสยูวี) หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ แบบที่ 2 ของค่ายนี้ ถัดจากรถ MINI COUNTRYMAN (มีนี คันทรีแมน) เป็นรถที่จะมีการผลิตทั้งในเมืองแม่ คือ สหราชอาณาจักรอังกฤษ และสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่รถพลังไฟฟ้ากำลังฟูเฟื่อง
ที่เริ่มต้นก่อน คือ การผลิตในสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งกระทำที่โรงงานของ SPOTLIGHT AUTOMOTIVE (สปอทไลท์ ออโทโมทีฟ) ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2018 โดยมี BMW GROUP ของเยอรมนี และ GREAT WALL MOTOR (กเรท วอลล์ มอเตอร์) ของจีนถือหุ้นฝ่ายละครึ่ง โรงงานที่ว่านี้ตั้งอยู่ที่เมือง ZHANGJIAGANG (จางเจียก่าง) ในมณฑล JIANGSU (เจียงซู) ส่วนการผลิตในอังกฤษ ซึ่งกระทำที่โรงงานในเมือง OXFORD (ออกซ์ฟอร์ด) มีกำหนดเริ่มต้นในปี 2026 เพราะขณะนี้โรงงานกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุง ด้วยเงินทุน 600 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 27,600 ล้านบาทไทย
มีขนาดตัวถัง ยาว 4.07 ม. กว้าง 1.75 ม. และสูง 1.50 ม. รูปทรงองค์เอว และรายละเอียดของตัวถังส่วนหน้า ได้รับอิทธิพลจากรถพลังไฟฟ้า MINI COOPER (มีนี คูเพอร์) ซึ่งเปิดตัวเมื่อกลางปี 2023 แต่ส่วนท้ายเห็นแล้วชวนให้นึกถึงรถ MINI COUNTRYMAN (มีนี คันทรีแมน) รุ่นล่าสุด ซึ่งก็เพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2023 เช่นกัน ภายในห้องโดยสารที่นั่งได้รวม 5 คน ก็ออกแบบสไตล์เดียวกันกับรถ MINI COOPER และ MINI COUNTRYMAN ห้องเก็บของท้ายรถมีขนาดความจุแค่ 300 ลิตร แต่จะเพิ่มเป็น 1,005 ลิตร เมื่อพับราบพนักพิงเบาะหลัง ที่แบ่งเป็น 2 ส่วนในลักษณะ 60:40
ในระยะแรกจะมีรถให้เลือกเพียง 2 โมเดล คือ MINI ACEMAN E กับ MINI ACEMAN SE ทั้งคู่เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า ที่จะตามมาในภายหลัง แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าเมื่อใด ? คือ MINI ACEMAN JOHN COOPER WORKS (มีนี เอศแมน จอห์น คูเพอร์ เวิร์คส์) ซึ่งจะตกแต่งแบบสปอร์ท และ “ลุย” ได้ดีกว่ารถ 2 โมเดลแรก
MINI ACEMAN E ซึ่งค่าตัวในอังกฤษเริ่มต้นที่ 31,800 ปอนด์ หรือประมาณ 1.46 ล้านบาท ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า และแบทเตอรี LITHIUM-TERNARY (ลิเธียม-เทอร์นารี) ขนาดความจุ 42.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีระยะเดินทาง 298-310 กม. และมีอัตราสิ้นเปลืองพลังไฟฟ้า 14.1-14.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
ส่วน MINI ACEMAN SE ซึ่งค่าตัวเริ่มต้นที่ 36,300 ปอนด์ หรือประมาณ 1.67 ล้านบาท ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 160 กิโลวัตต์/218 แรงม้า และแบทเตอรี LITHIUM-TERNARY ขนาดความจุ 54.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีระยะเดินทาง 382-406 กม. และมีอัตราสิ้นเปลืองพลังไฟฟ้าเฉลี่ย 13.9-14.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม.
ในอังกฤษ รถทั้ง 2 โมเดลนี้ มีระดับการตกแต่ง/ติดตั้งอุปกรณ์ (TRIM) ให้เลือก 3 ระดับ กำกับด้วยรหัส CLASSIC-EXCLUSIVE-SPORT แต่ในบางตลาดมี 4 ระดับ คือ ESSENTIAL TRIM-CLASSIC TRIM-FAVOURED TRIM-JCW TRIM
รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ
มิติตัวถัง 4.07x1.75x1.50 ม. ห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง
มอเตอร์ไฟฟ้า 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า หรือ 160 กิโลวัตต์/218 แรงม้า
ระยะเดินทาง 298-310 กม. หรือ 382-406 กม. (มาตรฐาน WLTP)
ราคาในอังกฤษ เริ่มต้นที่ 31,800 ปอนด์ (ประมาณ 1.46 ล้านบาทไทย)