ก่อนสิ้นปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปใช้เวลาช่วงสั้นๆ ที่ ปารีส และโตเกียว ปรากฏว่า สะบักสะบอมกลับมาทั้งสองครั้ง !
ทั้งสองเมืองเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่เอาจริงๆ แล้ว ปารีสไม่ได้เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวสักเท่าไร ส่วนโตเกียว แม้จะยังยินดีต้อนรับพวกเราอยู่ ทว่าก็ไม่ปลอดภัย 100 เปอร์เซนต์เหมือนเดิม
ในปารีสนั้น ขโมยขโจรชุกชุมยิ่งกว่ายุง โดยเฉพาะจำพวกนักล้วง และนักฉกชิงวิ่งราว ซึ่งมักมีทำเลหากินอยู่ตามสถานี และชานชาลารถไฟฟ้าใต้ดิน โดยกลุ่มทาร์เกทของพวกมันก็คือ บรรดานักท่องเที่ยวอย่างพวกเรานั่นเอง
ผมได้ยินข่าวแบบนี้มาเยอะ แต่ไม่เคยเจอกับตัวเอง อาจเพราะหน้าตาท่าทางดูไม่คุ้มค่าการลงทุน จนกระทั่งครั้งล่าสุดนี่แหละ ที่ (เกือบ) กลายเป็นผู้ประสบภัยจริงๆ
เหตุเกิดในชานชาลารถไฟฟ้าใต้ดินสายหนึ่ง มีคนรอค่อนข้างเยอะ พอรถไฟมาถึง ต่างคนต่างรีบแย่งกันขึ้น รวมทั้งผม หลังจากนั้นทุกอย่างก็เกิดขึ้นเร็วมาก
ผมรู้สึกมีมือมายุ่มย่ามที่กระเป๋าสะพายของผม จากนั้น เด็กสาวอายุราวไม่เกิน 15 คนหนึ่ง ก็ถูกหนุ่มฝรั่งตัวใหญ่ คว้าตัวเธอเหวี่ยงออกจากประตูรถไฟไป ก่อนประตูจะปิดเพียง 1-2 วินาที
ขณะผมกำลังยืนงงๆ หนุ่มฝรั่งก็หันมาชี้ที่กระเป๋าผม พร้อมขยิบตาให้ ปรากฏว่า ซิพกระเป๋าเปิดอ้าไปแล้วครึ่งทาง ผมเข้าใจทันทีว่า ตนเองเกือบเสียท่ามิจฉาชีพ โชคดีที่ได้ฝรั่งฮีโรช่วยไว้
ปารีสอันตรายจริงๆ !
ส่วนโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น แม้จะเริ่มมีปัญหาอาชญากรรมเกิดกับนักท่องเที่ยว แต่ถือว่ายังน้อยมาก ที่น่ากลัวกว่า คือ เรื่องโรคระบาด เพราะโตเกียวเป็นเมืองที่ผู้คนแออัดสุดๆ โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ฉะนั้น โรคระบาดในโตเกียวจึงเกิดขึ้นง่าย และแพร่กระจายรวดเร็ว
ตอนผมไปถึง โตเกียวหนาวมาก และกำลังเผชิญกับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A (สายพันธุ์รุนแรงที่สุด) แล้วมีหรือที่ผมจะพลาด
ผมกลับมานอนซมเพราะพิษไข้หวัดใหญ่อยู่ 5 วันเต็มๆ
อย่างไรก็ตาม ถึงจะอันตราย หรือไม่ปลอดภัย แต่ปารีส และโตเกียว ก็ยังเป็นสองเมืองที่ผมหลงรักเสมอ
อ้อ...ภรรยาผมไม่ได้เป็นคนฝรั่งเศส หรือญี่ปุ่นนะครับ