ปิด “ระเบียงรถใหม่” ในเดือนแห่งการชุมนุมรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ อีกครั้งหนึ่ง ด้วย KIA EV4 (เกีย อีวี 4) รถอนุกรมใหม่ล่าสุดของผู้ผลิตรถยนต์เมืองโสมขาว เพิ่งเปิดตัวที่งาน 2025 KIA EV DAY ซึ่งมีขึ้นที่เมือง TARRAGONA ในสเปน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2025 และขณะนี้เริ่มการจำหน่ายในเมืองแม่ไปเรียบร้อยแล้ว
นับเป็นรถพลังไฟฟ้า KIA EV (เกีย อีวี) อนุกรมที่ 4 ถัดจากรถอีก 3 อนุกรมที่เห็นกันมาแล้วก่อนหน้านี้ คือ KIA EV3 (เกีย อีวี 3) รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธ์ขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด ที่เริ่มการจำหน่ายเมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 KIA EV6 (เกีย อีวี 6) รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดกลางซึ่งเริ่มการจำหน่ายเมื่อเดือนสิงหาคม 2021 และรถกิจกรรมข้ามพันธุ์ขนาดใหญ่ KIA EV9 (เกีย อีวี 9) ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2023
ที่แตกต่างจากรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ตระกูล KIA EV อนุกรมอื่น ๆ ก็คือ KIA EV4 ไม่ใช่รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ แต่เป็นรถเก๋งขนาดเล็กกะทัดรัดที่มีตัวถังให้เลือก 2 แบบ คือ ตัวถัง 4 ประตูซีดาน 5 ที่นั่ง (คันสีน้ำเงิน) ซึ่งมีขนาดตัวถัง ยาว 4.730 ม. กว้าง 1.860 ม. สูง 1.480 ม. มีช่วงฐานล้อยาว 2.820 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำสุด 0.23 กับตัวถัง 5 ประตูแฮทช์แบค 5 ที่นั่ง (คันสีขาว) ซึ่งมีขนาดตัวถัง ยาว 4.430 ม. กว้าง 1.860 ม. สูง 1.485 ม. และมีช่วงฐานล้อยาว 2.820 ม. เท่ากันกับรถซีดาน ตัวถัง 2 แบบนี้มีลักษณะร่วมอยู่หลายจุด เช่น มีจมูกรถค่อนข้างต่ำ มีตัวถังกว้าง มีโคมไฟหน้าวางตัวในแนวตั้ง และมีหน้ารถที่ออกแบบเหมือน TIGER FACE หรือ “หน้าเสือ”
ตัวถังซีดานซึ่งเริ่มการผลิตเมื่อกลางเดือนมีนาคม 2025 และเริ่มการจำหน่ายแล้วในเกาหลีใต้ ใช้โรงงาน SOHARI PLANT ที่เมือง GWANGMYEONG เป็นฐานการผลิต ส่วนตัวถังแฮทช์แบคซึ่งสั้นกว่ากันถึง 30 ซม. และมีทวีปยุโรปเป็นตลาดเป้าหมาย จะเริ่มการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยใช้โรงงานในสโลวะเกียเป็นฐานการผลิต นอกจากนั้น ในระยะต่อไปยังจะมีการผลิตในทวีปอเมริกาเหนือ และภูมิภาคอื่นๆ อีกต่างหาก ทั้ง 2 ตัวถังออกแบบ/พัฒนาโดยใช้ E-GMP หรือ ELECTRIC GLOBAL MODULAR PLATFORM ที่ค่ายนี้ทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับรถพลังไฟฟ้า และใช้ระบบไฟฟ้า 400 โวลท์
เฉพาะตัวถังซีดาน เมื่อเริ่มการจำหน่ายในเกาหลีใต้ KIA EV4 มีแต่รถขับเคลื่อนล้อหน้า และมีรถให้เลือก 2 โมเดล คือ KIA EV4 STANDARD (เกีย อีวี 4 สแตนดาร์ด) ซึ่งติดป้ายค่าตัว 42.570 ล้านวอน หรือประมาณ 1.022 ล้านบาทไทย กับ KIA EV4 LONG RANGE (เกีย อีวี 4 ลอง เรนจ์) ซึ่งติดป้ายค่าตัว 47.000 ล้านวอน หรือประมาณ 1.128 ล้านบาทไทย
โมเดลแรก ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีขนาดความจุ 58.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม. กรณีชาร์จไฟเต็ม ใช้ยางล้อขนาด 17 นิ้ว และวัดตามมาตรฐาน WLTP จะวิ่งได้ไกล 430 กม.
โมเดลหลัง ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีขนาดความจุ 81.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม. กรณีชาร์จไฟเต็ม ใช้ยางล้อขนาด 17 นิ้ว และวัดตามมาตรฐาน WLTP จะวิ่งได้ไกลถึง 630 กม.
ส่วนตัวถังแฮทช์แบคที่ยังไม่เริ่มการผลิต ก็กำหนดไว้แล้วว่าจะใช้ระบบขับชุดเดียวกันกับตัวถังซีดาน และจะมีรถให้เลือก 2 โมเดลหลัก คือ KIA EV4 BASE (เกีย อีวี 4 เบส) ซึ่งเมื่อชาร์จไฟเต็ม ใช้ยางล้อขนาด 17 นิ้ว และวัดตามมาตรฐาน WLTP จะวิ่งได้ไกล 410 กม. กับ EV EV4 LONG RANGE (เกีย อีวี 4 ลอง เรนจ์) ซึ่งวิ่งได้ไกลถึง 590 กม.
KIA EV4
บทความแนะนำ