แล่นไปในสายน้ำ
PARDO GT75
คือ เรือเดินทะเลสำหรับ 1 วัน เรือล่องทะเลแบบครูเซอร์ หรือซูเพอร์ยอชท์ขนาดย่อม เรามุ่งหน้าไปยังโมนาโคเพื่อไขข้อข้องใจนี้
เรือที่จอดอย่างสง่างามอยู่ข้างโป๊ะที่ PORT FONTVIEILLE ลำนี้ผสมผสานความโปร่งโล่งแบบเรือเดินทะเลซีรีส์ P (P-SERIES WALKAROUND BOAT) เข้ากับความสะดวกสบายที่มากขึ้น ความสามารถในการใช้งานตลอดทั้ง 4 ฤดู และคุณสมบัติการล่องเรือระยะไกลของซีรีส์ ENDURANCE ซึ่งมาพร้อมกับห้องบังคับการ (PILOTHOUSE) ของ PARDO
แนวคิดเบื้องหลังนั้น แน่นอนว่า คือ การยกระดับศักยภาพด้านสันทนาการของเรือลำนี้ พวกเขาต้องการให้มันสามารถใช้งานได้ดีสำหรับนักเดินเรือตัวยง ในขณะเดียวกันก็ยังคงมอบประสบการณ์การล่องเรือเที่ยวแบบไป-กลับใน 1 วัน ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญที่ทำให้เรือของบแรนด์นี้เป็นที่ต้องการอย่างมาก ที่จริงแล้ว เมื่อพิจารณาว่าผู้ผลิตสัญชาติอิตาเลียนรายนี้เพิ่งเริ่มสร้างเรือยนต์ตั้งแต่ปี 2017 ก็ถือว่าน่าทึ่งมากที่สูตรหลักของบแรนด์กลายเป็นสิ่งที่จดจำได้ง่ายเช่นนี้ และแน่นอนว่า จากมุมมองภายนอก รูปลักษณ์ของเรือธงรุ่นใหม่นี้ ก็ดู “PARDO” อย่างไม่มีข้อสงสัยเลย
ด้านหน้าของเรือเป็นหัวเรือทรงกลับ (REVERSE BOW) พร้อมหัวเรือที่แหวกคลื่นได้ดี กับแนวเส้นตัวถังเรียบยาวที่ไม่มีราวจับด้านข้าง และมีหน้าต่างลำตัวทรงเหลี่ยมต่ำ 3 บาน ส่วนห้องบังคับการนั้นออกแบบให้เตี้ย และกะทัดรัด ใช้กระจกกรองแสงเป็นส่วนประกอบหลัก และมีบานกระจกหน้าทรงกลับ ตัวเรือสีเงินเมทัลลิคดูโดดเด่นสะดุดตาอย่างมาก แต่ถึงแม้จะมีห้องรับรองหลักบนดาดฟ้าหลักที่ได้รับการปกป้องจากลมฟ้าอากาศ ก็ยังเห็นได้ชัดว่า พื้นที่กลางแจ้งสำหรับการใช้งานระหว่างวัน ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบเรือลำนี้อยู่ดี
เตียงอาบแดดบริเวณหัวเรือมาพร้อมพนักพิงถ่วงน้ำหนัก ทำให้คุณสามารถปรับจัดตำแหน่งได้ตามต้องการ
พแลทฟอร์มท้ายเรือแบบพับลงได้ สามารถยกขึ้นมาใช้งานเป็นพแลทฟอร์มดำน้ำได้เช่นกัน
เข้าถึงธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด
เมื่อคุณก้าวขึ้นจากท้ายเรือ จะพบกับขั้นบันไดที่ทอดตัวลงอย่างอิสระ ทั้ง 2 ฝั่งของเบาะอาบแดดขนาดใหญ่ตรงกลาง ตั้งแต่ห้องนั่งเล่น (COCKPIT) ไปจนถึงพแลทฟอร์มว่ายน้ำ เป็นดีไซจ์นแบบ 3 ระดับที่น่าสนใจ แม้ว่าจะมี 4 ขั้นจากพแลทฟอร์มว่ายน้ำขึ้นมาถึงระดับเตียงอาบแดด และอีก 2 ขั้นจากจุดนั้นสู่ห้องนั่งเล่น แต่ทั้งหมดนี้ให้ความรู้สึกนุ่มนวล และเชื่อมต่อกันอย่างกลมกลืนด้วยการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ แถมระเบียงแบบพับลงด้านข้างก็ช่วยเติมเต็มพื้นที่ แม้จะไม่ได้ยาวมาก แต่ก็ค่อนข้างกว้าง ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้พื้นที่เพิ่มขึ้น ทั้ง 2 ฝั่งของเบาะอาบแดดตรงกลาง ส่วนเบาะอาบแดดนั้นเองก็ใหญ่พอที่จะรองรับได้ 6-8 คนพร้อมกัน พร้อมพื้นที่นั่งเล่นแบบตัว C ขนาดใหญ่ในห้องนั่งเล่นด้านหลัง บนดาดฟ้ายังมีพื้นที่มากพอสำหรับเฟอร์นิเจอร์แบบไม่ตั้งพื้น ทำให้สามารถรองรับแขกได้ถึง 10 คนอย่างสบายๆ เมื่อคุณนับรวมพแลทฟอร์มไฮดรอลิคตรงกลางท้ายเรือ ที่สามารถพับลงในน้ำ หรือยกขึ้นเป็นแท่นดำน้ำพร้อมขั้นบันไดในตัวแล้ว นี่ถือเป็นบีชคลับสุดหรูที่หาดูได้ยากบนเรือขนาดเท่านี้
เพื่อย้ำจุดนี้ กัปตันถึงกับดับเครื่องยนต์ และขอพักชั่วคราวเพื่อดื่มเอสเปรสโซ และลงว่ายน้ำ เมื่อระเบียงด้านข้างพับลง พแลทฟอร์มท้ายเรือยกขึ้น เบาะอาบแดดตรงกลางก็เต็มไปด้วยผู้โดยสารที่ทาน้ำมันกันพร้อม โดยทั้งเรา และลูกเรือ 14 คน สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างสบาย ไม่อึดอัด
แม้ว่าเรือลำนี้จะใช้ระบบขับเคลื่อน IPS แบบ 3 เครื่องยนต์ แต่ยังคงมีพื้นที่ใต้เบาะอาบแดดมากพอสำหรับเก็บเรือยางเจทเทนเดอร์ขนาด 3.7 ม. ที่สูบลมไว้เรียบร้อยแล้ว
หากว่าการจัดสรรพื้นที่ท้ายเรือนี้ดูเป็นความสำเร็จ ความประณีตของงานตกแต่งก็ไม่แพ้กัน พื้นไม้สักธรรมชาติที่ไม่ได้เคลือบ แลดูเป็นประกายเงินเมื่อต้องแสงแดดเมดิเตอร์เรเนียน ให้สัมผัสที่ยอดเยี่ยมใต้ฝ่าเท้า
ส่วนงานสแตนเลสส์ก็โดดเด่นเกินมาตรฐาน
แม้งานโลหะจะมีน้อยกว่าที่คุณคาดไว้ เพราะราวจับไม้สักด้านข้างเปลี่ยนเป็นเสาไฟเบอร์คาร์บอนถอดได้ สำหรับกันสาด แทนที่จะใช้ราวเหล็ก แต่ในแง่ของการใช้งานก็ยังยอดเยี่ยม
มีช่องเติมน้ำมัน และระบายของเสียหลายจุด ระบบสมอเรือก็ใช้งานได้จริง และสวยงาม เพราะโซ่สมอถูกแยกเก็บไว้ในช่องเฉพาะ ช่วยให้สามารถใช้พื้นที่หัวเรือที่เป็นทรงตรงได้อย่างเต็มที่สำหรับการจัดเก็บเชือก และกันกระแทก และแม้พื้นที่จะกว้างขวางอยู่แล้ว แต่ดาดฟ้าแบบ WALKAROUND พร้อมประตูด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง และพวงมาลัยเสริมบริเวณคอคพิท ก็ช่วยให้เรือลำนี้เหมาะสำหรับเจ้าของที่ต้องการขับเอง
นอกจากนี้ ยังมีห้องพักลูกเรือแบบ 2 เตียงบริเวณหัวเรือ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านช่องเปิดบนดาดฟ้าตรงจุดต่ำสุดของหัวเรือ คุณจึงสามารถมอบหน้าที่นี้ให้มืออาชีพดูแล หากคุณต้องการ
แต่แน่นอนว่าในสไตล์ของ PARDO หัวเรือไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ทำงาน ที่นั่นมีพื้นที่รับประทานอาหารแบบตัว C ซ่อนตัวอย่างมีสไตล์ใต้กระจกหน้าทรงกลับ พร้อมเบาะอาบแดดด้านหน้า และพนักพิงแบบถ่วงน้ำหนักที่สามารถขยับตำแหน่งได้ตามใจคุณ เช่นเดียวกับในคอคพิท ที่นั่งบริเวณนี้มีตู้เย็นแบบเลื่อนเก็บอยู่ด้านล่าง และทุกองค์ประกอบก็ถูกขยายขนาดให้ใหญ่กว่ามาตรฐาน จนสามารถรองรับได้ถึง 12 หรือ 14 คนอย่างสบาย
พื้นที่พักผ่อนภายใน
เมื่อคุณก้าวย้อนกลับเข้าสู่ห้องบังคับการ อาจรู้สึกแปลกใจว่าทำไมพื้นที่ภายในห้องรับรองจึงถูกจัดสรรไว้น้อยมาก ด้วยหัวเรือที่ยาว และพื้นที่บีชคลับขนาดใหญ่ด้านท้าย ทำให้แม้แต่เรือยาว 75 ฟุตก็แทบไม่มีพื้นที่เหลือ
แต่พื้นที่ภายในที่มีอยู่นั้น ก็ได้รับการออกแบบใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านซ้าย (PORT SIDE) มีมุมรับประทานอาหารขนาดเล็ก หันหน้าไปยังครัวฝั่งขวา (STARBOARD) และด้านหน้าอีกเล็กน้อย มีที่นั่งกัปตัน 3 ที่อยู่กลางลำ โดยมีตู้เก็บของขนาดใหญ่คั่นระหว่างพื้นที่ควบคุมเรือกับพื้นที่ด้านหลัง
“ทั้งเรา และลูกเรือ 14 คน สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างสบาย ไม่อึดอัด”
หลังคาระแนงปรับได้ ช่วยให้คุณควบคุมแสง และการระบายอากาศได้ตามต้องการ
มีรายละเอียดหลายจุดบนเรือลำนี้ที่สะท้อนกลิ่นอายของไลฟ์สไตล์ซูเพอร์ยอชท์อย่างชัดเจน
คอคพิทยกพื้นมาพร้อมพื้นที่กว้างขวางสำหรับวางเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเพิ่มเติม
บริเวณด้านซ้ายของห้องควบคุม (PORT OF THE HELM) มีทั้งตู้แช่ไวน์ และโต๊ะเขียนแผนที่ พร้อมด้วยประตูด้านข้างที่ใช้งานสะดวกทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนทัศนวิสัยที่ดีมากอยู่แล้ว ก็สามารถดีขึ้นได้อีกหากคุณเลือกไม่ติดตั้งตู้เก็บของแบบแขวนสูงในห้องรับรอง
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดในจุดนี้ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นมุมรับประทานอาหารทรงตัว L ที่ขยายออกมาสู่กึ่งกลางของห้อง ทำให้คุณสามารถหันหน้าไปพูดคุยกับแขกที่นั่งอยู่ในคอคพิทได้โดยไม่ขวางทางเดิน อีกจุดที่ควรกล่าวถึง คือ ช่องรับแสงเหนือศีรษะแบบระแนง ที่พบได้ไม่บ่อยนักในห้องรับรองกลาง แต่ในกรณีนี้ ผู้ผลิตก็สามารถจัดการแสง และการระบายอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม
ด้านเลย์เอาท์แบบ “มาตรฐาน” ของเรือทดสอบลำนี้ การที่วางครัวไว้บนดาดฟ้าหลัก ทำให้ด้านล่างมีห้องนอน 3 ห้อง พร้อมเลาน์จ์ขนาดใหญ่บริเวณกลางลำ หนือคุณจะตัดเลาน์จ์ชั้นล่างออกไปเพื่อเพิ่มห้องนอนเป็น 4 ห้อง หรือเลือกเปลี่ยนห้องนอนแฝดด้านขวา ให้กลายเป็นครัว และเลาน์จ์แบบเปิดโล่งขนาดใหญ่ เพื่อเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตในชั้นล่างก็ได้ ในกรณีนั้น ครัวด้านขวาของห้องรับรองชั้นบนจะถูกแทนที่ด้วยพื้นที่นั่งเล่นเพิ่มเติม และตู้เก็บของแนวขวางด้านหลังที่นั่งกัปตัน ก็สามารถเลือกติดตั้งอ่างล้างจาน ตู้เย็น และเครื่องทำน้ำแข็งได้ เพื่อให้สามารถบริการแขกบนดาดฟ้าหลักได้โดยไม่ต้องลงไปชั้นล่างนั่นเอง
เราเคยเห็นเลย์เอาท์แบบ 2 ห้องนอนบนเรือโชว์ในงานคานส์ และถ้าคุณสามารถยอมสละห้องนอนที่เพิ่มขึ้นได้ นี่ก็เป็นวิธีใช้พื้นที่ที่สนุก และคุ้มค่ามาก แต่แม้แต่เรือลำนี้ที่เป็นเลย์เอาท์มาตรฐาน ซึ่งไม่ได้อลังการเท่า ก็ยังคงรักษาสมดุลระหว่างการใช้งานจริงกับความหรูหราที่ไม่เว่อร์วังได้อย่างดีเยี่ยม ตัวอย่างเช่น การที่ห้องลูกเรืออยู่ที่ส่วนหัวเรือ ทำให้ห้อง VIP ด้านหน้าเลื่อนมาด้านหลังเล็กน้อย ลดความเรียวของพื้นที่ และให้ความรู้สึกเหมือนห้องเจ้าของเรือแบบเต็มลำ (FULL-BEAM OWNER’S SUITE) เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ บนเรือลำนี้ ห้องนี้ใช้ตู้แขวน และชั้นวางของที่มีไฟ LED แบบ AMBIENT ส่องเน้น พร้อมผนังกระจก และสแตนเลสส์ที่ช่วยให้ของใช้ต่างๆ ถูกแสดงออกมาอย่างหรูหรา แทนที่จะถูกซ่อนไว้ เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่สมมาตรทั้ง 2 ฝั่งมีทั้งตู้เสื้อผ้าแบบแขวน 2 ตู้ และห้องน้ำในตัวด้านขวาของห้อง VIP ก็มาพร้อมโถสุขภัณฑ์ และโถชำระ รวมถึงห้องอาบน้ำที่ใหญ่พอสำหรับ 2 คน พร้อมฝักบัว RAIN SHOWER ที่มีไฟ LED ติดตั้งอยู่ภายในหัวฝักบัวแบบฝังเพดาน
เมื่อเดินถัดจากห้องซักล้าง และห้องอเนกประสงค์ด้านซ้าย มายังเลาน์จ์กลางลำ จะพบห้องนอนแฝดอยู่ด้านขวา ซึ่งเชื่อมต่อโดยตรงกับห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันในเวลากลางวัน
“หลักการของเรือขนาด 75 ฟุตลำนี้ คือ การถ่ายทอดความรู้สึกถึงคุณภาพอย่างแท้จริง และเบื้องหลังรูปลักษณ์ที่ดูเหมือนซูเพอร์ยอชท์นั้น มันก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน”
แม้จะมีห้องบังคับการแบบปิด แต่ยังคงรักษาความสวยงามคลาสสิคในสไตล์เรือเดินเล่นแบบ PARDO ไว้ได้อย่างชัดเจน
มุมรับประทานอาหารยื่นออกมาสู่กึ่งกลางของห้องรับรอง
หากคุณเลือกเลย์เอาท์แบบ 2 ห้องนอน ครัวด้านขวาของห้องรับรองจะถูกแทนที่ด้วยที่นั่งเพิ่มเติม
และเมื่อคุณก้าวลึกเข้าไปอีกหน่อย คุณจะพบกับห้องนอนเจ้าของเรือแบบเต็มความกว้างของลำเรือบริเวณกลางลำ เตียงนอนถูกจัดวางเยื้องไปทางขวา โดยมีโต๊ะแต่งตัวขนาดเล็กที่ติดตั้งอย่างเรียบร้อยอยู่บริเวณผนังหัวเตียงด้านหน้า การจัดวางแบบนี้ช่วยให้พื้นที่พื้นฝั่งซ้าย ว่างพอที่จะใช้สำหรับออกกำลังกาย หรือยืดเส้นยืดสายยามเช้าได้อย่างสบาย ภายในห้องยังมีตู้เย็นเพิ่มเติมอีก (เราเห็นรวมทั้งหมดถึง 14 ตู้ทั่วทั้งลำเรือขณะเดินสำรวจ) พร้อมโซฟาสำหรับนั่ง 2 คน บริเวณด้านซ้ายข้างเตียง ขนาบด้วยโต๊ะเก็บของที่ใช้งานสะดวก และห้องน้ำขนาดใหญ่ที่ตกแต่งหรูหราอีกห้องหนึ่ง เช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ของเรือ PARDO ได้เลือกที่จะไม่ยัดฟังค์ชันมากเกินไปในพื้นที่จำกัด หลักการที่ใช้ดูเหมือนจะเป็นการ “ส่งมอบคุณภาพระดับซูเพอร์ยอชท์ในขนาดเรือ 75 ฟุต” และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จอย่างแท้จริง ภายในที่ออกแบบโดย NAUTA DESIGN ให้ความรู้สึกสมดุล และกลมกลืนอย่างมาก แม้ว่าจะไม่มีเลาน์จ์ชั้นล่างขนาดมหึมาราววิหาร อย่างในรุ่น 2 ห้องนอน แต่เรือลำนี้ก็ยังเปล่งประกายด้วยบรรยากาศเย็นสบาย คล้ายกับเชิญชวนให้มาพักผ่อน เพื่อฟื้นฟูสุขภาพอย่างแท้จริง
สัมผัสการขับขี่ที่เหนือระดับ
เมื่อคุณขึ้นไปจับพวงมาลัย ตำแหน่งของห้องควบคุมจะให้ความรู้สึกน่าประทับใจ ด้วยการยกระดับพื้นที่นั่งขึ้นตรงกลางบนแท่นยกสูง พร้อมทัศนวิสัยชัดเจนผ่านกระจกหน้าตรงชิ้นเดียวแบบย้อนเอียง ให้ความรู้สึกราวกับคุณอยู่บนเวที พร้อมจะเปิดการแสดงที่ยิ่งใหญ่ แต่จริงๆ แล้ว การขับเรือลำนี้กลับไม่ได้ให้ความรู้สึก “ดรามา” อะไรแบบนั้น
แน่นอนว่าเมื่อขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ VOLVO PENTA IPS-1350 รุ่นอัพเกรด เรือย่อมตอบสนองต่อคันเร่งได้รวดเร็ว และสามารถเลี้ยวได้อย่างเฉียบคม แถมยังมีอาการเอียงตัว แบบที่คุณอาจไม่คาดคิดในเรือขนาดนี้
แต่สิ่งที่สร้างความประทับใจจริงๆ คือ ความนิ่ง และการปรับจูนที่ละเอียดอ่อนของเรือ ด้วยการออกแบบทางวิศวกรรมโดย ZUCCHERI YACHT DESIGN ตัวเรือถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อใช้งานกับระบบ IPS ของ VOLVO PENTA และเมื่อออกเดินทางจริง มันก็แล่นได้อย่างนุ่มนวล ราบเรียบ และเงียบเป็นพิเศษ อย่างที่เรือระดับนี้ควรจะเป็น
ห้อง VIP ด้านหน้าให้ความรู้สึกกว้างขวาง และหรูหราระดับเดียวกับห้องนอนเจ้าของเรือ
ห้องน้ำในตัวของเจ้าของเรือมีฟีเจอร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันยิ่งกว่า 2 ห้องน้ำอื่นๆ
การจัดวางเตียงของเจ้าของเรือให้เยื้องไปทางขวา ช่วยสร้างพื้นที่ใช้งานอเนกประสงค์ด้านซ้ายของห้องได้อย่างลงตัว
ด้วยถังน้ำมันขนาดใหญ่ 4,300 ลิตรที่วางอยู่ตรงกลาง และลึกลงไปข้างหน้าเครื่องยนต์ พร้อมถังน้ำมันสำรองที่ดูดเฉพาะปริมาณที่ต้องใช้ในห้องเครื่อง การกระจายน้ำหนักจึงสมดุลอย่างยอดเยี่ยม คุณสามารถล่องเรือด้วยความเร็ว 11 นอท โดยใช้น้ำมันเพียง 6 ลิตร/ไมล์ ทำระยะทางได้ถึง 917 กม. พร้อมความรู้สึกนิ่งราบ และนุ่มนวลจากหัวเรือที่ออกแบบทรงมีด แถมคุณยังสามารถเพิ่มความเร็วเป็น 20 นอท (ใช้น้ำมัน 12 ลิตร/ไมล์ ระยะทาง 461 กม.) หรือ 30-34 นอท (16 ลิตร/ไมล์ ระยะทาง 330 กม.) ได้อย่างมั่นใจ โดยเรือยังคงวิ่งได้นิ่งราบ และสบาย พร้อมเสียงเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 60 เดซิเบล ซึ่งเงียบเกินคาด แม้ขณะทำการทดสอบที่ความเร็ว 30 นอทในคลื่นสูง 2 ฟุต หลายคนยังสามารถเดินขึ้นไปนั่งพักผ่อนบนดาดฟ้าหน้าเรือได้อย่างสบาย ราวกับเรือกำลังจอดอยู่นิ่งๆ PARDO แล้วเราจะพูดอะไรได้อีก
แน่นอนว่าเรือรุ่นนี้ไม่ได้ออกแบบหัวเรือให้กว้าง จึงอาจมีละอองน้ำกระเซ็นเข้ามาบ้างหากเจอคลื่นแรง และด้วยตำแหน่งขับขี่ที่อยู่กลางลำ ประกอบกับการเอียงของตัวเรือขณะเลี้ยวอย่างแรง ผู้ขับอาจต้องโน้มตัวลงเพื่อคงทัศนวิสัยไว้ แต่ข้อจำกัดเหล่านี้ถือว่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับจุดแข็งอย่างถังน้ำมัน และถังน้ำจุขนาดใหญ่ ระยะทางไกล ความนุ่มนวล และสมรรถนะที่เรือสามารถวิ่งได้เร็วโดยผู้โดยสารยังคงสบาย GT75 จึงไม่ใช่แค่เรือเดินทางไกล แต่ยังใช้งานได้ง่าย สำหรับผู้ที่ชอบขับเรือเองโดยไม่ใช้ลูกเรือ
บทสรุป
เมื่อบแรนด์ผู้ผลิตเรือชื่อดังจากอิตาลีเปิดตัวเรือยนต์ที่ดูหรูหราแบบไม่ปิดบัง และมีราคาสูงลิบลิ่ว คนทั่วไปมักมองว่าเป็นของฟุ่มเฟือยสำหรับดื่มคอคเทลริมทะเล CAPRI กับเหล่าเซเลบริที แต่ในความพยายามของรุ่น GT75 ที่จะตอบโจทย์ทั้งความหรูหรา และการใช้งานจริง กลับไม่มีจุดบกพร่องเลยแม้แต่น้อย
เรือลำนี้ยังคงรักษาความเป็น PARDO ด้วยการพาคุณใกล้ชิดกับผืนน้ำ พร้อมโซนที่นั่ง และพักผ่อนหลากหลายบริเวณ เพื่อให้คุณหามุมสงบได้แม้จะมีผู้โดยสารครบ 20 คน และยังเพิ่มจุดเด่นของเรือ DAYBOAT ด้วยการให้ความสะดวกสบายตลอดปี สไตล์อิตาเลียนที่เปี่ยมรสนิยม และสมรรถนะที่ขับขี่ได้ง่าย นุ่มนวล เหมาะสำหรับการเดินทางระยะไกลที่ความเร็วแทบทุกระดับ
หากคุณไม่ติดปัญหาเรื่องห้องนั่งเล่นที่ค่อนข้างเล็ก หรือราคาที่ไม่น้อยเลย Pardo GT75 คือ เรือที่เหมาะสำหรับคนรักการล่องเรือระยะสั้นแบบมีสไตล์ ใช้งานจริงจังแบบครอบครัว สนุกในการขับขี่ และสวยงามน่าชื่นชม นี่คือ เรือ POWERBOAT อเนกประสงค์ที่ดีที่สุดเท่าที่ PARDO เคยสร้างมา
ติดต่อ : www.pardoyachts.com
“เรือรุ่นนี้ยังคงสืบทอดเอกลักษณ์อันยาวนานของ PARDO ที่มุ่งเน้นการเชื่อมโยงผู้คนกับผืนน้ำอย่างใกล้ชิด”
คลับชายหาดแบบสามระดับของ PARDO ที่สามารถขยายได้ เป็นผลงานการออกแบบที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง
เครื่องยนต์ IPS-1350 แบบ 3 ชุดที่ได้รับการอัพเกรดให้สมรรถนะสูง สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 38 นอท หากเรือมีน้ำหนักบรรทุกไม่มากนัก
ห้องบังคับเรือกลาง
ทุกองค์ประกอบได้รับการจัดวางอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้สอดรับกับตำแหน่งควบคุมที่ยกสูงตรงกลางของกัปตัน
หน้าจอขนาดใหญ่
กระจกหน้าต่างแบบกลับมุม, ห้องบังคับเรือทรงตั้ง และประตูข้างคู่ ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อประโยชน์ใช้สอยอย่างแท้จริง
จอแสดงผล MFD สามจอ
จอ MFD ขนาด 16 นิ้ว จำนวน 3 จอที่ยกสูงขึ้น ให้ข้อมูลที่จำเป็นอย่างรวดเร็ว โดยไม่บดบังทัศนวิสัย
พื้นที่กลางแจ้งขนาดใหญ่
เตียงอาบแดด และพื้นที่คอคพิทกว้างขวางเพียงพอสำหรับรองรับผู้โดยสารได้ 10-12 คนในแต่ละจุด
ห้องนั่งเล่นขนาดกะทัดรัด
แปลนมาตรฐานแบบ 3 ห้องนอนมาพร้อมครัวที่อยู่ด้านขวาของห้องนั่งเล่น
ตัวเลือกการจัดแปลน
พื้นที่เลาน์จ์ด้านล่างสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนที่ 4 หรือเปลี่ยนเป็นครัวแบบเปิดขนาดใหญ่ได้
ห้องลูกเรือ
ห้องลูกเรือที่อยู่บริเวณหัวเรือผลักให้ห้อง VIP ขยับมาอยู่ในช่วงกว้างที่สุดของลำเรือ ช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งสบายขึ้น