ตอบจดหมาย
แคริเบียน อยากสูง
1. สำหรับรถ ซูซูกิ แคริเบียน นั้น หากต้องการใส่ยางขนาด 30 นิ้ว แล้วยก 3 นิ้ว สามารถใส่ได้ ถ้าหากต้องการขยับขึ้นไปเล่นกับยาง 31 นิ้ว คงต้องยกขึ้นไปถึง 5 นิ้ว จึงจะทำให้ระยะยืดยุบเพียงพอต่อการใช้งาน
2. พื้นปูกระบะสารพัดยี่ห้อ ที่มีขายอยู่ในปัจจุบัน มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน บางยี่ห้อไม่จำเป็นต้องเจาะรถ ติดตั้งง่าย เข้ากับรูปทรงของรถแต่ละรุ่น บางยี่ห้อเป็นแบบพ่นเคลือบพื้นกระบะไปเลยก็มี
3. ก่อนอื่นอยากให้สำรวจดูว่าที่ล้อรถของคุณ มีตุ้มตะกั่วอยู่ครบหรือไม่ สังเกตจากร่องรอยที่ยังหลงเหลือ เพราะหากมีล้อใดล้อหนึ่งที่ตะกั่วถ่วงหลุดไป ก็มีโอกาสทำให้พวงมาลัยสั่นได้เช่นกัน
แคริเบียน อยากสูง
ฉบับแรกจาก ฐนะวัฒน์ ศรีตรัยรักษ์/กทม. ถามเรื่อง ซูซูกิ แคริเบียน อยากยกสูง
ถาม : ผมอยากยกสูงรถ ซูซูกิ แคริเบียน อีกสัก 3 นิ้ว พร้อมเปลี่ยนชอคอับของ แรนโช เพื่อต้องการใส่
ยาง 30-31 นิ้ว ต้องเตรียมงบประมาณไว้เท่าไร และช่วยแนะนำอุปกรณ์เสริมหล่อด้วยครับ ?
ตอบ : สำหรับรถ ซูซูกิ แคริเบียน นั้น หากต้องการใส่ยางขนาด 30 นิ้ว แล้วยก 3 นิ้ว สามารถใส่ได้แต่ถ้าต้องการขยับขึ้นไปเล่นกับยางขนาด 31 นิ้ว คงต้องยกขึ้นไปอีก 5 นิ้ว จึงจะทำให้ระยะยืดยุบเพียงพอต่อการใช้งาน
การยกที่นิยมในปัจจุบันมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบแรก แหนบอยู่ใต้เพลาเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนแหนบใหม่ให้ยาวขึ้นทั้ง 4 ตับ พร้อมกับเปลี่ยนชอคอับให้ยาวขึ้น ถ้าหากต้องการยกเพียง 3 นิ้ว ราคาของแหนบทั้ง 4 ตับ ก็ประมาณ 12,000 บาท อาจมีบวก/ลบนิดหน่อย ส่วนชอคอับ แรนโช รุ่น อาร์เอส9000 ราคาชุดละประมาณ 15,000 บาท แต่หากต้องการใส่ยางขนาด 31 นิ้ว คงต้องขยับขึ้นไปเล่นกับแหนบยาว 5 นิ้ว และราคาค่าแหนบคงต้องมีเพิ่มอีก 3,000-4,000 บาท
ส่วนการยกแบบที่ 2 คือ การยกแหนบขึ้นมาวางบนเพลา การยกแบบนี้สามารถให้ความสูงได้มากกว่าโดยใช้แหนบของเดิมที่ติดมากับรถ และเปลี่ยนจากที่อยู่ใต้เพลาให้ขึ้นมาวางอยู่บนเพลาแทน ก็จะได้ความสูงเพิ่มประมาณ 4 นิ้ว สามารถใส่ยาง 30 นิ้วได้สบายๆ หรือถ้าจะใส่ยางขนาด 31 นิ้ว ก็เปลี่ยนโตงเตงให้ยาวขึ้นอีก 1 นิ้ว ก็สามารถใส่ได้ ค่าดัดแปลงในการยกแบบนี้ประมาณ 10,000 บาท ราคาอาจมีขยับขึ้น/ลงนิดหน่อย อยู่ที่ความสนิทสนมกับเจ้าของอู่
สำหรับยางในบ้านเรา ตอนนี้มีสารพัดยี่ห้อให้เลือก ทั้งแบบ ออลล์ เทอร์เรน และมัด เทอร์เรน ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป ส่วนอุปกรณ์เสริมหล่อ มีให้เลือกเล่นมากมายเช่นกัน ทั้งการ์ดหน้า วินช์สนอร์เกิล ไซด์เรียล ฯลฯ อยู่ที่งบประมาณของคุณ ส่วนร้านตกแต่งรถยนต์เปิดดูในหนังสือเล่มที่คุณถืออยู่ในมือนี้แหละ ลองโทรสอบถามดู
และที่สำคัญเมื่อมีการเปลี่ยนยางใหญ่ อัตราการบริโภคน้ำมันก็มากขึ้นตามไปด้วย ด้านระบบส่งกำลังควรต้องมีการเปลี่ยนใหม่ เช่น เกียร์ หรือเฟืองท้าย ควรเซทอัตราทดใหม่ เพื่อให้เหมาะสม สามารถพาล้อที่มีขนาดใหญ่ขึ้น วิ่งได้ฉิวเหมือนเดิม
ติด หรือไม่ติดดี
ฉบับที่ 2 จาก อมร ตันติวรศรี/จ. สุพรรณบุรี ถามเรื่องพื้นปูกระบะ จะติด หรือไม่ติดดี
ถาม : ผมใช้รถพิคอัพ และเห็นโฆษณาติดตั้งกระบะพลาสติคยี่ห้อต่างๆ เคยมีเพื่อนบอกว่า เมื่อติดตั้งไปแล้ว จะทำให้พื้นกระบะผุ และเป็นสนิมจากภายใน ตรงที่พื้นปูกระบะติดอยู่ เพราะน้ำจะเข้าไปขังและที่สำคัญเวลาจอดรถตากแดด จะทำให้พื้นปูอ่อนตัว แล้วพองออก ไม่ทราบว่าเท็จจริงอย่างไร ช่วยไขข้อข้องใจด้วย ?
ตอบ : สำหรับพื้นปูกระบะสารพัดยี่ห้อ ที่มีขายอยู่ในปัจจุบัน มีข้อดี และข้อเสีย แตกต่างกัน บางยี่ห้อไม่จำเป็นต้องเจาะรถ ติดตั้งง่าย เข้ากับรูปทรงของตัวรถแต่ละรุ่น และบางยี่ห้อเป็นแบบพ่นเคลือบพื้นกระบะไปเลยก็มี ส่วนประโยชน์ใช้สอยก็เหมือนกันทั้ง 2 ชนิด คือ ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนของพื้นกระบะ แต่จะต่างกันตรงที่เป็นแบบสำเร็จ ยกมาติดตั้ง กับอีกแบบต้องพ่นพื้นกระบะ ด้านความสวยงามก็จะต่างกัน
ส่วนกรณีที่คุณถามว่า ถ้าต้องจอดรถตากแดดเป็นเวลานานๆ จะอ่อนตัว และพองหรือไม่ กรณีนี้ผมยังไม่เคยเห็นครับ เข้าใจว่าวัสดุที่ใช้ผลิตอาจด้อยคุณภาพ เลยทำให้พองตัว
พื้นปูกระบะที่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป มีการการันตีคุณภาพเรื่องน้ำซึม และพองตัวอยู่แล้ว ถ้าใช้งานแล้วมีปัญหา สามารถเคลมคืนได้ครับ
เปลี่ยนล้อแล้วสั่น
ฉบับสุดท้ายจาก คุณากร พันธ์ไพรพฤกษ์/จ. ปทุมธานี ขอปรึกษาอาการรถวิ่งแล้วสั่น
ถาม : ผมซื้อรถกระบะมือสองมาใช้ ล้อเดิมเป็นกระทะเหล็ก วิ่งไปก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ไม่นานมานี้ได้นำรถไปเปลี่ยนใส่ล้ออัลลอย พร้อมทั้งเปลี่ยนยางใหม่ทั้ง 4 เส้น ที่ร้านได้ถ่วงยางทุกเส้น และตั้งศูนย์ล้อใหม่เป็นที่เรียบร้อย หลังจากนำมาใช้งาน วิ่งด้วยความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. ปรากฏว่าพวงมาลัยสั่นมาก ต้องลดความเร็ว นำรถกลับไปที่ร้าน เขาบอกว่าวิ่งไปสักพักก็จะหาย เป็นช่วงปรับ
สภาพยาง นับจนกระทั่งตอนนี้วิ่งไปกว่า 1,000 กม. ปัญหาดังกล่าวก็ยังไม่หาย จะทำอย่างไรดี ?
ตอบ : จากคำบอกเล่าที่คุณเขียนมานั้น เป็นไปได้หลายสาเหตุ เริ่มจากการถ่วงล้อ ที่บอกมาว่าได้ถ่วงล้อทั้งหมดแล้วก่อนใส่กลับ การถ่วงล้อนั้นต้องอาศัยเครื่องมือ และช่างที่ชำนาญการถ่วงล้อโดยเฉพาะ การถ่วงล้อจะอาศัยตุ้มตะกั่ว ซึ่งมี 2 รูปแบบ คือ แบบติดด้วยแถบกาว กับแบบติดด้วยคลิพเหล็ก ส่วนใหญ่ทางร้านจะใช้แบบแถบกาวกับล้ออัลลอย และเลือกใช้แบบคลิพเหล็กกับล้อกระทะเหล็ก ทั้ง 2 แบบ มีโอกาสหลุดออกมาจากล้อได้ หากติดไม่ดี หรือไม่แน่น
ก่อนอื่นอยากให้คุณสำรวจดูว่าที่ล้อรถของคุณมีตุ้มตะกั่วอยู่ครบหรือไม่ สังเกตจากร่องรอยที่อาจหลงเหลือไว้ เพราะหากมีล้อใดล้อหนึ่งที่ตะกั่วถ่วงหลุดไป ก็มีโอกาสทำให้พวงมาลัยสั่นได้เช่นกัน
หากดูแล้วแน่ใจว่าตะกั่วทุกตัวยังอยู่ครบ ลองนำรถไปถ่วงจี้ที่ร้านดู การถ่วงจี้เป็นการถ่วงแบบไดนามิค ต่างจากการถ่วงล้อก่อนที่จะใส่เข้ากับตัวรถ ลักษณะนั้นเป็นการถ่วงแบบอยู่กับที่ ซึ่งต่างจากการถ่วงจี้ที่เป็นการถ่วงเสมือนสภาพการใช้งานจริง ในบางครั้งการถ่วงล้ออยู่กับที่อาจจะได้สมดุล แต่พอมาถ่วงแบบจี้แล้ว อาจต้องมาถ่วงตะกั่วเพิ่มกันใหม่
สาเหตุที่ทุกครั้งในการเปลี่ยนล้อ หรือยาง ต้องถ่วงล้อ เนื่องจากที่ล้อเองก็มีรอยเชื่อมต่อ และที่ยางก็มีจุดศูนย์ถ่วง ทำให้เมื่อนำล้อ และยางมาใส่เข้ากับตัวรถ จำเป็นต้องมีการถ่วงล้อให้เกิดความสมดุลก่อน แต่หลังจากที่ถ่วงล้อได้ดุลแล้ว จะพบว่าไม่มีอาการสั่น การที่ปล่อยให้รถวิ่งไปทั้งๆ ที่ล้อไม่มีความสมดุลนั้น นอกจากจะทำให้การบังคับควบคุมรถที่ความเร็วสูง เป็นไปด้วยความลำบากแล้ว ยังทำให้หน้ายางสึกเป็นบั้งๆ อีกด้วย
ABOUT THE AUTHOR
อ
อีซี แมน
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2550
คอลัมน์ Online : ตอบจดหมาย(4wheels)