ตอบจดหมาย
น้ำแข็งที่ละลายกลายเป็นน้ำ
1. น้ำแข็งที่ละลายกลายเป็นน้ำ จะถูกขับให้ไหลออกไปทางท่อยางระบายน้ำทิ้งที่มุมล่างของตู้คอยล์
เย็น ออกสู่ภายนอกรถ ถ้าท่อยางนี้เกิดหลุดขึ้นมา แน่นอนว่าน้ำที่ควรถูกระบายออกไปนอกรถ จะไหลลงสู่พื้นรถแทน
2. สารกราไฟท์ดังกล่าวมีในเครื่องยนต์ตั้งแต่เริ่มแรกประกอบเครื่องอยู่แล้ว โดยเคลือบอยู่ในส่วนของ
เพลาข้อเหวี่ยงที่มีการเสียดสีมากๆ การนำสารกราไฟท์มาเป็นส่วนประกอบของสารเคลือบเครื่องยนต์
จะให้ผลดีกับเครื่องยนต์ที่สึกหรอเพียงเล็กน้อย ถ้าสึกหรอมากก็ช่วยไม่ได้
3. การป้องกันไม่ให้รถของคุณต้องสูญเสียกระจกหน้า ก่อนอื่นต้องใช้วิจารณญาณในการขับ โดยหลีก
เลี่ยงการขับประชิดรถคันหน้ามากเกินไปบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยหิน ยิ่งรถคันหน้าเป็นรถบรรทุกกรวดหิน ควรหลีกเลี่ยงให้ห่าง
น้ำมาจากไหน
ฉบับแรกจาก วาสุกรี ทิพยเนตร/กทม. สงสัยเรื่องน้ำที่พื้นรถว่ามาจากไหน
ถาม : รถของผมมีปัญหา คือ พื้นพรมเปียกมากบริเวณใต้คอนโซล ต้องใช้ผ้ามาซับน้ำอยู่บ่อยครั้ง ผม
เกรงว่าหากปล่อยไว้นาน พื้นรถจะเป็นสนิมได้ ไม่ทราบว่าน้ำนี้มาจากไหน และจะแก้ไขอย่างไร ?
ตอบ :ปัญหาดังกล่าวพอที่จะวิเคราะห์สาเหตุได้เป็น 2 กรณี อย่างแรก คือ ท่อระบายน้ำจากตู้แอร์หลุด อีกสาเหตุ คือ สภาวะของปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากการกลั่นตัวของน้ำ
สาเหตุแรกน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด คือ ท่อระบายน้ำทิ้งจากตู้แอร์หลุด ที่ตู้แอร์จะมีแผงคอยล์เย็นของ
ระบบปรับอากาศในรถยนต์ หากคุณเปิดแอร์ที่ระดับอุณหภูมิเย็นสุด จะมีผลทำให้เกล็ดน้ำแข็งจับเกาะที่แผงคอยล์เย็น ทำให้ไม่สามารถเป่าลมเย็นออกมาทางช่องแอร์ได้ จะสังเกตได้โดยเมื่อเปิดแอร์ที่ระดับเย็นสุดเป็นเวลานาน แม้จะเปิดพัดลมแรงสุด แต่ก็ไม่มีลมเย็นถูกเป่าออกมาทางช่องแอร์ ทั้งนี้ก็เนื่องจากน้ำแข็งไปบังช่องของแผงคอยล์เย็นนั่นเอง
ทางแก้ก็คือ ต้องเลื่อนสวิทช์อุณหภูมิไปที่ระดับสูงขึ้น เพื่อให้น้ำแข็งที่เกาะอยู่ละลายออก แล้วเปิดพัด
ลมระดับแรงสุด สังเกตได้ว่ามีกลิ่นไอเย็นเหมือนในตู้เย็น น้ำแข็งที่ละลายกลายเป็นน้ำจะถูกขับให้ไหลออกไปทางท่อยางระบายน้ำทิ้งที่มุมล่างของตู้คอยล์เย็น ออกสู่ภายนอกรถ ถ้าท่อยางนี้เกิดหลุดขึ้นมา แน่นอนว่าน้ำที่ควรถูกระบายออกไปนอกรถ จะไหลลงสู่พื้นรถแทน ผลก็คือ น้ำนองพื้นรถเหมือนดังปัญหาที่คุณเจอ เมื่อทราบอย่างนี้แล้วก็จัดการใส่ท่อยางระบายน้ำทิ้งจากตู้แอร์ให้เข้าที่เรียบร้อยก็หมดปัญหา
ประการต่อมา เป็นสภาวะของการกลั่นตัวกลายเป็นน้ำ เนื่องจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เมื่อคุณ
เปิดแอร์ในรถคุณเย็นจัด ในขณะที่อากาศภายนอกรถร้อนมาก จะเกิดความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างภายใน และภายนอกรถอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความแตกต่างของอุณหภูมิร้อนด้านนอกและเย็นภายใน ก็จะเกิดการกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ แต่คงไม่ถึงขนาดทำให้เกิดฝนตกภายในรถได้ เพียงแต่จะทำให้เกิดหยดน้ำจับที่รอบนอกของตู้แอร์ และหยดลงสู่พื้นรถ
ทางแก้ไขทำได้โดย หากคุณเป็นคนที่เปิดแอร์เย็นจัด ขอให้หลีกเลี่ยงการเปิดประตูเข้าออกตัวรถบ่อยๆ
หรือหากต้องเปิดประตูเข้าออกบ่อยๆ ก็ควรเปิดแอร์ในระดับที่เย็นพอสบาย ไม่ต้องถึงกับเย็นมาก
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว
ลองหาสาเหตุดู เชื่อว่าต้องเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งใน 2 ประการนี้อย่างแน่นอน และได้ผล
ประการใด รบกวนช่วยแจ้งการแก้ไขมาให้ทราบด้วย
สารเคลือบเครื่องยนต์ดีจริงหรือ
ฉบับที่สองจาก สุพล เหรียญวงศ์/กทม. ถามเรื่องสารเคลือบเครื่องยนต์
ถาม : สารเคลือบเครื่องยนต์ที่บรรยายสรรพคุณว่า สามารถชุบชีวิตเครื่องยนต์เก่าให้กลับมาใหม่ได้
และใช้กับเครื่องยนต์ใหม่ก็ทำให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้น ไม่ทราบว่าสารดังกล่าวเป็นเช่นไร
มีสรรพคุณอย่างที่โฆษณาจริงหรือไม่ ?
ตอบ : สารเคลือบเครื่องยนต์ดังกล่าว มักมีชื่อเรียกทั่วไปว่า ENGINE FIT เป็นสารประเภทโพลีเมอร์ ที่
มีมิเนอรัลออยล์ หรือน้ำมันแร่ เป็นหลัก มีสารกราไฟท์เป็นส่วนประกอบสำคัญ เมื่อเติมสารเคลือบเครื่องยนต์นี้ลงไปผสมกับน้ำมันเครื่อง สารดังกล่าวจะกระจายไปตามส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ โดยมีน้ำมันเครื่องเป็นตัวพาไป พอถึงส่วนที่สึกหรอ สารกราไฟท์ก็จะไปอุดชิ้นส่วนที่สึกหรอนั้นให้สมบูรณ์ จึงทำให้มีความรู้สึกว่า เมื่อเติมสารดังกล่าวแล้ว เครื่องยนต์มีกำลังดีขึ้น อัตราเร่งแซงดีกว่าเดิม ส่วนในรถที่มีสภาพเครื่องยนต์ยังใหม่ ก็จะให้ความรู้สึกว่าอัตราเร่งแซงดีขึ้น แถมประหยัดน้ำมันขึ้น
สารกราไฟท์ดังกล่าวมีในเครื่องยนต์ตั้งแต่เริ่มแรกประกอบเครื่องอยู่แล้ว โดยเคลือบอยู่ในส่วนของ
เพลาข้อเหวี่ยงที่มีการเสียดสีมากๆ การนำสารกราไฟท์มาเป็นส่วนประกอบของสารเคลือบเครื่องยนต์จะให้ผลดีกับเครื่องยนต์ที่มีการสึกหรอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถึงจะได้ผลดี แต่หากมีการนำมาให้กับเครื่องยนต์ที่มีสภาพการสึกหรอมากๆ จะให้ผลดีเพียงระยะแรก หลังจากนั้นก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม
ส่วนเครื่องยนต์ใหม่ก็จะทำให้ชิ้นส่วนภายในกระชับขึ้น เมื่อเจ้าของรถมีความรู้สึกว่าเครื่องยนต์
ประหยัดน้ำมันขึ้น อัตราเร่งดีขึ้น ก็จะใช้งานอย่างหนักหน่วงไม่บันยะบันยัง ผลก็คือ ทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่ากำหนด
คำแนะนำก็คือ อย่านำเอาสารเคลือบเครื่องยนต์มาใช้กับเครื่องยนต์เก่าที่สึกหรอมากๆ แทนการ
เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ หรือนำมาใช้กับเครื่องยนต์ใหม่เพื่อให้รถมีกำลังดีขึ้นจากเดิม การใช้งานที่ถูกต้องก็คือ เลือกใช้กับเครื่องยนต์ที่มีการสึกหรอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
กระจกหน้าแตก
ฉบับสุดท้ายจาก นรินทร์ เขมวงษ์/จ. กาญจนบุรี สงสัยว่าหากกระจกหน้ารถแตกขณะวิ่งจะทำอย่างไร
ถาม : ผมต้องขับรถทางไกลบ่อยๆ เนื่องจากความจำเป็นในเรื่องของอาชีพ ตั้งแต่ขับรถมา 4 ปี ยังไม่
เคยเกิดอุบัติเหตุกระจกหน้ารถแตกเลย ทั้งๆ ที่เป็นคนขับรถเร็ว จึงอยากสอบถามว่าหากรถผมเกิดกระจกหน้าแตก ขณะที่ขับอยู่ที่ความเร็วสูง ควรจะทำอย่างไร ?
ตอบ : กระจกหน้ารถแตก ส่วนใหญ่เกิดจากการกระทบอย่างแรงของวัตถุที่มีความแข็ง เชื่อหรือไม่ว่า
ก้อนกรวดขนาดเล็กๆ ก็สามารถทำให้กระจกหน้ารถคุณแตกได้ ทั้งนี้เนื่องจากความเร็วของรถวิ่งปะทะกับก้อนกรวด ทำให้กระจกหน้ารถที่มีความหนา แตกได้ทันที
การป้องกันไม่ให้รถของคุณต้องสูญเสียกระจกหน้า ก่อนอื่นต้องใช้วิจารณญาณในการขับ โดยหลีก
เลี่ยงการขับประชิดรถคันหน้ามากเกินไปบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยกรวดหิน ยิ่งรถคันหน้าเป็นรถบรรทุกกรวดหิน ควรหลีกเลี่ยงให้ห่าง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผื่อไว้กรณีฉุกเฉิน หากมีวัตถุตกลงมาจากท้ายรถคันหน้า จะได้มีเวลาพอหลบได้ทัน
แต่หากระวังดีที่สุดแล้ว กระจกหน้าของรถคุณยังแตกขึ้นมาในขณะขับที่ความเร็วสูง ก่อนอื่นต้องตั้งสติให้ดี รักษาแนวเส้นทางวิ่ง ลดความเร็ว เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อแจ้งให้รถคันหลังระวัง พร้อมขอทางในการนำรถเข้าจอดข้างทาง
กรณีรถรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้กระจกหน้าแบบลามิเนท (LAMINATE) ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะจะเป็นเพียงการ
แตกร้าว ขับต่อไปร้านกระจกใกล้ๆ ได้ แต่ถ้าเป็นรถรุ่นเก่าที่เป็นกระจกแบบเทมเพอเรท (TEMPERATE) เมื่อมีของแข็งมากระทบอย่างแรง จะแตกเป็นเกล็ดทำให้มองไม่เห็นทาง
และเมื่อนำรถเข้าจอดข้างทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้เอาแผ่นรองมารองพื้นรถ หรือแผ่นผ้าใบมาคลุม
บริเวณคอนโซล และผิวด้านบนของฝากระโปรง จัดการทุบกระจกที่แตกนั้นออก โดยทุบจากด้านนอกเข้าด้านใน เมื่อทุบออกหมดเรียบร้อยแล้ว ค่อยดึงยางขอบกระจกออก
ก่อนทุบกระจกให้เก็บแผ่น พรบ. และเอกสารการต่อภาษี ที่ติดบนกระจกออกให้เรียบร้อยก่อน เมื่อทุก
อย่างเรียบร้อย จัดการเก็บเศษกระจกภายในตัวรถออกให้หมด แล้วปิดกระจกทุกบาน เพื่อไม่ให้ลมพัดผ่านได้ เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถนำรถขับต่อไปได้ โดยมีกระแสลมพัดไม่รุนแรงมาก ควรขับด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากเป็นไปได้ควรสวมแว่นตาขณะขับด้วยยิ่งดี
ABOUT THE AUTHOR
อ
อีซีแมน
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2551
คอลัมน์ Online : ตอบจดหมาย(4wheels)