มิตซูบิชิ มิราจ

รถยนต์กลุ่มอีโคคาร์ กำลังคึกคัก เพราะมีการเปิดตัวออกมาเพิ่มอีก 2 รุ่น ทำให้ปัจจุบัน มีตัวเลือกถึง 5 รุ่น จาก 4 บแรนด์ และ มิตซูบิชิ มิราจ เป็นอีโคคาร์ ลำดับที่ 5 ของ "มุมมองนักออกแบบ" สำหรับคราวนี้ จะหมู่หรือจ่าในสายตาของทีมนักออกแบบ เชิญผู้อ่านร่วมทัศนา

ภัทรกิติ์ : จากครั้งที่เคยเห็น สมัยที่เป็นรถต้นแบบ จนกระทั่งมาถึงรุ่นออกจำหน่าย ข้องใจจริงๆ เพราะรายละเอียดต่างๆ ของตัวรถดูไม่จี้ดจ้าดเหมือนกับตอนเป็นต้นแบบ เปรียบเหมือนกับเอารถจอดตากแดดไว้ แล้วเส้นสายรายละเอียดมันละลายไปกับแสงแดดที่แผดเผา ฟอร์มูลา : ถ้าบอกว่าเปิดตัวประมาณปี 2002 ก็เชื่อนะครับ อภิชาต : ออกแนวย้อนยุคไปเลย ภัทรกิติ์ : ผมเห็นด้วยนะ ในกลุ่มตลาดที่สู้กันสุดฤทธิ์ขนาดนี้ คุณคิดว่าการออกแบบแค่นี้พอแล้วหรือ ดูมือเปิดประตูสิครับ... อภิชาต : ถ้าถามถึงคาแรคเตอร์ แต่ละคันก็จะมีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเอง มิตซูบิชิ ก็ค่อนข้างชัดเจนอยู่น่ะ ดูปุ๊ปรู้ทันทีว่านี่คือ มิตซูบิชิ แต่ว่าคันนี้ ถ้าเอาตราเพชรสีแดงที่ฝากระโปรงออก ดูไม่รู้เลยนะครับ ว่านี่คือ มิตซูบิชิ ในส่วนกราฟิคหน้ารถ เหมือนเป็นการสื่อสารกับผู้บริโภคว่า ฉันขับรถบแรนด์อะไรอยู่ ฟอร์มูลา : ถ้าดูเฉพาะส่วนหัวนะ อารมณ์เหมือน เอโว 10 แต่มาปรับให้เล็กลง อภิชาต : ถ้ามองในมุมของดีไซจ์เนอร์ ผมว่าเขาน่าจะทำผลงานออกมาได้ดีกว่านี้ ภัทรกิติ์ : ผมว่าเขาทำได้ดีกว่านี้ แต่ปัญหาน่าจะอยู่ที่คนเคาะแบบ ฟอร์มูลา : อาจจะดีไซจ์นมาหลายแบบ แล้วจิ้มเอาแบบนี้ ภัทรกิติ์ : คนที่ตัดสินใจ คงเป็นประเภทจืดชืด และน่าจะไม่ได้เป็นดีไซจ์เนอร์ คาดว่าคงเป็นพวกการตลาดแน่นอน ประเภท 6 โมงเช้าตื่น เดินทางมาที่ทำงาน นั่งทำงานบนโต๊ะกว้าง 60 ชม. ยาว 60 ซม. ใส่สูทสีเทา เสื้อเชิร์ทสีเทา เนคไทลายๆ ตอนเย็นเลิกงาน 2 ทุ่ม ไปกินเหล้า กลับบ้านนอน แล้วให้คนที่มีวีถีชีวิตแบบนี้ มาเป็นคนเคาะแบบ... อภิชาต : ถ้าถามถึงความหวือหวาในเรื่องการดีไซจ์น ผมว่ามีน้อยมากครับ ภัทรกิติ์ : มิตซูบิชิ น่าจะมีเรื่องหลอนๆ อยู่ในบริษัท ฯ เขามากเหมือนกันนะครับ คือ แลนเซอร์ เป็นรถที่สวย แต่ขายได้น้อยกว่าที่ประมาณการ เขามีภาพหลอน ซึ่งอาจเป็นเพราะตัวรถคงมีคาแรคเตอร์แรงเกินไป คนรับไม่ได้ ผู้หญิงไม่ซื้อ จนต้องออกสีน้ำตาล พอถึงคันนี้ เขาจึงพยายามช่างใจว่า ทำอย่างไรถึงจะขายคนทั่วไปได้ เพราะคนทั่วไปมักเป็นคนขี้กลัว คิดเยอะ จนทำให้คนบ้ารถอย่างเราดูรถคันนี้ว่า เป็นรถที่จืดชืดมาก แต่ผมไม่รู้ว่า คนที่เป็นคนง่ายๆ สบายๆ จะรู้สึกอย่างไรกับรถคันนี้ อภิชาต : ในมุมของผู้บริโภค สมมติว่า มีเงินซื้อรถประมาณ 4-5 แสนบาท ตัวเลือกก็ต้องประมาณนี้ เทียบกับคน ก็คงเป็นเหมือนคนเฉยๆ ไม่เเสดงออกถึงอารมณ์เท่าไรนัก แล้วจุดดึงดูด มันอยู่ตรงไหนละครับ ผมหาไม่เจอเลย ทีมดีไซจ์เนอร์จะต้องกระตุ้นจุดนั้นออกมาให้ได้ ส่วนจุดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่างวดผ่อนชำระ หรือเรื่องการบริการ เมื่อเทียบกับบแรนด์อื่น ก็ไม่แตกต่างกันสักเท่าไร ส่วนที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ คือ จุดเด่นของตัวรถเป็นสำคัญ มองแว้บแรกต้องเป๊ะ ทำยังไงให้รถยนต์มันแสดงคาแรคเตอร์ออกมาชัดเจนมากกว่านี้ ภัทรกิติ์ : ตัวออย่าง เช่น นิสสัน มาร์ช เขามีคาแรคเตอร์ชัดเจน มองแว้บแรกอาจดูตลกๆ แต่ก็ยังมีคาแรคเตอร์ สวิฟท์ ดูแพง บรีโอ ดูสะอาด แล้ว มิราจ ล่ะ ไม่มีอะไรเลยครับ จะใหญ่ก็ไม่ใหญ่ ไม่อะไรสักอย่าง เอาตัวเลือกอีกคันอย่าง อัลเมรา ดูแพง ดูหรูหราเกินราคา ดูยาว โอ้โฮ ทุกคันมีจุดขายหมด อภิชาต : ส่วนคันนี้ เต็มไปด้วยคำถาม ฟอร์มูลา : ไม่เอาสักทาง อภิชาต : มันไม่ได้ทำให้คนที่เข้าไปสัมผัสภายในแล้วบ่งบอกถึงคาแรคเตอร์ เหมือนการซื้อเสื้อผ้า เราใส่เสื้อผ้าใหม่ ก็ต้องอยากให้คนเห็น การซื้อรถเหมือนกัน อารมณ์หนึ่งก็อยากอวดว่า ฉันซื้อรถใหม่มานะ แล้วจะต้องแอบ ไม่มีอะไรไปอวดเขาได้เลย รถคันนี้ไม่ได้สื่ออะไรที่แรงพอที่จะกระเด็นออกมาจากมุมมืด การซื้อรถนั้นบ่งบอกถึงคนขับว่ามีคาแรคเตอร์เป็นอย่างไร คนที่ซื้อรถรุ่นนี้คาแรคเตอร์เขาต้องเป็นคนอย่างไรครับ จืดๆ หรือยังไง หาไม่เจอจริงๆ ฟอร์มูลา : แต่ภายในเขาจัดเต็มนะครับ ภัทรกิติ์ : ผมมองภายนอกก่อน แรกพบสบตา ถามว่ารถคันนี้ มันมีอะไรผิดไหม ไม่มีอะไรผิดเลยนะครับ มันเหมือนอาหารสำเร็จรูปที่เขาปรุงมาดีแล้ว มันถูกต้อง แต่มันไม่มีอะไรโดดเด่น อภิชาต : เส้นสายรอบรถ ถือว่าไม่มีอะไรผิดแปลก ภัทรกิติ์ : รถคันนี้ทำให้ผมนึกถึง เมร์เซเดส-เบนซ์ บี-คลาสส์ เจเนอเรชันแรก ที่ดูจืดๆ ชืดๆ พอกัน ภัทรกิติ์ : ภายในกับภายนอกเขาเหมือนคนละคันกันเลย ข้อดีอยู่ตรงนี้ กุญแจดูดีกว่า โตโยตา แคมรี มาก หลายขุม เบาะนั่งด้านหลังก็ใช้ได้ อภิชาต : ภายใน ดูดีกว่าคู่แข่งอย่าง บรีโอ ฟอร์มูลา : ผมถามอาจารย์ครับว่า ถ้าจะซื้อรถคันนี้ อาจารย์ซื้อเพราะเหตุผลใด อีกอย่างผมไม่ชอบสีรถที่เขาพโรโมทเลยครับ ขึ้นจอแล้วดูไม่น่าชม แถมยังคล้ายกับอีกบแรนด์ด้วย ภัทรกิติ์ : สีไม่เหมือนนะครับ แต่ไม่สวยเท่านั้นเอง อภิชาต : ผมว่า มิตซูบิชิ ต้องกลับไปทำการบ้านอีกเยอะเลยครับ ไม่อย่างนั้นเสียเชิงแย่