เล่นท้ายเล่ม
วันสำคัญ
ทุกประเทศล้วนต่างมีวันสำคัญประจำชาติ เช่น ประเทศไทยของคนไทยก็มีวันสำคัญในแต่
ละปีมากมายหลายโอกาส ตั้งแต่วันขึ้นปีใหม่จนถึงวันส่งท้ายปีเก่า ตั้งแต่วันสำคัญอันเกี่ยว
ข้องโดยตรงกับจิตวิญญาณของความเป็นคนไทย และเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวพักผ่อน
คนไทยเรามีวันสำคัญประจำชาติค่อนข้างมากในแต่ละปี แต่กระนั้นคนไทยก็ยังไปขโมย
วันสำคัญของชาติอื่นมารวมไว้อีก เหมือนจะเถียงว่าลำพังวันสำคัญประจำชาติของพวกเขา
ยังน้อยไป
เป็นต้นว่าในเดือนกุมภาพันธ์นี้ วันสำคัญประจำชาติของเรา ก็คือ วันที่ 21 กุมภาพันธ์
อันเป็นวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 เป็น "วันมาฆบูชา"
แต่จะมีคนไทยใน 64 ล้านคนสักกี่คนที่เห็นความสำคัญของวันมาฆบูชา
หรือเห็นความสำคัญเทียบเท่า "วันวาเลนไทน์" 14 กุมภาพันธ์
ถ้ามีใครสามารถรีดค้นเอาตัวเลขมาได้ ข้าพเจ้าเชื่อว่า ตัวเลขที่รู้จักวันวาเลนไทน์ต้องมี
จำนวนสูงกว่าตัวเลขจำนวนคนไทยที่รู้จักวันมาฆบูชา
ข้าพเจ้าได้ยินคนไทยที่เป็นหนุ่มสาวคุยกันว่า เดือนนี้ คือ "เดือนแห่งความรัก" แต่ไม่เคยได้
ยินคนไทยคนไหนบอกข้าพเจ้า เดือนนี้เป็นเดือนมาฆบูชา
เป็นเดือนที่มีวันพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ หมายถึง วันเพ็ญกลางเดือน 3 วันที่พระอรหันต์
สาวกจำนวน 1,250 รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย
วันนั้นเรียกว่า วันแห่งการเกิดของพระธรรม
และวันนั้น คือ วันที่พระพุทธเจ้าประกาศหลักธรรมคำสอนของพระองค์ เพื่อให้พระอรหันต์
สาวกทั้งหลายที่มาประชุมกัน ณ เวฬุวันมหาวิหาร นำไปเผยแพร่
วันนั้น นับได้เป็นเวลา 9 เดือน หลังจากพระพุทธเจ้าตรัสรู้
และวันนั้น ยังเรียกได้ว่าเป็น วันจาตุรงคสันนิบาตการประชุมอันพร้อมด้วยองค์ 4 ประการ
คือ
เป็นวันมาฆปูรณมี ตรงกับวันเพ็ญ เดือน 3
เป็นวันที่พระสงฆ์ 1,250 รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย
พระสงฆ์เหล่านั้นล้วนเป็นพระอรหันต์ที่ได้อภิญญา 6 และ
พระสงฆ์เหล่านั้นล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ เป็นพระที่ได้รับการอุปสมบทจาก
พระพุทธเจ้าโดยตรง
หลักธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงในวันมาฆบูชานั้น คือ "โอวาทปาฏิโมกข์" อันถือได้ว่าเป็น
หัวใจแห่งพระพุทธศาสนา เป็นพระพุทธพจน์ 3 คาถากึ่ง แต่ที่เข้าใจ และจดจำกัน
ได้มากเป็นความในคาถาแรกเท่านั้น คือ
สพฺพปาปสฺส อกรณํ กุสลสฺสูปสมุปทา
สจิตฺต ปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธาน สาสนํ
การไม่ทำความชั่วทั้งปวง 1 การบำเพ็ญแต่ความดี 1 การทำจิตของตนให้ผ่องใส 1
นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
หรือกล่าวด้วยความเรียบง่าย เช่น ปฏิปทาของท่านพุทธทาส ก็ต้องว่า ไม่ทำความชั่ว ทำแต่
ความดี และทำจิตใจของตัวเองให้ผ่องใส
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของวันนี้ ยังเป็นวันสำคัญของศาสนาอื่น เช่น ศาสนา
พราหมณ์ กำหนดวันนี้เป็นวันประกอบพิธี ศิวาราตรี การลอยบาปไปบนแม่น้ำคงคา และ
ประกอบพิธีสักการะบูชาเทพเจ้าในเทวสถาน
คนไทยวันนี้ คลั่งไคล้ลัทธิตะวันตกด้วยความเกรงว่าจะเป็นคนไม่ทันสมัย เห็นว่าเดือน
กุมภาพันธ์มีวันสำคัญวันเดียว คือ "วันแห่งความรัก" 14 กุมภาพันธ์
เจ้าหน้าที่ก็เดือดร้อน ต้องออกตระเวนตรวจตราโรงแรมม่านรูด และออกเตือนผู้หญิงใน
ละแวกให้ระวังการเสียสาว เสียความบริสุทธิ์ ในวันแห่งความรัก
บริษัทค้าถุงยางอนามัย พลอยได้รับอานิสงส์ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ไม่มีลูกค้าสินค้าถุง
ยางคนใดรู้สึกอายเวลาไปขอซื้อ
ตำนานแห่งวันวาเลนไทน์ ยังหาความชัดเจนไม่ได้ แต่คนไทยก็ไม่สนใจความเป็นมา
เท่ากับความอันจะเป็นไปได้ในวันนี้ หรือในคืนนี้
พวกเขารู้แต่ว่า วันนี้เป็นวันแห่งความรัก รู้จักฝรั่งที่เป็นคนสร้างตำนานว่าเป็นนักบุญ ชื่อ
วาเลนไทน์
นักบุญนี้อยู่ในกรุงโรม เป็นอนุศาสนาจารย์ประกอบพิธีแต่งงานได้
จักรพรรดิแห่งกรุงโรมสมัยนั้น ไม่ชอบให้ผู้ชายแต่งงานชอบให้เป็นทหารเพื่อออกรบ ออก
สงคราม ช่วยเสริมให้จักรพรรดิเกรียงไกรไพศาลมากขึ้น
จักรพรรดิโรมันจึงไม่ชอบขี้หน้านักบุญวาเลนไทน์ หาเรื่องจับไปขังคุก รอการลงอาญา
นักบุญนี้ โรแมนทิค ยึดความรักเป็นหลักไม่ใช่ดาบ หรือไม่ก็คนที่เขียนตำนานต้องการ
ให้เรื่องนี้มีบรรยากาศแห่งโรแมนทิค จึงเขียนว่านักบุญระหว่างติดคุกก็ยังได้รู้จักกับ
ลูกสาวของผู้คุมคุก
ลูกสาวผู้คุมคนนี้ ช่วยให้ไฟแห่งความรักของนักบุญไม่มอดดับลง
เวลาที่หนุ่มสาวต้องการจะแต่งงานกัน ก็ลักลอบมาให้นักบุญในคุกเป็นผู้ประกอบพิธี
แต่งโดยลูกสาวผู้คุมเป็นตัวสนับสนุน
เรื่องเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ตำนานนี้ก็คงไม่โดนใจหนุ่มสาวทั่วโลกสักเท่าไร เป็นเหตุให้เกิด
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ อันเป็นวันประหารนักบุญ
นักบุญตายแล้ว โรแมนติคมิได้ตายไปด้วย เพราะนักบุญยังแอบเขียนจดหมายฉบับสุดท้าย
ถึงลูกสาวผู้คุมคุก
จดหมายนั้นบรรยายอะไรบ้าง ไม่มีคนสนใจ แต่ไปสนใจข้อความสุดท้ายจดหมายที่
นักบุญวาเลนไทน์เขียนว่า
LOVE, FROM YOUR VALENTINE...
เท่านั้นแหละ 14 กุมภาพันธ์ กลายเป็น "วันแห่งความรัก" ขึ้นมาทันที
อันที่จริง ตำนานวาเลนไทน์มีรายละเอียดมาก รวมทั้งบัญญัติแห่งความรักอันควรพึง
ปฏิบัติที่บริสุทธิ์ อันเกิดจากมโนคติที่ต้องการเห็นความรักในด้านดี ส่งเสริมกันและกัน
ทั้งหนุ่มและสาว
แต่ก็บอกแล้วว่า คนไทยเราวันนี้มีเรื่องอื่นให้คิดอีกมาก โดยเฉพาะปากกัดตีนถีบ ย่อมไม่มี
เวลามาเขียนคำกลอน หรืออ่านคำกลอนที่ไพเราะและกินใจ
พวกเขากลับสนใจว่า วันวาเลนไทน์ เป็นวันที่พวกเขามีองค์ประกอบพร้อมหรือยัง
องค์ประกอบเหล่านั้นก็ได้แก่ ดอกกุหลาบสีแดง ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าเป็นดอกไม้แห่งความรัก
ความปรารถนา เป็นดอกไม้ของตัวกามเทพที่ฝรั่งเรียกว่า "คิวพิด" ผู้หญิงคนไหนได้รับ
ดอกกุหลาบสีแดงก็จะมีโชค และเป็นโชคดี
โชคดีในที่นี้ น่าจะหมายถึง โชคในเรื่องของความรัก ไม่ใช่ได้รับดอกกุหลาบสีแดงแล้ว วิ่ง
ออกไปซื้อหวย
นอกจากดอกกุหลาบแล้ว ยังต้องมีสิ่งอื่นประกอบ เช่น ชอโคแลท เทียนหอม คาร์ด
วาเลนไทน์ที่มีข้อความซึ้งถึงก้นบึ้งของหัวใจ เช่น
NO ONE ELSE BUT YOU...เป็นต้น
องค์ประกอบส่วนสำคัญจะจบลงที่ อาหารมื้อค่ำ
หลากหลายสถานที่ เว้น ห้องรับประทานอาหารที่บ้าน หรือในห้องครัวของเราเอง อาจ
เป็นห้องอาหารหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนเรือล่องเจ้าพระยายามกลางคืน ห้องอาหารชั้น
ดาดฟ้าของโรงแรมระดับ 5 ดาว ชายทะเลที่ได้ยินเสียงคลื่นซัดหาดทราย ฯลฯ
ที่ใดก็ได้ แต่ต้องมีเพียงเธอกับฉัน
และเพลงประกอบการกินอาหารค่ำ พร้อมไวน์แดง ควรต้องมีเพลงอย่างน้อยก็ "เกินคำว่ารัก"
ของ แคลช โน่นไปเลย...!!
ABOUT THE AUTHOR
บ
บรรเจิด ทวี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2551
คอลัมน์ Online : เล่นท้ายเล่ม