ความนิยมของรถไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา เห็นได้จากการที่องค์กร Plug In America ที่เป็นแหล่งรวบรวมด้านยานยนต์ไฟฟ้า ที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา และตรวจสอบจำนวนรถยนต์ทุกแบบที่ต้องการการชาร์จไฟฟ้า ประเมินจากการประชุมประจำปี ครั้งที่ 6 หรือ National Drive Electric Week ว่าปัจจุบัน มีรถประเภทนี้อยู่ในสหรัฐอเมริกา 502,093 คัน นับแต่เริ่มมีการจำหน่ายในปี 2553
Plug In America ระบุว่า ปัจจุบัน มีรถยนต์มากกว่า 24 ยี่ห้อ ที่ทำการตลาดรถไฟฟ้าอยู่ในสหรัฐอเมริกา แต่บางยี่ห้อ ก็มีอยู่ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นส่วนมาก โดยการจัดงาน National Drive Electric Week ได้กระทำในเมืองราว 200 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเชิญชวนให้ผู้ที่มีรถยนต์ไฟฟ้า นำรถมาจัดแสดง และเป็นการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ผู้บริโภคเช่นกัน
แต่กระนั้น ค่ายรถไฟฟ้าก็ยังมีปัญหากับสถานีบริการชาร์จไฟฟ้า ซึ่งค่าย Tesla ก็พยายามขยายเครือข่ายสถานีให้บริการ ซูเพอร์ชาร์เจอร์เพิ่มขึ้น แต่กระนั้นการให้บริการชาร์จด่วน ก็จำกัดอยู่เฉพาะผลิตภัณฑ์ Tesla เท่านั้น เพราะปลั๊กเสียบเป็นคนละชนิดกัน
ทางด้านของ Volkswagen และ BMW จึงร่วมมือกับ ChargePoint ผู้ให้บริการเครือข่ายสถานีชาร์จรถไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด เพื่อก่อสร้างสถานีบริการชาร์จไฟฟ้าซูเพอร์ชาร์จ โดยแจ้งว่า ได้เปิดให้บริการสถานีบริการชาร์จไฟฟ้า ทั้งด้านฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา รวม 95 แห่ง ด้วยกำลังไฟทั้ง 24 กิโลวัตต์ และ 50 กิโลวัตต์
โดยผู้บริโภคสามารถใช้บริการได้ตั้งแต่ พอร์ทแลนด์ มลรัฐโอเรกอน ไปจนถึง ซานดิเอโก แคลิฟอร์เนีย หรือจาก บอสตัน แมสซาชูเสทท์ส ไปจนถึง วอชิงตัน ดี.ซี. โดยสถานีบริการแต่ละแห่งจะอยู่ห่างกันราว 80 กม.
สถานีบริการชาร์จรถไฟฟ้านี้ ให้บริการด้วยปลั๊กเชื่อมต่อที่ได้มาตรฐาน SAE ไม่จำกัดเฉพาะ Volkswagen กับ BMW เท่านั้น แต่บางสถานีบริการยังให้บริการด้วยปลั๊กเชื่อมต่อที่ได้มาตรฐาน CHAdeMO สำหรับร Nissan Leaf โดยผู้ใช้บริการ สามารถชำระเงินโดยใช้คาร์ดของ ChargePoint หรือโดยการใช้แอพพลิเคชัน ChargeNow ของ BMW 
