บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมทดลองขับรถยนต์ มาซดา 3 ใหม่ ที่เปิดตัวด้วยคอนเซพท์สุดล้ำ “Beyond Imagination ความสมบูรณ์แบบ...ไม่ใช่แค่จินตนาการ” ด้วยมาดสปอร์ท โฉบเฉี่ยว เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยที่ทันสมัยมากมาย ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-เขาใหญ่
มาซดา 3 เป็นรถยนต์ในกลุ่ม ซี-เซกเมนท์ โดยมีคู่แข่ง อย่าง โตโยตา โคโรลลา อัลทิส ฮอนดา ซีวิค ฟอร์ด โฟคัส และ เอมจี 6 ที่ต่างพากันปรับโฉมเพิ่มออพชันเต็มที่
มาซดา 3 ใหม่ เน้นเรื่องของสมรรถนะขับขี่ชูจุดเด่นระบบ i-Activsense ระบบความปลอดภัยที่เพียบพร้อมกว่าเดิม ระบบ MZD Connect เวอร์ชันใหม่ เชื่อมโยงเครือข่ายการสื่อสารในโลกปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ GVC G-Vectoring Control ให้การทรงตัวที่นุ่มนวล ยึดเกาะถนนดี
รูปทรงภายนอกดูสปอร์ท ไฟหน้า แอลอีดี พโรเจคเตอร์ เพิ่มมุมให้ยาวและโฉบเฉี่ยวขึ้น จากการออกแบบกระจังหน้า กันชนหน้า ไฟตัดหมอกใหม่ พร้อมเดย์ไทม์ รันนิง ไลท์ ใหม่ พร้อมไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบแอลอีดี กันชนท้ายในรุ่น 5 ประตูใหม่ ลดแถบดำให้น้อยลงกว่าเดิม ใส่ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลวดลายดูคล้ายเดิม แต่ก็มีส่วนต่างให้เห็น
ห้องโดยสารแนวสปอร์ท ตกแต่งให้พรีเมียมขึ้น เลือกใช้สีทูโทนในห้องโดยสาร เบาะหนัง แผงข้างประตูและคอนโซลกลาง ตกแตงทูโทน สีน้ำตาล-ดำ แผงประตูเพิ่มวัสดุสีเงิน และสีดำวาว Piano Black และคอนโซล พวงมาลัย มาตรวัดความเร็ว ออกแบบใหม่ มีจอ Active Driving Display ที่เปลี่ยนเป็นแบบจอสี แสดงข้อมูลชัดเจน ติดตั้งจอ Center Display ใหม่แบบ ทัชสกรีน ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง มีระบบเชื่อมต่อการสื่อสารสมัยใหม่ MZD Connect เชื่อมต่อโลกออนไลน์แม้ขณะอยู่ในรถ ทันสมัยด้วยระบบเบรคมือไฟฟ้า มีช่องเสียบ USB 2 ช่อง และช่องเสียบไฟ 12 โวลท์
เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 21.4 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก มาซดา Skyactive-Vehicle Dynamics ทำงานร่วมกับระบบ G-Vectoring Control ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ หรือ GVC ได้รับการเคลมจากบริษัทผู้ผลิตว่ามีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย อยู่ที่ 15.6 กม./ลิตร
สมรรถนะของ มาซดา 3 ใหม่ แม้ว่าจะเป็นเครื่องยนต์บลอคเดิม เทคโนโลยี แบบฉีดตรง ให้กำลังอัดสูงกว่าคู่แข่ง ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ได้อย่างโดดเด่น สมกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ตอบสนองดี แถมยังเพิ่มเทคโนโลยี G-Vectoring Control ช่วยลดกำลังเครื่องยนต์ขณะเข้าโค้ง จับสัญญาณผ่านการทำงานของ G-Sensor (Gravity Sensor) และ Yaw Sensor หรือ Jairo Sensor เซนเซอร์วัดการส่ายของตัวรถ” เพื่อดูอาการโอเวอร์สเตียร์ และอันเดอร์สเตียร์ ทำหน้าที่ประมวลผลร่วมกับ G Sensor ทันที่เมื่อรถเลี้ยวโค้ง เซนเซอร์จะตรวจจับ และประมวลผล ผ่านกล่องอีซียู เพื่อสั่งงานให้เซนเซอร์ลิ้นปีกผีเสื้อทำการหรี่หรือลดองศาการเปิดลิ้นปีกผีเสื้อ เพื่อลดกำลังเครื่องยนต์ ช่วยให้ขับในโค้งได้ดี เข้าโค้งได้นุ่มนวลขึ้น
การทดสอบในสนาม เป็นการลองการบังคับควบคุม กดคันเร่ง เลี้ยวซ้าย/ขวา ไปตามทิศทาง เพื่อสังเกตอาการเหวี่ยงของรถ ระหว่าง มาซดา 3 เก่า และใหม่ ซึ่งจับความรู้สึกถึงความต่างได้ดี โดยเฉพาะแรงเหวี่ยงของรถที่น้อยลง และการบังคับควบคุมพวงมาลัยที่ดีขึ้น
เทคโนโลยีความปลอดภัยอื่นๆ นั้น มาซดา 3 ใหม่ จัดเต็ม ภายใต้เทคโนโลยี i-Activsense ประกอบด้วย ALH (Adaptive LED Headlamps) ระบบไฟหน้า LED ปรับการทำงานของไฟสูง/ต่ำ แยกอิสระซ้าย-ขวา MRCC (Mazda Radar Cruise Control) ช่วยให้ขับรถในเวลากลางคืนได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมปรับระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า SBS (Smart Brake Support) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรคอัตโนมัติ DAA (Driver Attention Alert) ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ LAS (Lane-Keep Assist System) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LDWS (Lane Departure Warning System) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน SCBS (Smart City Brake Support) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
การทดสอบระบบ MRCC (Mazda Radar Cruise Control) ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หลังจากเปิดระบบ พร้อมกดสวิทช์เริ่มต้นการทำงาน เมื่อความเร็วเกิน 30 กม./ชม. แล้ว เรดาร์ทำการตรวจสอบระยะห่างและความเร็วของรถคันหน้า คอยควบคุมเครื่องยนต์และเบรคอัตโนมัติ เพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า และยังสามารถปรับเพิ่มหรือลดความเร็ว ได้ครั้งละ 5 กม./ชม. อีกด้วย และทันทีที่รถคันหน้าชะลอความเร็วและเลี้ยวออกจากเส้นทางไป มาซดา 3 ใหม่ก็จะ ชะลอความเร็วตาม พร้อมกับเติมคันเร่งทันที เพื่อให้ความเร็วกลับไปสู่ตำแหน่งที่ตั้งไว้เดิม
ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้อง (Passive Safety) ด้วยระบบ ESS (Emergency Signal System) สัญญาณไฟกระพริบเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรครถอย่างกะทันหันในภาวะฉุกเฉิน เพื่อส่งสัญญาณเตือนรถคันหลังให้ลดความเร็วลง และเมื่อผู้ขับขี่เอาเท้าออกจากแป้นเบรค สัญญาณไฟเตือนฉุกเฉินจะดับลงโดยอัตโนมัติ หากผู้ขับขี่เหยียบเบรคอย่างกะทันหันจนกระทั่งรถหยุดนิ่ง สัญญาณไฟเตือนฉุกเฉินจะยังคงกระพริบเตือนรถคันหลังให้ระวัง และลดความเร็ว
ระบบเบรค มี ABS ทั้ง 4 ล้อ พร้อม EBD ที่ช่วยกระจายแรงเบรค, ถุงลงนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย, DSC (Dynamic Stability Control) ช่วยควบคุมเสถียรภาพ และการทรงตัวของรถ, HLA (Hill Launch Assist) ช่วยในการออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน และ TCS (Traction Control System) ช่วยป้องกันรถเลื่อนไถล
หลังจากลอง มาซดา 3 รุ่น SP SPORTS พบว่านอกจากหน้าตาที่โดดเด่นแล้ว สมรรถนะและระบบความปลอดภัยยังจัดมาเต็ม ลองมาแล้ว ทุกระบบทำงานได้จริง (ยกเว้นถุงลมนิรภัย) เหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน จัดเป็นรถยนต์ขนาด ซี-เซกเมนท์ที่น่าใช้มากอีกรุ่น หากใครมองถึงเรื่องความปลอดภัย ชอบเทคโนลยีและระบบการทำงานต่างๆ ที่ทันสมัย มาซดา 3 ใหม่ตอบโจทย์ได้ทันที
ข้อมูลจำเพาะ Mazda3 2.0 sp Sports
ผู้จัดจำหน่าย บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-20305666
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,580/1,795/1,450
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,555/1,560
ฐานล้อ (มม.) 2,700
น้ำหนักรถ (กก.) 1,287
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 51 เครื่องยนต์
แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว
ความจุ (ซีซี) 1,997
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 83.5/91.2
อัตราส่วนกำลังอัด 14.0:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 165/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 21.4/4,000
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง อีเลคทรอนิคไดเรคท์อินเจคชัน
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 6 มีบวก/ลบ
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง อิสระ มัลทิลิงค์ คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส อีบีดี ดีเอสซี
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง จาน
ราคา (บาท) 1,119,000 
