สิงห์รถบรรทุก นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้ คว้าแชมพ์ Fuelwatch Challenge Grand Final 2017

จอห์นนี แบกซ์เตอร์ (Johnny Baxter) จากประเทศนิวซีแลนด์ เป็นผู้ชนะเลิศการแข่งขันประเภท On Road ในปีนี้ และแตฮัน คิม (Taehun Kim) จากเกาหลีใต้ ได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันประเภท Off Road โดยผู้ชนะในการแข่งขันแต่ละประเภทแต่ละคน สามารถประหยัดเชื้อเพลิงไปได้กว่า 15 % ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการขับขี่ด้วยความประหยัดเชื้อเพลิงนั้นช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในชีวิตจริง และยังเป็นการลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ลงไปด้วย การแข่งขันในปีที่จัดขึ้นที่โกเธนเบิร์ก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเมืองต้นกำเนิดของ โวลโว ทรัคส์ และการแข่งขันในครั้งนี้เป็นการทดสอบสุดยอดนักขับประหยัดน้ำมันจากทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง ผู้เข้าแข่งขันจากกว่า 13 ประเทศ ขับ โวลโว เอฟเอช และเอฟเอมเอกซ์ ไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ก่อนการเริ่มการแข่งขันทาง โวลโว ทรัคส์ จัดให้มีการอบรมเทคนิคการขับขี่และมีการทดสอบรถ โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นทั้ง 2 วันนี้เป็นการชิงชนะเลิศระหว่างผู้ชนะในแต่ละประเทศ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการแข่งระดับนานาชาติ โดยรอบคัดเลือกมีผู้สมัครเข้าแข่งขันจากทั่วโลกในประเทศต่างๆ ตลอดทั้งปี มากกว่า 4,270 คนที่สมัครเข้าร่วมการแข่งขันในปีนี้ การประเมินผลงานของทีมที่เข้าแข่งขันแบบ On Road จำนวน 11 คน และ Off Road อีก 7 คน และใช้ระบบไดนาฟลีท ซึ่งเป็นระบบสารสนเทศเทคโนโลยีเพื่อการขนส่งของ โวลโว ทรัคส์ โดยเฉพาะ เป็นระบบตรวจสอบการใช้เชื้อเพลิงได้อย่างแม่นยำในทุกขณะ จากนั้นมีการรวบรวมข้อมูลของนักขับแต่ละคนเพื่อนำมาประมวลผลต่อไป สำหรับผู้ชนะเลิศการแข่งขันประเภท On Road สามารถประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่ารองชนะเลิศทั้ง 2 คนไปได้ 10.1 % ส่วนในประเภท Off Road สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 4 % เมื่อเทียบกับรองอันดับ 2 และ 3 แบกซ์เตอร์ กล่าวว่า "รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รับรางวัลชนะเลิศนักขับที่ประหยัดที่สุดของปีนี้ มันยากมากกว่าจะได้รับรางวัลนี้ เพราะทุกคน คือ แชมพ์ของแต่ละประเทศ" ขณะที่แชมพ์อีกคน กล่าวว่า "ผมให้ความสำคัญกับทุกอย่างที่ทำ ผมหมั่นฝึกฝนเพิ่มพูนทักษะการขับขี่ที่ถูกต้องในทุกๆ วัน นั่นคือกุญแจสำคัญของชัยชนะในครั้งนี้" และในชีวิตจริงการขับขี่โดยคำนึงถึงความประหยัดเชื้อเพลิงนี้ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญทีเดียว ตัวอย่างเช่น การขนส่งทางเรียบเป็นระยะทาง 150,000 กิโลเมตร บริษัทจะสามารถประหยัดเชื้อเพลิงไปได้ถึง 5,000 ลิตร ต่อรถบรรทุก 1 คัน ต่อปี