Workhorse Group โดย สตีฟ เบิร์นส์ ให้สัมภาษณ์ autoblog.com ถึงการดำเนินงานเพื่อการผลิตรถกระบะไฟฟ้า Workhorse ซึ่งเดิมใช้ชื่อบริษัทว่า AMP Motors ทำธุรกิจในการเปลี่ยนแปลงรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงปกติ เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น Workhorse
โรงงานของ Workhorse ซื้อกิจการมาจาก Navistar ซึ่งติดปัญหาด้านค่ามลภาวะ และต้องขายกิจการทั้งโรงงานให้ มีทั้งอุปกรณ์ในการประกอบ ของโรงงานที่ยูเนียน ซิที, อินเดียนา และกำลังเตรียมการสำหรับสายการผลิตในการผลิตรถพิคอัพไฟฟ้า Workhorse รุ่นแรก W-15 ที่จะเป็นเจ้าแรกที่แนะนำสู่ตลาด ตัดหน้า Tesla ที่มีแผนแนะนำรถกระบะไฟฟ้าเช่นกัน
W-15 เปิดข่าวแนะนำตัวไปแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยเป็นรถกระบะไฟฟ้า ที่มีเครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กติดตั้ง เพื่อช่วยในการยืดระยะทาง หากวิ่งด้วยไฟฟ้าอย่างเดียว ได้ระยะทาง 130 กม. ควบรวมพลังงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 460 แรงม้า ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.5 วินาที น้ำหนักบรรทุก 1,000 กก. กำลังฉุดลาก 2,200 กก. ขณะที่ชุดแบทเตอรี สามารถให้กำลังงานไฟฟ้าสำหรับการใช้งานภายนอก ความแรง 30 แอมแปร์ จากปลั๊กด้านข้างของตัวรถ เพื่อใช้งานเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำงานได้
หลังจาก Workhorse แนะนำตัวเมื่อเดือนพฤษภาคม มีจดหมายแสดงความจำนงที่จะสั่งซื้อส่งมายังบริษัทถึง 4,650 ราย และได้รับเงินมัดจำล่วงหน้าเกือบ 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นการจองรถซึ่งจะเริ่มผลิตในปลายปี 2561 โดยตั้งราคาขายเอาไว้ราว 52,500 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 1,575,000 บาท ซึ่งต้องถือว่าราคาค่อนข้างแพงพอสมควร แต่เมื่อคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา จะถูกกว่าการใช้รถพิคอัพธรรมดาค่อนข้างมากพอควร
นอกเหนือจากแผนงานการผลิตรถพิคอัพไฟฟ้า Workhorse ยังเตรียมงานสำหรับรถบรรทุกไฟฟ้า ที่คาดหวังจะนำเสนอกับการบริการไปรษณีย์ของอเมริกัน, ดโรนส่งของไฟฟ้า ที่จะบินขึ้นจากหลังคาของรถบรรทุก และแม้แต่เครื่องร่อนสำหรับส่วนบุคคลที่ใช้ระบบไฮบริด สำหรับแนะนำในอนาคต                    
