ผลประกอบการของ Daimler AG ในปี 2560 ทำกำไรสูงสุดเป็นสถิติอีกครั้ง ด้วยยอดการจำหน่ายรถยนต์ 3.3 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 9 % ด้วยผลประกอบการมูลค่า 164.3 พันล้านยูโร ราว 6,572 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7 % พร้อมทำกำไรจากผลการดำเนินงานได้ 14.7 พันล้านยูโร ราว 588 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14 % และเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว เหลือเป็นกำไรสุทธิ 10.9 พันล้านยูโร ราว 436 พันล้านบาทDaimler ชี้แจงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่า ผลกำไรที่เกิดขึ้นนี้ สืบเนื่องจากการค้นคว้าและผลิต ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภค รวมทั้งผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ในทุกๆ แผนกของบริษัท ด้วยการพัฒนายานยนต์ระดับโลก ที่เข้าถึงผู้บริโภค และกระชับส่วนแบ่งในทุกตลาดให้คงอยู่และเพิ่มขึ้น ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น ก็เนื่องมาจากการพัฒนาอย่างสืบเนื่อง รวมทั้งเพิ่มเติมเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ได้ค้นคว้าและพัฒนาโดยตลอด Dieter Zetsche ประธานกรรมการบริหาร ของ Daimler AG และประธานของ Mercedes-Benz กล่าวว่า “เรากำลังอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง และเป้าหมายของเรายังคงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือ Daimler ต้องเป็นผู้นำ และด้วยการทำงานอย่างหนักของพนักงาน ก็สามารถประสบความสำเร็จทำสถิติใหม่อีกครั้งในปีที่ผ่านมา บริษัทของเราอยู่ในตำแหน่งที่ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด แต่การคงอยู่ไม่ได้หมายความว่า เพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆ เราต้องผลักดันการทำงานในทุกวิถีทาง และในทุกๆ ตำแหน่งของพนักงาน” ส่วนในปี 2561 ค่ายดาวสามแฉก ยังคาดหวังว่า ตลาดรถยนต์จะยังคงเติบโตขึ้น แม้ว่าปัจจุบันจะมีจำนวนมากพอควรแล้วก็ตาม โดยประเมินว่า ตลาดจะโตขึ้น 2 % โดยความต้องการของผู้บริโภคในอินเดีย น่าจะเติบโตได้มากกว่านี้ โดยเฉพาะรถเพื่อการพาณิชย์ ซึ่ง Mercedes-Benz คาดหวังจากยอดขายของรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดกลาง และรถบรรทุกขนาดใหญ่ ที่ได้ขยายกำลังการผลิตรถบรรทุก Fuso และได้ขยายกำลังการผลิตจากโรงงานในอินเดียไปแล้ว และยังคาดหมายจากตลาดอย่าง เอเชีย, แอฟริกา และละติน อเมริกา ว่าน่าจะเติบโตได้เพิ่มขึ้นในปีนี้
บทความแนะนำ