Volvo XC60 T8 Twin Engine AWD R-Design พลัก-อิน ไฮบริด ม้าล้นคอก 407 ตัว !

  Volvo เปิดตัว The New Volvo XC60 อย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 โดยเป็นการเปิดตัวรถครั้งแรกในประเทศไทย ที่มีรุ่น R-Design ผลิตจากโรงงาน มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ เบนซิน พลัก-อิน ไฮบริด และดีเซล ได้เสียงตอบรับจากแฟนๆ อย่างอบอุ่น ในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34" จนกระทั่งวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดกิจกรรมการทดลองขับสมรรถนะ เส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะจากการใช้งานจริงบนท้องถนน

    The New Volvo XC60 เป็นยานยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางระดับพรีเมียม ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เพิ่งคว้าตำแหน่ง "รถแห่งปีของญี่ปุ่น" ประจำปี 2017-2018 มาครอง โดยได้คะแนนทิ้งห่างอันดับ 2 แบบ "หายห่วง" นับเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงเวลา 38 ปี ของการมอบรางวัลเกียรติยศนี้ ที่รถนำเข้าสามารถพิชิตรถญี่ปุ่นได้อย่างราบคาบ ก่อนหน้านี้มีรถนำเข้าเพียงรุ่นเดียวเท่านั้นที่ทำได้ คือ Volkswagen Golf ในปี 2013     Volvo XC60 T8 Twin Engine AWD R Design มีความยาว 4,688 มม. กว้าง 1,902 มม. และสูง 1,658 มม. ฐานล้อขนาด 2,865 มม. โดยเป็นการออกแบบใหม่ทั้งหมดบนพแลทฟอร์ม Scalable Product Architecture หรือ SPA ไฟหน้าแบบ LED จำลองแบบมาจาก ค้อนแห่งเทพเจ้าธอร์ ผนวกกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับพี่ใหญ่ XC90 ที่ออกสู่ตลาดก่อนหน้านี้ ทำให้ดูหรูและทรงพลัง เส้นสายคมชัดตลอดแนวจากหัวจรดท้าย     Volvo XC60 T8 Twin Engine AWD R-Design คันนี้เป็นรถยนต์แนวลักชัวรีสปอร์ทในกลุ่ม R-Design รุ่นแรกที่จัดจำหน่ายในประเทศไทย ความพิเศษของรหัส R-Design โดยที่มีตกแต่งแนวสปอร์ทแตกต่างจากรุ่น Momentum เริ่มจากกระจังหน้าเคลือบสีดำวาว ท่อไอเสียคู่ ครอบกระจกมองข้างสีเงินด้าน ล้ออัลลอยแบบไดมอนด์คัทขนาด 19 นิ้ว พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซจ์นสปอร์ท แป้นเหยียบสปอร์ท และเบาะนั่ง Nappa Bucket Seat     ห้องโดยสารตกแต่งด้วยการผสมผสานหนังแท้คุณภาพสูงกับโลหะอย่างลงตัว และใช้แสงจากธรรมชาติ (หลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า) ส่องสว่างให้ห้องโดยสารดูกว้างโอ่อ่า เบาะนั่งทรงสปอร์ทปรับไฟฟ้า (Nappa Bucket Seat) สะท้อนแนวคิด “Designed Around You” ที่ยึดหลักการออกแบบภายใน 3 ประการ ได้แก่ 1) สัดส่วน 2) การใช้เทคโนโลยีที่ชาญฉลาด และ 3) การแสดงออกถึงความหรูหราแบบสแกนดิเนเวียน หัวเกียร์คริสตัล ผลิตด้วยมือจาก Orrefors ปุ่มปรับทิศทางลมตกแต่งด้วยโลหะจัดวางไว้อย่างกลมกลืนกับช่องปรับอากาศแนวตั้ง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติกระจายความเย็น 2 โซน แยกซ้าย-ขวาอิสระ และมีระบบกรองอากาศที่ดักจับอนุภาคเล็กจิ๋ว ละอองเกสร และฝุ่นผง ที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ และโรคภูมิแพ้ สำหรับฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า สามารถสั่งงานได้ทั้งจากตัวรถ รีโมทคอนทโรล หรือการแหย่เท้าเข้าไปบริเวณใต้กันชนหลัง อีกหนึ่งความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน     เครื่องเสียงจากโรงงานเป็นชุด Premium Sound by Bowers & Wilkins ระบบสเตริโอรอบทิศทางให้คุณภาพเสียงคมชัด มิติสมจริง ระบบเสียงชั้นนำ รวมแอมพลิฟายเออร์ ขนาด 1,100 วัตต์ และลำโพง 15 ตัวรอบห้องโดยสาร สามารถเลือกฟังได้ 3 โหมด ได้แก่ Studio, Individual Stage และ Gothenburg Concert Hall พร้อมเทคโนโลยี Sensus Connect จอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านสัญญาณดาวเทียม และเป็นระบบแรกของโลกที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ ใช้งานได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ระบบนี้สามารถบังคับควบคุมโดยปุ่มสัมผัสบนหน้าจอ ที่พวงมาลัย รวมถึงสั่งการด้วยเสียง (Voice Control) หน้าจอยังทำงานร่วมกับกล้อง 360 องศา และระบบถอยจอดอัตโนมัติที่สามารถใช้ได้ทั้งการจอดขนานและเข้าซอง     ขุมพลังใช้เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบแถวเรียง ความจุ 2.0 ลิตร อัดอากาศด้วยซูเพอร์ชาร์จและเทอร์โบ อัตราส่วนกำลังอัด 10.3:1 ให้กำลัง 320 แรงม้า ที่ 5,700 รตน. แรงบิดสูงสุด 40.8 กก.-ม. ที่ 2,200–5,400 รตน. ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 87 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 24.8 กก.-ม. ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อคู่หลัง ผลรวมของการทำงานเครื่องยนต์เบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้าจะได้กำลังรวม 407 แรงม้า แรงบิด 65.6 กก.-ม. ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Geartronic พร้อมระบบ พลัก-อิน ไฮบริด แบทเตอรีแบบลิเธียม-ไอออน ขนาด 10.4 กิโลวัตต์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ รองรับน้ำมันสูงสุด E10 ความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร ตัวเลขโรงงานเคลมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.3 วินาที อัตราการปล่อยไอเสียเพียง 50 กรัม/กม. สำหรับการใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ สามารถวิ่งได้ระยะทาง 44.9 กม.     ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระ ดับเบิลวิชโบน ปีกนกอลูมิเนียม ชอคอับด้านหลังใช้แขนยึด ทำงานสัมพันธ์กับแหนบแผ่นติดตั้งแนวขวาง พร้อมชอคอับน้ำหนักเบา ช่วยลดน้ำหนักนอกสปริงลง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความสบายและการยึดเกาะถนน ใช้ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว กับยางขนาด 235/55 R19 และมีการติดระบบความปลอดภัยมาให้เพียบตามสไตล์ของค่ายนี้ เริ่มจาก ระบบ Pilot Assist เทคโนโลยีการขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่ทำงานได้อย่างดีเยี่ยมบนท้องถนนที่ความเร็วสูงสุด 130 กม./ชม. ระบบการทำงานเพื่อความปลอดภัยรูปแบบใหม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อมอบการปรับพวงมาลัยอัตโนมัติ หรือสนับสนุนการขับขี่เมื่อจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะที่อาจเกิดขึ้น พร้อม 3 ฟังค์ชันการทำงานเพื่อความปลอดภัยรูปแบบใหม่ ที่ช่วยปกป้องผู้โดยสารด้วยประสิทธิภาพและการดูแลขั้นสูงสุด ด้วยการเพิ่มระบบ Steer Assist ในการทำงานของ City Safety System รวมถึงระบบความปลอดภัยรูปแบบใหม่ Oncoming Lane Mitigation ที่ทำงานร่วมกับระบบควบคุมพวงมาลัยเพื่อลดปัญหาการปะทะกับรถที่วิ่งสวนมา     ส่วนระบบ Blind Spot Indication System (BLIS) ของ Volvo ใช้การทำงานของระบบพวงมาลัยเพื่อลดความเสี่ยงของการชนจากการเปลี่ยนช่องทางเดินรถ นอกจากนี้ ยังมีระบบป้องกันการชนพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน ผู้ขับขี่จักรยานและสัตว์ขนาดใหญ่ พร้อมฟังค์ชันหยุดรถอัตโนมัติ ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลังออกจากที่จอด ระบบหยุดและออกตัวรถโดยอัตโนมัติ     การทดลองขับใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา ผ่านทางด่วนบูรพาวิถีทั้งขาไปและขากลับ ขุมพลังมีความกระฉับกระเฉงและยืดหยุ่นสูง พละกำลังที่มีถึง 407 แรงม้า สามารถควบคุมได้อย่างง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะอะไรมากมายนัก เครื่องยนต์ (ขับเคลื่อนเพลาหน้า) กับมอเตอร์ไฟฟ้า (ขับเคลื่อนเพลาหลัง) ต่างคนต่างทำงานคนละหน้าที่ แต่สอดประสานกันได้อย่างลงตัว เสียงการทำงานค่อนข้างเงียบ (อาจจะเงียบเกินไปด้วยซ้ำสำหรับรสนิยมส่วนตัว) ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 8 จังหวะ มีอัตราทดเหมาะสม และตอบสนองการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง โหมดการขับขี่มีให้เลือกจากสวิทช์ที่ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง 5 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Comfort, Offroad, Dynamic และ Individual ซึ่งขุมพลัง ระบบส่งกำลัง พวงมาลัย การตอบสนองของแป้นเบรค และการทำงานของระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ จะมีการตอบสนองที่ต่างกันไป แต่ด้วยข้อจำกัดของเส้นทางที่ใช้ในการทดลองขับ จึงทำให้ไม่ได้ทดลองใช้งานโหมด Offroad เนื่องจากถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานในพื้นที่ทุรกันดารและมีการจำกัดความเร็ว     ตัวรถแม้จะมีน้ำหนักกว่า 2.1 ตัน แต่ด้วยการวางบาลานศ์น้ำหนักที่ดี ทำให้การขับขี่ใช้งานไม่รู้สึกถึงความอุ้ยอ้ายเลย กลับกันช่วงความเร็วเดินทางระบบรองรับให้ความรู้สึกหนักแน่น มั่นคง แต่ไม่กระด้าง ทั้งทางตรงและทางโค้ง Adaptive Cruise Control ทำงานร่วมกับระบบ Pilot Assist ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการใช้เซนเซอร์คุณภาพสูง เจเนอเรชันล่าสุด พร้อมหน่วยประมวลผลอื่นๆ เข้ามาประกอบการตัดสินใจของระบบ จึงทำให้ลดความเครียดขณะเดินทางไกลได้เป็นอย่างดี พวงมาลัยไฟฟ้าค่อนข้างเบาบังคับควบคุมทิศทางได้ดังใจ แต่จะต้องสร้างความคุ้นเคยกับน้ำหนักกันเล็กน้อย เช่นเดียวกับแป้นเบรคที่จะปรับเปลี่ยนการตอบสนองตามโหมดการขับขี่ หรือถ้าไม่ต้องการให้เปลี่ยนก็สามารถเลือกโหมด Individual เพื่อปรับตั้งการตอบสนองขณะขับขี่ได้ตามใจ     Volvo XC60 T8 Twin Engine AWD R-Design ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี พลัก-อิน ไฮบริด สมรรถนะสูง สดใหม่ เปี่ยมสมรรถนะ ออพชันและเทคโนโลยีความปลอดภัย “เพียบ” น่าจะเหมาะสำหรับ “พ่อบ้าน รักษ์โลก หัวใจซิ่ง” เป็นแน่แท้   ข้อมูลจำเพาะ Volvo XC60 T8 Twin Engine AWD R-Design ผู้แทนจำหน่าย บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร.0-2305-4499 มิติ และน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,688/1,902/1,658 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,655/1,659 ฐานล้อ (มม.) 2,865 น้ำหนัก (กก.) 2,115 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 50 เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ ซูเพอร์ชาร์จ เทอร์โบ และมอเตอร์ไฟฟ้า ความจุ (ซีซี) 1,969 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 82.0/93.2 อัตราส่วนกำลังอัด 10.3:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 320/5,700 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 40.8/2,200-5,400 กำลังมอเตอร์ ไฟฟ้าสูงสุด (แรงม้า) 87 แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด (กก.-ม.) 24.8 กำลังรวมสูงสุด (แรงม้า) 407 แรงบิดรวมสูงสุด (กก.-ม.) 65.6 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง ฉีดตรง ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 8 ขับเคลื่อน (ล้อ) 4 ระบบรองรับ หน้า อิสระ ดับเบิลวิชโบน ชอคอับ หลัง อิสระ แหนบขวาง ชอคอับ ระบบบังคับเลี้ยว ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า ระบบห้ามล้อ เอบีเอส อีบีดี อีบีเอ หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง จาน ราคา (บาท) 3,590,000