Nissan ในยุโรป ร่วมขบวนการยกเลิกเครื่องยนต์ดีเซล

 

โฆษกของค่าย Nissan ประกาศอย่างเป็นทางการ ถึงการเตรียมยกเลิกการจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล ในยุโรป หลังยอดขายตกต่ำ เพราะผู้บริโภคต่างพากันวิตกกังวลว่า จะมีการขึ้นภาษี หรือการประกาศห้ามจากทางการ หลังจากหลายประเทศในยุโรปมีปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ เครื่องยนต์ดีเซล

Nissan จะยังคงจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลอีกซักระยะหนึ่ง แต่ในระยะยาว Nissan จะมุ่งไปทางด้านรถไฟฟ้า หรือรถยนต์ที่เกี่ยวเนื่อง “เช่นเดียวกับผู้ผลิตรายอื่นๆ และความต้องการทางด้านอุตสาหกรรม พบว่าความนิยมในเครื่องยนต์ดีเซล ตกต่ำลงอย่างมาก ในทันทีทันใดแต่เราจะยังไม่หยุดการขายโดยสิ้นเชิง” เอกสารจากโฆษก Nissan ระบุว่า “เพราะรถยนต์บางรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ยังคงได้รับความนิยมอยู่บ้าง โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ๆ ที่ถูกพัฒนาไปก้าวไกล และจะยังคงอยู่ในสายการผลิต” “ในยุโรป ยังคงมีจำหน่ายเครื่องยนต์ดีเซลอยู่ เราจะพยายามนำเสนอรถไฟฟ้า เพื่อหยุดการจำหน่ายเครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์นั่ง สำหรับการปรับโฉมรถในแต่ละรุ่นต่อไป” สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าวเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า Nissan ปลดคนงานที่โรงงานซันเดอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ ไปจำนวนหนึ่ง อันเนื่องมาจากยอดขายรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลในยุโรป ลดลงอย่างมาก ปีที่แล้ว Nissan ในยุโรป จำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลได้ 128,456 คัน หรือราว 16 % ของยอดรถยนต์ที่จำหน่ายอยู่ในยุโรปทั้งหมด ซึ่งมีรถเพื่อการพาณิชย์ทั้งรุ่น Navara และ NV200 ใน บาร์เซโลนา ทั้งนี้เพราะความนิยมใช้เชื้อเพลิงเป็นสิ่งที่สำคัญ สำหรับรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเบา อย่างรถกระบะ โดย Nissan จะพยายามลดสัดส่วนการจำหน่ายในส่วนนี้เช่นกัน ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Toyota ประกาศหยุดการจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล ในทวีปยุโรป ภายในสิ้นปีนี้ หลังจากมีสัดส่วนการจำหน่ายน้อยกว่า 10 % ของยอดการจำหน่ายในยุโรป โดยจะยังคงมีจำหน่ายเฉพาะ รถ เอสยูวี ขนาดใหญ่ อาทิ Land Cruiser, รถกระบะ Hilux และรถแวน Proace เท่านั้น ในอนาคต ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นอื่นๆ อาจเดินตามรอยของ Nissan และ Toyota  ทั้งนี้เพราะหลายประเทศในทวีปยุโรป เริ่มมีข้อกำหนดด้านมลภาวะที่เข้มข้น หลังจากเคยมีปัญหากับ Volkswagen Group ที่แจ้งค่าไอเสียผิดพลาด ทำให้เกิดการฟ้องร้องกันมากมาย ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ที่คาดว่าจะยกเลิกการจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลในยุโรป ต่อไปน่าจะเป็น Honda และ Mazda เพราะกลุ่มรถยนต์จากญี่ปุ่น เป็นกลุ่มที่เริ่มการจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล และทำการพัฒนามาโดยตลอด Stefan Bratzel กรรมการด้านยานยนต์ ของ University of Alied Sciences ในเยอรมนี กล่าว มีเหตุการณ์ในประเทศต่างๆ ในยุโรปมากมาย เริ่มจากการห้ามรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลในแถบชานเมืองของเยอรมนีเพื่อให้ปรับปรุงคุณภาพอากาศ และในปารีส ก็ประกาศห้ามรถยนต์ดีเซลที่เครื่องยนต์เก่าไปแล้ว แม้ว่าผู้จำหน่าย จะพยายามหาวิธีการ เพื่อสนับสนุนการขายรถยนต์เบนซินรุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะผู้บริโภคที่พักอาศัยอยู่ในแถบกวดขันเรื่องมลภาวะ