Porsche Taycan กับการก้าวเข้าสู่ยุคสมัยของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างมั่นคง และยั่งยืน

 

Porsche ทุ่มงบประมาณลงทุนสูงถึง 6,000,000,000 ยูโร พร้อมด้วยบุคลากรคุณภาพกว่า 1,200 ตำแหน่ง เตรียมพร้อมสำหรับการมาถึงของ Porsche Taycan รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เตรียมทำตลาดในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ยังปรับปรุงพัฒนาสายการผลิตใหม่ Porsche Production 4.0 เผยแพร่องค์ความรู้ให้กระจายทั่วถึงทุกภาคส่วนภายในองค์กร เพื่ออนาคตของยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าที่มั่นคง และยั่งยืน กับเป้าหมายภายในปี คศ. 2025 รถยนต์ในสายการผลิตของ Porsche กว่า 50 % จะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า

    สายการผลิตของ Porsche Taycan จะอยู่บนพื้นฐานของแนวคิด “Factory within a Factory” ในโรงงานหลักที่เมือง Zuffenhausen ผสมผสานข้อได้เปรียบระหว่างวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมอันรวดเร็ว และวิธีการผลิตแบบยืดหยุ่น เพิ่มจำนวนรอบในการปฏิบัติงานให้สูงขึ้น โดยที่ใช้พื้นที่ในการผลิตเท่าเดิม ด้วยแนวคิด “Smart , Green , Lean” สามารถควบคุมการใช้ทรัพยากรสำหรับการผลิตได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ก่อให้เกิดมลพิษจากสารประกอบคาร์บอน โดยมีเป้าหมายเพื่อการเป็นโรงงานที่ปราศจากผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยสมบูรณ์ในอนาคต     การผลิต Porsche Taycan ช่วยสร้างตำแหน่งงานใหม่กว่า 1,200 งาน พนักงานใหม่ทุกคนจะไม่เพียงทำหน้าที่ผลิต Taycan เท่านั้น แต่ยังรับบทบาทในการผลิตรถสปอร์ทรุ่นอื่นๆ อีกด้วย เป็นการผสมผสานระหว่างบุคลากรผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการผลิตรถสปอร์ทกับบุคลากรรุ่นใหม่ พร้อมศูนย์ฝึกอบรมที่เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์เพื่อการเรียนรู้ในรูปแบบดิจิทอลมากกว่า 1,200 ช่อง เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเนื้อหาหลักสูตรได้โดยอิสระ และตอบโจทย์ความต้องการของบุคลากรแต่ละคน นอกจากนี้พนักงานปัจจุบันสามารถเข้าร่วมการอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นส่วนหนึ่งของยุคสมัยแห่งยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าจาก Porsche     เทคโนโลยีด้านแบทเตอรีของ Porsche Taycan ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากรถแข่ง Porsche 919 ผู้พิชิตชัยชนะจากการแข่งขัน Le Mans มาแล้วหลายครั้ง ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีของระบบขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้า 800 โวลต์ สามารถชาร์จพลังงานในระยะเวลาอันสั้นสำหรับการเดินทางไกลเป็นระยะทางถึง 100 กม. (ทดสอบตาม มาตรฐาน NEDC) การถ่ายทอดข้อมูลความรู้ในลักษณะดังกล่าวจะได้รับการยกระดับขึ้นไปอีกขั้น หลังจากปอร์เช่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ Formula E ตั้งแต่ฤดูกาล 2019/2020     สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า คือ ระบบ Quick Charging ด้วยปริมาณความจุพลังงาน ไฟฟ้าสูงสุดกว่า 22 กิโลวัตต์ ผ่านระบบ Porsche Mobile Charger Connect ชาร์จประจุไฟฟ้าได้รวดเร็ว และสะดวกสบาย เป็นผลงานที่ถือกำเนิดจากการจับมือทำธุรกิจกับพันธมิตรชั้นนำอย่าง Ionity ร่วมดำเนินงานกับ BMW , Daimler และ Ford โดยในอนาคตทาง Porsche จะสร้างชุดชาร์จไฟฟ้าให้มีความแพร่หลายมากยิ่งขึ้น     ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ : AAS Auto Service