หลังจากประกาศความร่วมมือระหว่าง Volkswagen Group กับ Ford Motor Company ในงานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ 2019 ไปแล้ว ผู้สื่อข่าวก็เริ่มค้นหาว่า แต่ละค่ายจะพัฒนาหรือร่วมมือในการผลิตอย่างไรบ้าง เรื่องแรก น่าจะเป็นเรื่องรถตู้แวน ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ที่ทั้งคู่ต่างก็มีจำหน่ายอยู่ในตลาดเช่นกันความน่าจะเป็นไปได้ โดย Ford จะเป็นผู้ผลิตรถแวนขนาดใหญ่สำหรับ Volkswagen ในตุรกี ขณะที่ Volkswagen จะเป็นผู้ผลิตรถแวนขนาดเล็กในโปแลนด์ ให้กับ Ford โดยต่างก็จะร่วมมือในการพัฒนาในการผลิตร่วมกัน อันเนื่องจากขนาดของตลาดที่ยังค่อนข้างเล็ก ทำให้ไม่คุ้มค่าใช้จ่ายกับแต่ละค่าย ที่จะพัฒนาและผลิต และจำหน่ายด้วยตนเอง Herbet Diess ซีอีโอ Volkswagen Group ให้สัมภาษณ์ว่า โรงงาน Ford ในตุรกี ปัจจุบันผลิตรถแวน Transit อยู่ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับการผลิตรถแวน Transporter ปัจจุบันสายการผลิต Volkswagen Transporter T6 อยู่ที่ฮันโนเฟร์ เยอรมนี ซึ่งจะต้องย้ายไปผลิตที่ตุรกี และ Transpoter รุ่นต่อไป ก็จะใช้โครงสร้างพื้นฐานของ Ford รวมทั้งเครื่องยนต์ด้วยเช่นกัน โดยอยู่ในระหว่างการพูดคุยกับตัวแทนของสหภาพแรงงาน ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงนี้ สื่อเยอรมัน รายงานข่าวว่า Volkswagen อยากจะยังคงสายการผลิตรถแวนสำเร็จรูป สำหรับบรรทุกผู้โดยสาร เอาไว้ที่ฮันโนเฟร์ ส่วนรถตู้แวนเพื่อการพาณิชย์ จะโยกย้ายไปที่ตุรกี เพื่อให้สายการผลิตในฮันโนเฟร์ ได้ทำการปรับปรุง เพื่อการผลิตรถไฟฟ้า I.D.Buzz ในลักษณะของรถตู้แวน ที่น่าจะเริ่มสายการผลิตในปี 2565 โดยทั้ง 2 ค่าย เตรียมจะแนะนำรถแวนรุ่นใหม่ในปี 2566 เพื่อทดแทน Transit และ Transporter รุ่นปัจจุบัน Volkswagen วางแผนงานที่จะผลิตรถแวนขนาดกลางเพื่อทดแทน Caddy และ Transit Connect จากโรงงานในโปแลนด์ ซึ่งปัจจุบันผลิตรถแวนขนาดใหญ่ Crafter อยู่แล้ว โดยจะใช้เครื่องยนต์ของ Volkswagen ขณะที่ Ford จะผลิตรถกระบะขนาดกลาง เพื่อทดแทน Amarok ออกจำหน่ายคู่ไปพร้อมกับ Ford Ranger รุ่นใหม่ นับแต่ปี 2565 โดยจะขายในตลาดยุโรป, อเมริกาใต้ และแอฟริกา โดยยังไม่ได้ระบุโรงงานที่จะทำการผลิต ซึ่ง Ranger รุ่นปัจจุบัน สำหรับตลาดยุโรปนั้น ปัจจุบันผลิตในแอฟริกาใต้ ด้าน Thomas Sedran ซีอีโอ รถเพื่อการพาณิชย์ของ Volkswagen ระบุว่า ยังไม่มีการตัดสินใจที่แน่ชัดว่าจะผลิตรถรุ่นไหน ที่โรงงานใดบ้าง “แต่การผลิตในประเทศที่ค่าแรงไม่แพงจนเกินไปนัก และผลิตในปริมาณมาก ย่อมเป็นสิ่งที่ดี โดยทั้ง ตุรกี และโปแลนด์ ก็น่าจะทำได้ทั้ง 2 ประเทศ” เขากล่าว ทั้ง Volkswagen และ Ford ต่างก็พิจารณาถึงการประหยัดต้นทุน สำหรับการเป็นพันธมิตรในการผลิตรถแวน และรถกระบะ โดยเฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต "ต้นทุนในการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก สำหรับการผลิตระบบขับเคลื่อนรุ่นใหม่ ที่จะใช้กับรถไฟฟ้า รวมทั้งค่ามาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดมากขึ้น ยิ่งทำให้ต้นทุนสูงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้" Diess กล่าว เช่นเดียวกับด้านรถกระบะ ความต้องการรถกระบะเพิ่มสูงมากขึ้น โดยกำลังการผลิตทั้งหมดในอีก 5 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้น 12 % LMC Automotive บริษัทวิเคราะห์อุตสาหกรรมยานยนต์ ระบุ ขณะเดียวกัน ธุรกิจก็ต้องการผลกำไรที่เพิ่มเช่นกัน โดยเฉลี่ยแล้ว สำหรับ Ford รถตู้แวนที่จำหน่ายอยู่ในยุโรป จะมีผลกำไรราว 13 % โดย Jim Farley ผู้ดูแลรถยนต์ ฟอร์ด ในตลาดโลก เชื่อว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้ น่าจะทำผลกำไรได้เพิ่มขึ้นราวปีละ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับแต่ปี 2567 เมื่อผลิตภัณฑ์ของทั้ง Volkswagen และ Ford เริ่มออกจำหน่าย