Manager Magazine รายงานข่าวจากฟรังค์ฟวร์ท ระบุว่า ค่าย Daimler โดย Ola Kallenius ซึ่งกำลังจะรับตำแหน่ง CEO ในเดือนพฤษภาคมนี้ กำลังพิจารณาในการปรับลดค่าใช้จ่ายลงประมาณ 6,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 240 พันล้านบาท สำหรับผู้ผลิตรถยนต์นั่ง Mercedes-Benz และลดค่าใช้จ่าย 2,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 80 พันล้านบาท จากฝ่ายรถบรรทุก ภายในปี 2564นักข่าวประเมินว่า จะมีผู้ตกงานประมาณ 10,000 ตำแหน่ง จากการปรับลดค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ แม้ว่า Daimler จะปฏิเสธรายงานข่าวนี้ก็ตาม Daimler รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่าผลกำไรลดลงถึง 22 % จากปัญหาสงครามการค้า ค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นจากการพัฒนารถไฟฟ้า รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมยานยนต์เช่นกัน ขณะเดียวกัน สายการผลิตรถไฟฟ้า Mercedes-Benz ในเมือง Tuscaloosa รัฐอลาบามา ก็มีปัญหากับรถประมาณ 30,000 คัน ทำให้ต้องทำงานใหม่อีกครั้ง แม้ว่าค่าแรงจะแพงทีเดียว รวมทั้งความล่าช้าของผลิตภัณฑ์ด้วย Daimler วางแผนที่จะเป็นบริษัทปลอดคาร์บอนไดออกไซด์ ในปี 2583 ที่จะทำให้บรรดารถที่ผลิตออกจากโรงงาน, แผนงานการผลิต และวิธีการ รวมทั้งโครงสร้างของผู้ผลิตชิ้นส่วน ร่วมกันทำงานในทิศทางที่ไม่ผลิตสารคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่บรรยากาศ รถกระบะ Mercedes-Benz X-Class ที่ใช้พื้นฐานของรถกระบะ Nissan Navara ขณะที่ Renault ผลิต Smart Fortwo ในสายการผลิตเดียวกับ Renault Twingo ที่ประเทศสโลเวเนีย รวมทั้งโรงงานที่ใช้สายการผลิตร่วมกัน ระหว่าง Mercedes-Benz และ Infiniti ในประเทศเมกซิโก สำหรับความร่วมมือกับ Renault-Nissan จะค่อยๆ เงียบหายไป แม้ว่าจะเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนรถยนต์ เครื่องยนต์ รวมทั้งสายการผลิต เนื่องจากความสัมพันธ์ที่เป็นไปอย่างไม่ราบรื่นเท่าใดนัก นับตั้งแต่ Carlos Ghosn ถูกคุมขังที่ประเทศญี่ปุ่น ในข้อหาความผิดพลาดในการบริหารการเงิน
บทความแนะนำ