ต่อไปนี้ใครที่โดนใบสั่งจราจรจะเพิกเฉย ไม่ชำระ หรือแกล้งทำเป็นลืมไม่ได้ เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เชื่อมโยงข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบกเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าไม่แน่ใจสามารถตรวจสอบสถานะ ว่าตนเองค้างชำระค่าปรับหรือไม่ ได้ที่ https://ptm.police.go.th/eTicket/#/ขั้นตอนการลงทะเบียน 1. เข้าไปที่เวบไซท์ https://ptm.police.go.th/eTicket/#/ จากนั้นกดปุ่ม “ลงทะเบียนใช้งาน” 2. กรอกข้อมูลส่วนตัว ให้ถูกต้องตรงตามบัตรประชาชน โดย Laser ID ดูได้จากด้านหลังบัตรประชาชนแบบสมาร์ทคาร์ด เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้วกดปุ่ม “ถัดไป” 3. เลือกรูปแบบข้อมูลที่จะใช้ในการลงทะเบียน คือ ข้อมูลรถที่ครอบครอง หรือ ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่ อย่างใดอย่างหนึ่ง จากนั้นกดปุ่ม “ถัดไป” 4. กรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน (จากตัวอย่างเป็นการยืนยันตัวตนเพื่อขอ Username & Password โดยใช้ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่) จากนั้น กดปุ่ม “ถัดไป” 5. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอีกครั้ง จากนั้นระบุอี-เมลที่จะใช้ลงทะเบียน (กรอกอีเมลที่ใช้จริง เพราะระบบจะส่งรหัสยืนยันไปที่อีเมล) จากนั้นกดปุ่ม “ถัดไป” 6. ระบบจะแจ้งเตือนว่ามีการส่งรหัสยืนยันไปที่อี-เมลแล้ว ให้เข้าไปตรวจสอบ (ถ้าไม่ได้รับให้รอสักครู่ หรือตรวจสอบที่ อี-เมลขยะ หรือ Junk Mail) 7. กรอกรหัส 6 หลัก ที่ได้เพื่อยืนยันข้อมูล 8. ตั้งรหัสผ่านที่ต้องการ จากนั้นกดปุ่ม “ลงทะเบียน” 9. อ่านเงื่อนไขการใช้งาน จากนั้น กดเลือกยอมรับข้อความข้างต้น และกดปุ่มยืนยัน 10. การลงทะเบียนเสร็จสมบูรณ์ จากนั้นเข้าไปที่เวบไซท์ https://ptm.police.go.th/eTicket/#/ 11. เข้าระบบ โดยระบุเลขประจำตัวประชาชน และรหัสผ่านที่ลงทะเบียนแล้ว การชำระค่าปรับใบสั่งนั้นสามารถชำระได้หลากหลายช่องทาง ได้แก่ สถานีตำรวจทุกแห่งทั่วประเทศ ธนาคารกรุงไทย, ตู้ ATM กรุงไทย, แอพพลิเคชัน KrungThai NEXT, ตู้บุญเติม, และไปรษณีย์ไทยทุกสาขา โดยมีกำหนดชำระภายใน 30 วันนับจากได้รับแจ้งจากนายทะเบียน