SAIC Motor รุกขยายตลาดโลก ภายใต้โครงการ BRI

SAIC Motor ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน รุกตลาดทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ภายใต้โครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ในไตรมาสแรกของปี 2562 SAIC Motor ยังครองอันดับ 1 ในประเทศจีนเมื่อประเมินจากยอดการส่งออกรถยนต์และยอดขายรถยนต์ในต่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของตลาดต่างประเทศสำหรับผู้ผลิตรถยนต์รายนี้   ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของจีน ระบุว่า จีนส่งออกรถยนต์ประมาณ 1.041 ล้านคัน ในปี 2561 เพิ่มขึ้น 16.8 % เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่รถยนต์จากบริษัท SAIC Motor ในเซี่ยงไฮ้ มียอดส่งออกรถยนต์ และยอดจำหน่ายในต่างประเทศอยู่ที่ 277,000 คัน เพิ่มขึ้น 62.5 % เมื่อเทียบเป็นรายปี ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของจีน   ยอดการส่งออก และยอดขายในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนี้ เป็นผลมาจากการมุ่งเน้นกลยุทธ์ที่มีความเป็นสากล ตลอดจนเทคโนโลยี Internet of Vehicle (IoV) ปัจจุบัน SAIC Motor ได้จัดตั้งฐานการผลิตรถยนต์ในต่างประเทศแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และอินเดีย ทั้งยังมีศูนย์นวัตกรรมและการวิจัยและพัฒนาอีก 3 แห่งในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และอิสราเอล   นอกจากนี้ SAIC Motor ยังประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีใน 6 ตลาดด้วยกัน ได้แก่ไทย สหราชอาณาจักร อินโดนีเซีย ชิลี ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ และตะวันออกกลาง โดยทำยอดขายทะลุหลัก 10,000 คัน ในตลาดแต่ละแห่ง ขณะเดียวกัน SAIC Motor ให้ความสนใจต่อเทคโนโลยี IOV เป็นอันดับ 1 ขณะรุกตลาดทั่วโลก   MG ZS หนึ่งในบแรนด์รถยนต์เชื่อมต่ออินเตอร์เนทของทางบริษัท ที่มาพร้อมกับระบบเชื่อมต่อโครงข่ายอัจฉริยะอย่าง "i-SMART" ได้กลายเป็นรถที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย   เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 บริษัทสาขาอินโดนีเซียในเครือ SAIC Motor ได้เปิดตัวรถรุ่น Almaz ในอินโดนีเซีย ซึ่งรองรับการเชื่อมต่ออัจฉริยะและฟังค์ชันมัลทิมีเดียอัจฉริยะอันก้าวล้ำ   SAIC Motor ประสบความสำเร็จในตลาดอินเดียด้วยเช่นกัน หลังจากเปิดตัวรถยนต์เชื่อมต่ออินเตอร์เนท รุ่น MG Hector และนับจนถึงวันที่ 29 กันยายน ซึ่งเป็นเวลา 3 เดือนหลังเปิดตัวรถยนต์รุ่นดังกล่าว ฐานการผลิตที่อินเดียของค่ายรถยนต์จีนรายนี้ ได้รับคำสั่งซื้อไปแล้วถึง 31,000 คัน โดยมีการส่งมอบรถใหม่ไปแล้ว 7,000 คัน   นอกจากนี้ SAIC Motor ยังมุ่งเน้นตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ หรือ NEV ด้วย โดยได้เริ่มต้นทำแคมเปญเพื่อให้ลูกค้าสั่งจองรถ NEV รุ่น SUV MG EZS แล้วในสหราชอาณาจักร และจะเปิดตัวรถรุ่นดังกล่าวในหลายภูมิภาคทั่วโลก เช่น สหราชอาณาจักร เยอรมนี และออสเตรเลีย