ทดลองขับ(formula)
ทดลองขับ Nissan Almera .. รุ่นใหม่มาแรง แซงรุ่นเดิมทุกด้าน !
หลังจากที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา รวมถึงการตอบรับที่น่าพอใจในงาน Thailand International Motor Expo 2019 ในที่สุดทีมงานของเราก็มีโอกาสมาทดลองขับ Nissan Almera รุ่นใหม่ล่าสุด กับการขับขี่บนถนนจริง เส้นทางหลากหลาย ทั้งเนินเขา โค้งต่อเนื่อง และการใช้ความเร็วสูง มาดูกันว่า อีโค คาร์ รุ่นใหม่ กับขุมพลังบลอคใหม่ จะรับมือได้มากน้อยแค่ไหน
นอกจากเรื่องเส้นสายที่มีการเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง มิติตัวถังของ Almera รุ่นนี้ถูกพัฒนารอบด้านเช่นกัน โดย Almera รุ่นใหม่ มีความยาว 4,495 มม. (+70 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้) ระยะฐานล้อ 2,620 มม. (+20 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้) ความกว้าง 1,740 มม. (+45 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้) สิ่งที่ลดลง คือ ความสูงของตัวรถที่ 1,460 มม. (-40 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้) แต่เป็นผลดี เพราะตัวรถมีความปราดเปรียวยิ่งขึ้น
ในช่วงที่เส้นทางปลอดโปร่ง และปลอดภัย บนถนน 4 เลน อัตราเร่งของ Almera ทำได้ดีกว่าเดิมมาก การไต่ความเร็วจากช่วงความเร็วต่ำจนถึงช่วง 100 กม./ชม. ทำได้ในระยะเวลาอันสั้น (และไม่ต้องกดคันเร่งสุดด้วย) และยังสามารถเพิ่มความเร็วถึงช่วง 140-150 กม./ชม. ได้สบายๆ แม้กำลังสูงสุดจะอยู่ที่ 100 แรงม้าถ้วน มีอัตราเร่งในช่วงทางเรียบที่ทันใจ (เราสังเกตว่าช่วงความเร็ว 120 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 2,400 รตน.) นอกจากนี้ ลักษณะของแรงบิดที่มีการทำงานคล้ายเครื่องยนต์ดีเซล ไม่ต้องใช้รอบเครื่องยนต์สูง ตัวรถสามารถแล่นขึ้นทางลาดชันได้สบายๆ เป็นอีกจุดที่น่าสนใจสำหรับรถยนต์ อีโค คาร์ โดยเฉพาะคนที่ใช้งานในลักษณะทางไกล ผ่านเส้นทางขึ้น/ลงเขา Almera รุ่นนี้สามารถไปได้ไม่ยากเย็น
นอกจากนี้การขับขี่ช่วงความเร็วต่ำ (เส้นทางบางช่วงผ่านตัวเมือง และเขตชุมชน) การควบคุมคันเร่งทำได้ง่ายดาย การแล่นที่ความเร็วคงที่มีความเรียบเนียนอย่างน่าพอใจ จนบางครั้งแทบจะลืมไปเลยว่า นี่คือ เครื่องยนต์แบบพ่วงเทอร์โบ และเป็นอีกครั้งที่แรงบิดของเครื่องยนต์ ทำให้การขับขี่มีความไหลลื่นต่อเนื่อง ตัวรถไม่มีอาการอืด หรือลักษณะแบบ Turbo Lag ให้เห็น จัดเป็นขุมพลังที่มีความยืดหยุ่นดีมาก เหมาะสมทั้งการขับขี่ในตัวเมือง และการขับขี่บนทางไกล
คุณสมบัติการเป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ยังส่งผลดีต่ออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง แม้เราไม่ได้วัดตัวเลขออกมาตรงๆ แต่ตลอดการทดลองขับ บนเส้นทางร่วม 220 กม. บนสภาพการจราจรบนถนนจริง มีการทดลองอัตราเร่งบางช่วง เปิดระบบปรับอากาศ และมีผู้โดยสาร 2 คน เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง พบว่าน้ำมันยังคงเหลืออีกกว่าครึ่งถัง ตัวเลขเฉลี่ยที่ทางผู้ผลิตระบุมาที่ 23.3 กม./ลิตร ช่วยตอกย้ำคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของ อีโค คาร์ เฟส 2 นั่นคือ การประหยัดเชื้อเพลิง
จุดที่น่าสนใจ สำหรับรถยนต์ระดับราคา 6 แสนบาท แต่ติดตั้งจอแสดงผลแบบดิจิทอลสำหรับแผงมาตรวัดฝั่งซ้าย (ขณะที่ฝั่งขวาเป็นมาตรวัดความเร็วแบบแอนาลอคตามปกติ) สามารถเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบความบันเทิงที่กำลังใช้งาน อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ (เปลี่ยนโหมดการแสดงผลได้ที่ปุ่มมัลทิฟังค์ชันบนก้านพวงมาลัยฝั่งซ้าย) อาจดูเป็นลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ แต่ปกติแล้วมาตรวัดแบบดิจิทอล มักพบในรถยนต์ราคาหลายล้านบาท การมีติดตั้งในรถยนต์ อีโค คาร์ ช่วยเพิ่มสีสันของการใช้งานกับรถรุ่นนี้ได้ไม่น้อย
ในแง่ของความกว้างขวาง และประโยชน์ใช้สอย Almera รุ่นนี้รองรับผู้โดยสาร 4-5 คนได้สบายๆ ด้านหน้านั่งได้สบาย ช่วงขาไม่โดนส่วนคอนโซลเกียร์เบียดเนื้อที่ ขณะที่ด้านหลังมีความกว้างขวางที่น่าพอใจเช่นกัน รูปทรงของเบาะทำมุมลาดเอนมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้เล็กน้อย มีความกว้างของเบาะมากขึ้น เพื่อความผ่อนคลายของผู้โดยสาร แต่พนักพิงศีรษะของเบาะหลังไม่สามารถปรับระดับสูง/ต่ำได้ และมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ข้อดีที่ยังคงถูกรักษาเอาไว้ คือ พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายที่เหลือเฟือ สามารถจุของได้มากไม่แพ้รุ่นก่อนหน้านี้ แต่ปรับปรุงให้การขนสัมภาระขึ้น/ลงมีความสะดวกยิ่งขึ้น (แม้พนักพิงของเบาะด้านหลังจะพับเก็บลงมาไม่ได้)
Nissan Almera
ตารางข้อมูลจำเพาะของ Nissan Almera (คลิคที่รูปเพื่อดูแบบเต็ม)


- รูปทรงเข้ม ขยายมิติตัวถัง




- เข้าสู่การขับขี่บนถนนจริง








- ระบบรองรับที่ลงตัว


- ห้องโดยสารดูดี มีระดับกว่าเดิม







- ออพชันระบบความปลอดภัยเกินตัว


- สรุป: อีโค คาร์ ที่โดดเด่นเรื่องความคุ้มค่า


- รุ่น S ราคา 499,000 บาท
- รุ่น E ราคา 509,000 บาท
- รุ่น EL ราคา 559,000 บาท
- รุ่น V ราคา 599,000 บาท
- รุ่น VL ราคา 639,000 บาท



ABOUT THE AUTHOR

ภูเขม หน่อสวรรค์
ภาพโดย : Nissan Thailandคอลัมน์ Online : ทดลองขับ(formula)