แหล่งข่าวจากสหราชอาณาจักร ระบุว่า Boris Johnson นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมประชุมยูเอน เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (United Nations Climate Conference หรือ COP26) ในเดือนพฤศจิกายนนี้ และเตรียมร่างประกาศแผนงาน การสั่งห้ามจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล ในอนาคตแถลงการณ์ของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งร่างประกาศแผนงานดังกล่าว ระบุว่า ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานการขนส่ง และสำนักงานธุรกิจ แล้วชี้แจงว่า แผนงานการสั่งห้ามจำหน่ายดังกล่าว กำหนดในปี 2578 โดยอนุมัติให้มีการจำหน่ายรถยนต์ใหม่เฉพาะรถไฟฟ้า หรือฟิวล์ เซลล์ ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน เท่านั้น แต่ในแถลงการณ์ไม่ได้ระบุถึง รถไฮบริด-ไฟฟ้า โดยที่สำนักข่าวในอังกฤษ ส่วนใหญ่เชื่อว่าจะมีการสั่งห้ามด้วยเช่นกัน อันที่จริงสหราชอาณาจักร ประกาศแผนงานปัจจุบัน เอาไว้ว่า ข้อห้ามนี้ เดิมกำหนดจะสั่งห้ามนับแต่ปี 2583 ซึ่งรวมทั้งรถยนต์เครื่องยนต์ไฮบริด และไฮบริด-ไฟฟ้า เข้าไว้ด้วย แต่ยังคงสามารถจำหน่ายต่อได้ หากสามารถผ่านค่ามาตรฐานไอเสียที่กำหนด แต่กระนั้น แผนงานทั้งสองยังคงแนวทางการชักจูงให้เจ้าของรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นเก่าๆ เข้าร่วมโครงการเปลี่ยนรถใหม่ ในห้วงระยะเวลาก่อนการบังคับใช้ข้อกำหนดใหม่ แต่ไม่ได้ระบุถึงรถยนต์เครื่องยนต์ไฮบริด และไฮบริด-ไฟฟ้า ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในอังกฤษ มาเป็นเวลานาน ในขณะที่ผู้ผลิตหลายราย ก็ยังคงมีแผนงานในการผลิตอยู่ในอนาคต แหล่งข่าวระบุว่า รถใหม่ที่เป็นรถไฟฟ้า มียอดขายในปี 2561 เพียง 1.6 % ขณะที่ยอดขายของรถเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล รวมกันแล้วมากกว่า 70 % ของยอดขายรวม โดยรถไฟฟ้าส่วนใหญ่ ได้รับความนิยมในกรุงลอนดอน ทั้งนี้เพราะจะได้รับการยกเว้นค่าผ่านทางเข้าไปในเขตการจราจรคับคั่ง ขณะที่ความนิยมของรถไฮบริด เริ่มตกต่ำมาตั้งแต่ปี 2559 Grant Shapps เลขานุการด้านการขนส่ง กล่าวว่า “เราต้องการเร่งการบังคับใช้ให้เร็วขึ้น แม้ว่าจะกำหนดห้ามการจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน และดีเซลเอาไว้แล้ว เพื่อเป็นการต่อสู้กับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งลดมลภาวะจากค่าไอเสียด้วยเช่นกัน”