5 เทคนิค ทำความสะอาดรถ ให้ปลอดภัยจาก COVID-19

COVID-19 สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลกตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยไวรัสตัวการสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย ของผู้ป่วย จึงมีความเสี่ยงที่คุณจะติดเชื้อจากรถได้ทุกเมื่อ "autoinfo.co.th"  ขอแนะนำวิธีดูแลทำความสะอาดรถยนต์ เพื่อป้องกัน และยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคนี้  

  ทำความสะอาดภายนอก เราไม่รู้ว่าใครมาสัมผัสรถเราบ้างขณะที่จอดอยู่ จึงจำเป็นต้องทำความสะอาดรถอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกำจัดเชื้อไวรัสที่อาจติดสะสมอยู่ ด้วยการเช็ดทำความสะอาดบริเวณพื้นผิวที่มีโอกาสถูกสัมผัสบ่อยๆ โดยต้องสวมถุงมือแบบใช้แล้วทิ้ง เมื่อสัมผัสกับจุดเสี่ยง เช่น มือจับประตู ฝาปิดถังน้ำมัน และกระจกข้าง นอกจากนี้ การจอดรถตากแดดก็ช่วยลดเชื้อได้     ทำความสะอาดภายใน ภายในห้องโดยสารต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค และไวรัส อีกทั้งเป็นสถานที่ปิด อากาศหมุนเวียนจำกัด การสัมผัสบนอุปกรณ์ต่างๆ มีความเสี่ยงติดเชื้อโรคสูง เราสามารถทำความสะอาดง่ายๆ โดยใช้สบู่ผสมกับน้ำ หรือใช้น้ำยาเช็ดตามอุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสบ่อยๆ เช่น ประตู พวงมาลัย หัวเกียร์ ช่องแอร์ เข็มขัดนิรภัย คันเบรคมือ เป็นต้น จากนั้นเช็ดออกให้แห้ง หลีกเลี่ยงการใช้สารฟอกขาว แอลกอฮอล เพราะสารเหล่านี้จะส่งผลให้พื้นผิว หรือวัสดุต่างๆ เกิดรอยด่าง และเสื่อมสภาพ อีกทั้งไม่ควรเช็ดแบบเปียกชุ่ม เพราะจะทำให้เกิดอัตรายกับระบบวงจรไฟฟ้า หรือก่อให้เกิดสนิมกับวัสดุเหล็กได้ นอกจากนี้ การทำความสะอาดภายในรถ ยังสามารถทำได้โดยนำรถไปรับบริการอบโอโซน เพื่อฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรียที่สะสมอยู่ และขจัดกลิ่นเหม็นอับชื้น     ทำความสะอาดเบาะนั่ง และพรมปูพื้น จุดสะสมเชื้อไวรัสที่ไม่ควรมองข้าม คือ เบาะนั่ง และพรมปูพื้น ให้นำพรมออกมาเคาะฝุ่น และซัก สำหรับเบาะนั่งแบบหุ้มหนังให้ใช้สบู่ผสมน้ำ หรือโฟมเช็ดทำความสะอาดเหมือนส่วนอื่นๆ ภายในรถ ส่วนเบาะผ้าจะมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเมื่อทำความสะอาดแล้ว ให้ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคตามอีกที และหันหน้าผึ่งแดดไว้จนแห้งสนิท     ใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อ ภายในรถเป็นสถานที่ปิดและมีพื้นที่จำกัด การฉีดสเปรย์จึงเป็นวิธีกำจัดเชื้อโรคในอากาศได้เป็นอย่างดี แต่ต้องไม่ใช้บ่อยจนเกินไป เพราะอาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจของผู้ใช้รถได้     ล้างมือทุกครั้งก่อนขับรถ การล้างมือด้วยสบู่และน้ำ เป็นวิธีป้องกันเชื้อไวรัสได้ดีที่สุด เพราะเชื้อสามารถอาศัยอยู่บนร่างกาย และวัสดุต่างๆ ได้นานหลายวัน อีกทั้งมือเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถตลอดเวลา ฉะนั้น เพื่อลดการแพร่กระจาย หรือการสะสมของเชื้อไวรัส ควรล้างมือให้สะอาดก่อนเข้าไปภายในตัวรถทุกครั้ง