รายงานข่าวจากประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า Shinzo Abe นายกรัฐมนตรี ประเทศญี่ปุ่น ประกาศภาวะฉุกเฉินร้ายแรงในประเทศญี่ปุ่น ในภูมิภาคของประเทศ ซึ่งมี โตเกียว, คานากาวา, ชิบะ และ ไซตามะ ในคันโต, โอซากา ในคันไซ และ ฟูกูโอกะ ในคิวชู เมื่อไม่นานนี้ขณะเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่น ตระหนักดีว่า การระบาดของ COVID-19 ยังคงมีต่อเนื่อง จึงได้พยายามทุกวิถีทาง ที่จะจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อสนับสนุนการรักษาผู้ป่วยจากไวรัสนี้ หลังจากมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 4,700 ราย รัฐบาลญี่ปุ่น ได้ร้องขอภาคอุตสาหกรรมของประเทศ ในการจัดหาอุปกรณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งมีไม่เพียงพอกับความต้องการ ทั้งในญี่ปุ่น และประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยที่ในญี่ปุ่นปัจจุบัน มีใช้งานอยู่เพียง 8,000 เครื่อง เท่านั้น ต้องการให้มีสำรองให้ถึง 15,000 เครื่อง ทั้งจากการผลิตในประเทศ หรือจัดหาจากต่างประเทศให้ได้ ค่าย Toyota ตอบรับคำขอจากนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าแรก โดย นายกรัฐมนตรี ออกอากาศทางโทรทัศน์ ระบุว่า “Toyota และบริษัทในเครือ ยินดีที่จะร่วมมือในการผลิตเครื่องช่วยหายใจ ให้ได้ราว 20,000 เครื่อง” ขณะเดียวกัน Toyota ออกแถลงการณ์ ระบุว่า “เพื่อตอบรับคำขอของรัฐบาลญี่ปุ่น ผ่านสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ประเทศญี่ปุ่น (Japan Automobile Manufacturers Association หรือ JAMA) ในความต้องการเครื่องช่วยหายใจ และอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ Toyota พร้อมที่จะร่วมมือกับผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อนำความรู้ความชำนาญในระบบการผลิต เข้ามาประยุกต์ เพื่อช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต โดยบริษัทฯ ได้จัดตั้งทีมงาน เพื่อศึกษา และรับฟังคำแนะนำจากผู้ผลิตทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำการผลิตให้ได้ตามมาตรฐานที่ต้องการ” Toyota เตรียมการผลิตเครื่องช่วยหายใจที่โรงงาน Teiho รวมทั้งเตรียมการฉีดพลาสติคเพื่อจัดทำหน้ากากนิรภัยป้องกันใบหน้า พร้อมด้วยระบบการพิมพ์ 3D โดยจะเริ่มผลิตได้ราว 500-600 เครื่อง/สัปดาห์ รวมทั้งจะให้ผู้ผลิตชิ้นส่วน เข้ามาร่วมในการผลิตครั้งนี้ด้วย