สอท. ระบุหากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ยืดเยื้อออกไปถึงเดือนกันยายน 2563 อาจส่งผลกระทบหนักทั้งเป้าการผลิต และการส่งออกรถยนต์ในปีนี้ ที่ต้องปรับตัวลดลงถึง 50 % เหลือ 1 ล้านคัน คนตกงานอีก 750,000 คนกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ สอท เปิดเผยว่า จากปัญหาเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวลง รวมถึงผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และแผนการหยุดผลิตรถยนต์ของแต่ละค่าย ส่งผลให้เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยมียอดการผลิตรถยนต์รวมทั้งสิ้น 146,812 คัน ลดลงจากเดิม 26.16 % ขณะที่จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-มีนาคมที่ผ่านมา มีจำนวน 453,682 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 19.2 % ขณะที่ยอดขายรถยนต์เหลือเพียง 60,105 คัน ลดลง 41.74 % โดย 3 เดือนแรกของปีนี้ มียอดขาย 200,064 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 24.09 % ในส่วนการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 89,795 คัน ลดลง 23.71 % ทำให้การส่งออก 3 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 250,281 คัน จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์เตรียมปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในปีนี้ หากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ยังยืดเยื้อถึงเดือนมิถุนายน โดยเป้าหมายการผลิตจะลดลง 30 % เหลือ 1.4 ล้านคัน แบ่งเป็นขายในประเทศ 700,000 คัน ส่งออก 700,000 คัน แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อจนถึงเดือนกันยายน 2563 จะลดลงเหลือเพียง 1 ล้านคัน หรือปรับลดลงไป 50 % จากเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ 2 ล้านคัน แบ่งเป็นขายในประเทศ 500,000 คัน ส่งออก 500,000 คัน ทั้งนี้อาจส่งผลทำให้ภาคการผลิตชิ้นส่วน และยานยนต์ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งช่าง แรงงานในโรงงาน พนักงานในโชว์รูม รวมทุกส่วนในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์กว่า 750,000 คน อาจต้องถูกเลิกจ้างชั่วคราว จนกว่าจะกลับมาผลิตใหม่ โดยปัจจุบันค่ายรถยนต์ต่างหยุดผลิตชั่วคราว เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ปัจจุบัน