รายงานข่าวจากประเทศเกาหลีใต้ ระบุว่า กรุงโซล กำลังวางแผนงานที่จะกำจัดรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลออกจากถนน และการขนส่งโดยรถโดยสาร ภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าจะใช้รถพลังงานไฟฟ้า และพลังงานไฮโดรเจนมาทดแทนปัจจุบัน มีรถโดยสารสาธารณะจำนวน 5,153 คัน ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ในการขับเคลื่อนซึ่งจะต้องเปลี่ยนไปใช้พลังงานชนิดอื่น โดยรถบัสไฟฟ้า และพลังงานไฮโดรเจน มีกำหนดเริ่มใช้งานในปี 2568 Hwang Bo-yeon หัวหน้าฝ่ายการขนส่งภายในเมือง กล่าวว่า “เราคาดหวังว่าการยกเลิกการใช้เครื่องยนต์ดีเซลในรถโดยสารสาธารณะสำหรับกรุงโซล สามารถลดการปล่อยมลภาวะ และหันมาใช้รถยนต์ที่ปลอดมลภาวะอย่างรถไฟฟ้า หรือพลังงานไฮโดรเจน ได้อย่างดี” ขณะที่ รัฐบาลเกาหลีใต้ เตรียมที่จะสนับสนุนโครงสร้างเพื่อการจัดหาพลังงานไฮโดรเจน และสถานีบริการเชื้อเพลิง สำหรับใช้ในรถสาธารณะเหล่านี้ เริ่มมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เทศบาลในกรุงโซล ประกาศห้ามการสั่งซื้อรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล ที่ใช้ในงานราชการ พร้อมประกาศแผนงานเพื่อจัดหารถที่ปลอดมลภาวะ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาในบางส่วน อาทิ รถยนต์ที่ใช้ในกิจการดับเพลิง, รถพยาบาล และรถทำความสะอาดถนน ซึ่งทางเทศบาลกรุงโซล ประกาศว่าจะคุยกับผู้ผลิตรถที่ใช้ในกิจการพิเศษต่างๆ เพื่อการพัฒนาไปใช้พลังงานชนิดอื่นทดแทน กรุงโซล มีโครงการที่จะเปลี่ยนรถโดยสารสาธารณะ และเมื่อปี 2558 ก็เพิ่งปรับจากรถบัสเครื่องยนต์ดีเซล เป็นรถที่ใช้พลังงานจากแกสธรรมชาติ รวมทั้งเทศบาลกรุงโซล ก็ผลักดันผู้ให้บริการแทกซี โดยสนับสนุนเงินสำหรับรถแทกซี 700 คัน ซึ่งทำให้ผู้ผลิตรถไฟฟ้าจากต่างประเทศ สามารถจำหน่ายเป็นแทกซีได้เป็นครั้งแรก เทศบาลกรุงโซล เตรียมการโฆษณาให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงแผนงานต่างๆ เพื่อเป็นการปรับปรุงคุณภาพอากาศ รวมทั้งมีรถยนต์ที่ปราศจากมลภาวะออกให้ใช้บริการซึ่งเป็นรถสาธารณะเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเตรียมที่จะมอบเงินสนับสนุนการทำลายรถเครื่องยนต์ดีเซล เช่นเดียวกับที่รัฐบาลเกาหลีใต้ เพิ่งประกาศยืดระยะเวลาการสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าออกไป จากข้อมูลระบุว่า กรุงโซล มีการใช้รถเครื่องยนต์ดีเซล มากถึง 64.6 % ซึ่ง 0.9 % อยู่ในระบบการขนส่งโดยสารสาธารณะ
บทความแนะนำ