ชื่อ Bollinger อาจจะยังใหม่ต่อวงการรถยนต์ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งเปิดตัวรถยนต์ทรงกล่องแบบโบราณ ท้ังแบบ เอสยูวี และกระบะ ออกสู่ตลาดเมื่อไม่นานมานี้ และกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนารถใน คลาสส์ 3 หรือรถแวนเพื่อการขนส่ง ด้วยโครงสร้างระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ในชื่อ E-Chassis ที่จะช่วยให้สามารถทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำรถแวนไฟฟ้า ในชื่อ Deliver-E ขับเคลื่อนล้อหน้า โดยจะมีชุดแบทเตอรีให้เลือก 5 ขนาด ตามแต่ความต้องการในการใช้งาน Bollinger Deliver-E มาในรูปทรงลูกธนู ที่มีส่วนโค้งรับกระแสลมด้านหน้า และกว้างขึ้นทางด้านหลัง แม้ว่าจะสังเกตไม่ค่อยถนัดก็ตาม โดยออกแบบมาเพื่อให้ผ่านข้อบังคับรถในคลาสส์ 2 B, 3, 4 และ 5 ตามมาตรฐานสหรัฐอเมริกา และยังมีรถที่มีระยะช่วงล้อแตกต่างกัน นอกเหนือจากชุดแบทเตอรีขนาดต่างๆ จึงทำให้มีระดับราคาที่หลากหลายให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้งาน ความจุของชุดแบทเตอรี มีตั้งแต่ 70 กิโลวัตต์ชั่วโมง, 105 กิโลวัตต์ชั่วโมง, 140 กิโลวัตต์ชั่วโมง, 175 กิโลวัตต์ชั่วโมง และ 210 กิโลวัตต์ชั่วโมง พื้นของรถแวนเพื่อการพาณิชย์ Deliver-E มีความสูงเพียง 457 มม. ช่วยให้การบรรทุกทำได้สะดวกมากขึ้น และบรรจุของได้หลากหลายประเภท โครงสร้างแชสซีส์ ทำด้วยเหล็กแรงดึงสูง พร้อมระบบรองรับที่แข็งแรง ไม่ต่ำลงแม้ขณะบรรทุกเต็มพิกัด นอกจากนี้ Bollinger ยังต้องเตรียมรับมือกับคู่ต่อสู้อีกหลายค่าย นับตั้งแต่ในปี 2573 เริ่มจาก Rivian มีกำหนดส่งมอบรถแวนไฟฟ้า 100,000 คัน สำหรับ Amazon รวมทั้งมีข่าวว่ากำลังซุ่มพัฒนารถแวนไฟฟ้า อีกหลายประเภท ส่วนค่าย Mercedes-Benz ก็อยู่ระหว่างพัฒนา Sprinter พลังไฟฟ้า สำหรับตลาดรถยุโรป ขณะที่ Ford ก็มีแผนแนะนำรถแวน Transit พลังไฟฟ้า ในปี 2565 เช่นเดียวกับ Tesla ก็พัฒนารถแวนไฟฟ้า 12 ที่นั่ง ที่จะนำมาใช้ในการเดินทางใต้ดินด้วยเช่นกัน